คุณยายป่วยมะเร็ง ถอนเงินฝากตนเองจากสถาบันการเงินชุมชนไม่ได้ เครียดอาการกำเริบ ด้านประธานกรรมการฯ ชี้แจงยังมั่นคง แต่ขาดสภาพคล่อง เงินฝาก 14 ล้าน ปล่อยสมาชิกกู้ 19 ล้าน
วันที่ 15 มกราคม 2567 ที่บ้านผู้ใหญ่ นายคำจัด บัลลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ตำบลวังหิน อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นso7j'ในบรรดาลูกค้าของสถาบันการเงินชุมชนแห่งหนึ่ง ที่ประสงค์ที่จะถอนเงินฝากของตนเอง พร้อมด้วยหลานตนเองที่เป็นนักเรียน ฝากเงินมานานตลอดการเรียนชั้นประถมศึกษา พอจะจบจะไปสมัครเรียนต่อระดับมัธยม ไม่สามารถที่จะถอนเงินได้ และได้รับคำชี้แจงเพียงสั้นๆ ว่า ไม่มีเงินตอนนี้ ขอให้เข้าคิวการถอนเงินฝากเอาไว้ หากมีเงินเข้าจะโทรศัพท์มาให้ไปรับเงินฝากที่แสดงความประสงค์ถอนในภายหลัง สร้างความประหลาดใจให้กับลูกค้าเงินฝากของสถาบันฯ ทุกคนว่า วันนี้สถาบันฯ จะล้มแล้วหรือ ทำไมผู้ที่ฝากเงินเอาไว้ เวลาจะใช้เงินไปขอถอนเงินของตนเองแล้วทำไมถอนไม่ได้
เช่นเดียวกับ คุณยายสายสมร อายุ 77 ปี ชาวบ้านดวนใหญ่ ป่วยจะไปถอนเงินไปซื้อยาเพื่อรักษาตนเองที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเรื้อรัง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากผู้ที่ทำงานอยู่ในสถาบันฯ ว่าวันนี้ยังถอนไม่ได้ จนทำให้คุณยายคิดมาก วิตกกังวลว่า แม้จะไปถอนเงินเพียงไม่กี่พัน ถอนไม่ได้ แล้วเงินฝากที่อยู่ในสถาบันฯ นับแสนบาทจะเหลือไหม เขาเอาเงินยายไปทำอะไร คิดมากจนทำให้ร่างกายอ่อนแอ อาการโรคมะเร็งกำเริบ ป่วยหนักเพิ่มขึ้น จากเดิมเคยเดินได้ วันนี้ต้องนอนติดเตียง
เช่นเดียวกับศูนย์สาธิตการตลาดดวนใหญ่ โดยนายประจักษ์ อินทร์คำ ประธานกรรมการศูนย์ เล่าว่า เงินที่ได้จากการขายสินค้าภายในร้านค้าชุมชน ได้นำไปฝากไว้ที่สถาบันการเงินชุมชนแห่งนี้ พอจะไปถอนมาซื้อข้าวของมาขายภายในร้านต่อ กลับขอถอนไม่ได้ และได้รับคำตอบเช่นกันว่าให้รอไปก่อน กำลังไปตามเงินมาให้ ร้านค้าวันนี้จึงไม่ค่อยมีของจะขาย ไม่มีรายได้ต่อเนื่อง ซึ่งทุกคนก็อยากทราบว่า เงินฝากมีมากน้อยขนาดไหน และที่อ้างว่าไปจ่ายสินเชื่อ จ่ายไปมากน้อยขนาดไหน ทำไมไม่มีมาให้ผู้ที่ฝากเงินได้ถอนไปทำธุรกิจ ไปใช้ในชีวิตประจำวันบ้าง บริหารแบบไหน โปร่งใสหรือเปล่า
ขณะเดียวกัน เที่ยงของวันนี้ได้มีนางเกษสุดา มั่งมี ผู้จัดการธนาคาร ธกส.สาขาวังหิน พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยพัฒนาธุรกิจ ธนาคาร ธกส.อำเภอวังหิน ได้เดินทางมาพบกับนายประกอบ บุญปลูก ประธานกรรมการบริหาร และเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงินชุมชน พร้อมได้ให้คำแนะนำในการบริหารงานในนามของธนาคารชุมชน ซึ่งอาจจะไม่ต่างจากธนาคาร ธกส.มากนัก
โดยวันนี้พบข้อมูลในระบบบัญชีจากสถาบันการเงินชุมชนแห่งนี้ว่า มียอดเงินฝากอยู่ ณ วันนี้ จำนวน 14,106,055.40 บาท ขณะเดียวกันได้ขอกู้เงินจากธนาคาร ธกส.มาเพิ่มทุน จำนวน 3,000,000 บาท รวมเป็นเงินในการบริหารจัดการแก่มวลสมาชิกได้ให้กู้เป็นสินเชื่อออกไป จำนวน 19,002,032 บาท ซึ่งในจำนวนของเงินกู้ ได้มีผู้ที่ค้างหนี้ ไม่ส่งเป็นจำนวนมาก โดยอ้างว่าประสบปัญหาเรื่องโควิด-19 มานาน ยังไม่มีรายได้เพียงพอที่จะมาส่งชำระหนี้ ส่งผลให้สถาบันฯ ชุมชนแห่งนี้ ขาดสภาพคล่อง ธกส.จึงได้แนะนำให้เร่งติดตามหนี้ค้างจากสมาชิกให้มาส่งชำระหนี้โดยด่วน และเร่งหาเงินฝากมาเสริมสภาพคล่องในระยะนี้ก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ที่ฝากเงินแล้วสามารถถอนได้ตามประสงค์
ด้านนายประกอบ บุญปลูก ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า ตนขอรับรองว่าสถาบันการเงินชุมชนแห่งนี้ ไม่ได้นำเงินของทุกท่านที่มาฝากไปไหน เงินยังอยู่ในระบบ โดยสถาบันการเงินชุมชน มีระบบโปรแกรมการควบคุมตรวจสอบภายในอยู่ โดยเงินฝากของสมาชิกจะมีอยู่ราว 14 ล้านบาทเศษ ขณะที่ลูกหนี้เงินกู้มีอยู่ ราว 19 ล้านบาท เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรัดติดตามมาชำระหนี้อยู่ โดยคณะกรรมการเจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ส่งหนังสือเร่งรัดไปขอให้สมาชิกลูกค้ามาคุยกัน มาหาทางออกเรื่องภาระร่วมกัน โดยก่อนหน้านี้สถาบันมีเงิน เราช่วยเขาได้ แต่ในขณะนี้เราเดือดร้อนก็ขอให้มวลหมู่สมาชิกมาช่วยกัน