กรณีการตายของนางสาวพราวรวี หรือน้องโยโกะ ซึ่งเสียชีวิตอยู่ภายในคอนโดแห่งหนึ่งย่านคลองตัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2566 ลักษณะมีน้ำลายฟูมปาก และตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจพบขวดไซยาไนด์ อยู่ภายในตู้เซฟของห้องดังกล่าว จนกระทั่งนำไปสู่การตรวจสอบ และพบว่าเมื่อวานนี้ (13 ม.ค. 2567) รายงานผลชันสูตรศพระบุว่า เสียชีวิตจากไซยาไนด์ที่ตรวจพบในเลือด และยังพบอวัยวะส่วนอื่นอีกหลายส่วนเสียหาย จึงเชื่อได้ว่าผู้เสียชีวิตคิดสั้นฆ่าตัวตาย
แต่ทางด้านของญาติไม่ปักใจเชื่อ เพราะเนื่องจากผู้ตายไม่ได้มีอาการคิดสั้นหรือจะทำร้ายตัวเอง แต่สงสัยในตัวของแฟนหนุ่มและรวมถึงไทม์ไลน์ของกล้องวงจรปิดในคอนโดที่หายไป ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ทีมข่าวได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโดที่เกิดเหตุช่วงเดือน ต.ค. - พ.ย. ปี 66 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ช่วงก่อนและหลังที่จะพบศพของโยโกะอยู่ภายในคอนโด โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ ในวันที่ 30 ต.ค. เวลาประมาณ 23.46 น. จับภาพของโยโกะเดินออกจากห้องผ่านกล้องวงจรปิดชั้น 6 มุ่งหน้าไปที่ลิฟต์และลงไปที่ชั้นล่างของล็อบบี้ เพื่อไปเจอกับนายโป้ง แฟนหนุ่มที่มาจอดรถรอรับอยู่ตามที่ญาติให้ข้อมูล แต่ไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพตอนขึ้นรถไปด้วยกัน
จากนั้น กล้องวงจรปิดของคอนโดดังกล่าวจับภาพลิฟต์โดยสารบริเวณชั้น 1 เห็นโยโกะเดินเข้าประตูคีย์การ์ดเพื่อมากดลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้นบนของคอนโด แต่ไม่รู้ว่ามีการกดลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้นไหน ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นเจ้าตัวเดินก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ และมายืนพิงที่หน้าลิฟต์ ระหว่างรอที่ลิฟต์ลงมารับ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ในวันที่ 31 ต.ค. เวลา 06.43 น.
และกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้อง ชั้น 6 จับภาพวันที่ 31 ต.ค. เวลาประมาณ 07.20 น. เห็นเจ้าตัวยังคงเดินก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ถือกระเป๋า เดินเข้าไปที่ห้อง แต่พบว่าหลังจากที่เจ้าตัวกลับมาที่คอนโดที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ตอน 06:43 น. ไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวไปที่จุดใดของคอนโด เพราะหลังจากที่ภาพจับภาพว่าขึ้นลิฟต์ไปแล้ว เจ้าตัวหายไปประมาณ 37 นาที เพราะมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพที่บริเวณชั้น 6 ได้เวลาต่อมาที่ 07:20 น.
จากนั้น กล้องวงจรปิดของคอนโดก็มีลักษณะช่วงเวลาที่หายไป และกล้องบางตัวดับ รวมถึงบางตัวช่วงเวลากระโดด ตามที่ญาติ ตั้งข้อสังเกต อาจมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นกับระบบกล้องวงจรปิดหรือไม่ในช่วงก่อนและหลังที่จะพบศพของโยโกะ
แต่มีภาพจากกล้องวงจรปิด ตัวของล็อบบี้ชั้น 1 จับภาพวันที่ 1 พ.ย. เวลาตั้งแต่ ตี 1 ไปจนถึง 03.47 น. ซึ่งจะเห็นว่านายโป้งแฟนหนุ่มของโยโกะใส่เสื้อสีขาวสีขาวกางเกงขาสั้น นั่งอยู่ที่ล็อบบี้ มีลักษณะเปลี่ยนอิริยาบถไปมา แต่นั่งอยู่อยู่ที่โซฟาตำแหน่งเดิม ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินออกจากคอนโดไป แต่ไม่ได้มีภาพจากกล้องวงจรปิดว่ามีโยโกะลงมาที่ล็อบบี้ดังกล่าว และไม่ได้มีการจับภาพว่า ก่อนและหลังช่วงเวลาดังกล่าวนั้นตัวของนายโป้งขึ้นไปด้านบนห้องของโยโกะหรือไม่
จากนั้นกล้องวงจรปิดบริเวณชั้นเดียวกัน กับห้องของโยโกะคือชั้น 6 จับภาพในวันที่ 1 พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงค่ำ วันเดียวกันกับที่ช่วงตี 3 ที่เห็นนายโป้งมานั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ แต่ช่วงเวลาประมาณ 20.18 น. จะเห็นว่าเพื่อนและญาติ 2 คนของโยโกะ จะขึ้นมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่นิติบุคคลชาย 2 คน มาที่บริเวณหน้าห้อง ก่อนที่พยายามจะติดต่อและเปิดประตูเข้าไป แล้วพบศพของโยโกะนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องดังกล่าว โดยเป็นภาพช่วงเวลาที่ภาพกล้องวงจรปิดจับาพเอาไว้ได้ แต่หลังจากนั้นทั้งก่อนและหลังช่วงเวลาของกล้องวงจรปิดหายไป
แม่คนตายเผยพิรุธในคดี ตำรวจไม่เคยตรวจที่เกิดเหตุ ต้องแจ้งให้ตำรวจมาดูเอง
ด้าน นางธัญพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ แม่ของโยโกะ เผยว่า การตายของลูกสาวส่วนตัวยังคงมีปมประเด็นข้อสงสัยในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขวดไซยาไนด์ที่เจอในตู้เซฟ ซึ่งตู้เซฟดังกล่าวก็มีเพียงลูกสาวและแฟนหนุ่มที่สามารถเปิดได้ เนื่องจากรู้รหัสกันเอง ฉะนั้นจึงรอผลการตรวจลายนิ้วมือแฝงเพื่อคลายประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับขวดไซไนด์ที่เจอ และรวมถึงขวดน้ำดื่ม 2 ขวด ที่ขวดนึงเปิดดื่มแล้ว อีกขวดยังไม่ได้เปิด อยากให้มีการตรวจสอบลายนิ้วมือ รวมถึงสารที่อยู่ในน้ำดังกล่าวเพื่อคลี่คลายข้อสงสัยเช่นกัน
แต่อีกประเด็นข้อสงสัยที่ตนเองมองว่ายังเป็นพิรุธในเรื่องนี้ คือเรื่องของไทม์ไลน์ของบุคคลเข้าออก และรวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดที่หายไป บางส่วนสามารถบันทึกเหตุการณ์และเก็บภาพได้ แต่บางส่วนที่เกี่ยวข้องกับแฟนหนุ่มที่อ้างว่ามาที่คอนโดหรือแม้แต่ปรากฏตัวที่คอนโด มีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ค่อนข้างน้อย มีเพียงแค่ล็อบบี้ข้างล่างที่จะจับภาพเอาไว้ได้เท่านั้น
และที่สำคัญประเด็นที่ตนเองตั้งข้อสงสัยที่อยากจะได้คำตอบและให้เร่งคลี่คลายเกี่ยวกับรอยนิ้วมือแฝง รวมถึงบุคคลที่อาจใช้ประตูดังกล่าวเข้าออก คือ ประตูด้านหลังที่เป็นประตูกระจก ติดกับสระว่ายน้ำ ในวันที่ตนเองไปเจอร่างของลูกสาวนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน ประตูดังกล่าวปิด แต่ไม่ได้ล็อก สามารถเปิดออกได้โดยทันที และที่สำคัญตนเองยังไปพบเจอถุงสีฟ้าซึ่งเป็นถุงขยะ อยู่ในถังขยะสีดำด้านหลังห้อง กับระเบียงดังกล่าวมีก้นบุหรี่จำนวนหนึ่ง ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่ของลูกสาวเพราะไม่ใช่คนสูบบุหรี่
และการตายของลูกสาวก็ยังมีอะไรหลายอย่างที่ยังเป็นพิรุธ รวมถึงข้อประเด็นสงสัยในแง่มุมของตนเองที่เข้าไปเจอและพบเห็น โดยเฉพาะวันแรกที่มีการไปเจอร่าง แต่ไม่ได้รับการตรวจสอบหรือมีการจัดส่งกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบเหมือนเช่นคดีอื่น ตนเองก็ไปรับศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดได้ตามปกติ
จนกระทั่งเริ่มมีการพูดคุยกับทนายความและญาติในครอบครัว เกี่ยวกับประเด็นข้อสงสัย จึงพากันไปตรวจสอบที่ห้อง ซึ่งก็ผ่านไปกว่า 10 วัน จำได้ว่าเป็นวันที่ 10 พ.ย. โดยเข้าไปตรวจสอบภายในห้องดังกล่าวก็เจอตู้เซฟที่ถูกปิดเอาไว้ จึงได้มีการเรียกตำรวจและขอให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ และขอให้มีการส่งกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย จนกระทั่งเจอขวดไซยาไนด์ ลักษณะกระปุกสีขาวฝาสีแดงและเลขรหัสเดียวกันกับแอมไซไนซ์ ส่วนตัวหลังจากที่พบเห็นยอมรับว่าค่อนข้างตกใจ แต่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบก็ไม่ได้เอะใจอะไรมาก ก็กลับออกไปตามปกติ
จนกระทั่งวันที่ประมาณ 19 พ.ย. ตนเองเห็นว่า ในห้องดังกล่าวมีขวดน้ำ ซึ่งขวดหนึ่งเปิดดื่มแล้ว แต่อีกขวดยังปิดอยู่ วางอยู่ใกล้กับเตียงนอนที่ลูกสาวนอนเสียชีวิตอยู่ ประกอบกับเห็นก้นบุหรี่ถูกทิ้งเอาไว้ที่ถังขยะหลังห้อง แต่กองพิสูจน์หลักฐานไม่ได้เก็บไปตรวจสอบ ตนเองจึงได้มีการเรียกให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งทุกครั้งที่ตนเองเห็นอะไรผิดปกติตนเองคือคนที่เป็นคนเรียกตำรวจเข้ามาตรวจสอบ แต่ไม่ใช่สิ่งที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบเองตามประเด็นข้อสงสัย จึงมองว่าทั้งหมดคือพิรุธที่เกิดขึ้นกับการตายของลูกสาว
และตามรายงานของตำรวจทราบว่า ในวันพรุ่งนี้ คือ 15 ม.ค. จะมีการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงรวมถึงอธิบายสังคมเกี่ยวกับสาเหตุการตายของลูกสาว โดยการแถลงข่าวดังกล่าว ตนเองก็ตั้งข้อสังเกตและตั้งความหวังในทุกประเด็นข้อสงสัยจะได้รับคำตอบและการคลี่คลายคดี จนนำไปสู่คำตอบที่ครอบครัวพึงพอใจ แต่หากยังไม่ตรงตามที่ครอบครัวคาใจ ก็ยังคงต้องหาคำตอบเองต่อไป ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องของกล้องวงจรปิดที่หายไป ประตูด้านหลังที่ไม่ได้ล็อก ขวดยาที่เจอในห้องที่เก็บเอาไว้ในตู้เซฟ ที่มีเพียงลูกสาวและแฟนหนุ่มที่รู้รหัส และถึงขณะนี้ส่วนตัวก็ยังเชื่อมั่นว่าลูกสาวไม่ใช่เป็นคนที่คิดสั้นหรือจะฆ่าตัวตายเอง แต่เกิดจากบุคคลอื่นที่เข้ามาทำให้ลูกสาวถึงแก่ความตายอย่างแน่นอน
สำหรับเรื่องของไทม์ไลน์ความรักระหว่างลูกสาวกับตัวของนายโป้งแฟนหนุ่ม ก่อนหน้านี้ตนเองก็ทราบว่าลูกสาวมีแฟนแต่ก็ไม่เคยเจอว่าเป็นใครมาจากไหน เพิ่งมารู้จักหลังจากที่เจอศพและวันที่ตั้งบำเพ็ญกุศลลูกสาว โดยเจ้าตัวเดินทางมาร่วมงานทุกคืนมาฟังสวดทุกคืน และเพิ่งรู้ว่าชายคนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับลูกสาวและเป็นแฟนของลูกสาว แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับข้อมูลที่ระบุว่าฝ่ายชายมีครอบครัวหรือลูกแล้ว แต่มีเพียงพฤติกรรมของลูกสาวที่เล่าให้ฟังบ้างประปราย ทำนองว่ากำลังจะซื้อบ้านใหม่ และไปอยู่กับแฟน แต่ตัวเองก็ยังไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น และไม่เคยเจอตัว
น้องชายโยโกะ เผยพิรุธห้องที่เกิดเหตุ
ด้านนายดิว (นามสมมติ) น้องชายโยโกะ ในฐานะกลุ่มที่ได้รับแจ้ง แล้วเข้าไปดูห้องที่เกิดเหตุกลุ่มแรกๆ ก่อนพบศพในห้อง เผยว่า กลุ่มของตัวเองเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เข้าไปที่ห้องที่เกิดเหตุ แต่ก่อนที่จะไปถึงได้มีหลานของแม่คนหนึ่ง และเพื่อนของพี่สาวคนหนึ่ง เข้าไปพร้อมกับนิติบุคคลเพื่อตรวจสอบก่อน ช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ของคืนวันที่ 1 พ.ย. โดยได้รับรับสายจากแฟนหนุ่มให้ไปตรวจสอบห้อง โดยอ้างว่าติดต่อโยโกะแฟนสาวไม่ได้จึงให้ไปช่วยดูให้ที แต่สิ่งที่ผิดสังเกตคือเมื่อให้ไปดูแล้ว ทำไมถึงต้องแนะนำขั้นตอนและวิธีการเปิดประตูคีย์การ์ด รวมถึงขั้นตอนต่างๆ อย่างละเอียด แต่เจ้าตัวกลับไม่มาดูด้วยตนเอง ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ครอบครัวสงสัยในประเด็นที่ 1
ส่วนประเด็นถัดมา หลังจากที่เข้าไปตรวจสอบภายในห้อง ไม่พบร่องรอยของการทะเลาะวิวาท พบเพียงร่างของพี่สาวที่นอนอยู่บนที่นอนน้ำลายฟูมปาก แต่สิ่งที่ผิดสังเกตตนเองเดินดูภายในห้องว่าเกิดเกิดอะไรขึ้นทำไมพี่สาวถึงอยู่ในอาการแบบนั้น สังเกตเห็นว่าถังขยะในห้อง 4 ใบ ในห้องนอน ในห้องน้ำ ห้องครัว และห้องโถง ไม่มีขยะอยู่ภายในถังขยะเป็นลักษณะขยะว่างเปล่า แต่มีเพียงถังขยะใบเดียวที่อยู่หลังห้อง ซึ่งมีก้นบุหรี่จำนวนมาก แต่ไม่ใช่ก้นบุหรี่ของพี่สาวเพราะไม่ใช่คนสูบบุหรี่ จึงมองว่าจุดดังกล่าวนั้นอาจเป็นจุดเชื่อมโยงในคดีก็ได้
และอีกเรื่องหนึ่งที่ตนเองเข้าไปในที่เกิดเหตุ แม้ว่าประตูห้องด้านหน้าจะถูกล็อกเพราะเนื่องจากเป็นประตูคีย์การ์ด แต่ประตูด้านหลังเป็นประตูกระจกที่เชื่อมกับระเบียงสระว่ายน้ำ สูงไม่ถึงเมตร จุดดังกล่าวนั้นเป็นเพียงแค่การปิดประตูเอาไว้แต่ไม่ได้มีการปิดล็อก จึงเชื่อมโยงกับถังขยะที่พบก้นบุหรี่ ประกอบกับจุดดังกล่าวสามารถปีนเข้าออกได้ง่ายเพราะไม่ได้สูง และแม้ว่าจะมีต้นไม้แต่ก็สามารถเดินลัดเลาะได้อย่างสะดวกสบาย ฉะนั้นจึงมองว่าเรื่องนี้ก็ต้องเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยคลี่คลายคดีเกี่ยวกับการตายของพี่สาว
อย่างไรก็ตาม ตนเองในฐานะญาติของคนตาย แม้ว่าแม่จะเข้าออกหรือเคยไปเยี่ยมพี่สาวที่คอนโดดังกล่าวบ่อยครั้ง แต่ยืนยันว่าไม่รู้แม้แต่รหัสเข้าประตูห้อง และไม่เคยเข้าประตูคีย์การ์ด มีเพียงพี่สาวที่ลงมารับพาขึ้นไป และส่วนเรื่องของรหัสตู้เซฟคนในบ้าน ก็ไม่มีใครรู้เช่นเดียวกัน มีเพียงพี่สาวกับแฟนหนุ่มเท่านั้นที่รู้ ฉะนั้นจึงเชื่อว่าการตรวจหาลายนิ้วมือแฝงหรือวัตถุพยานอื่นอาจคลี่คลายคดีได้มากขึ้น
ข้อความสุดท้าย โยโกะ เขียนถึงแฟนหนุ่ม