เปิดภาพก๊วนลูกตำรวจยั่ว บัวผัน ก่อนฆ่า
ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดมาใหม่เป็นภาพแก๊งโจ๋ยั่วโมโหป้าบัวผันก่อนฆ่า โดยจะเป็นภาพป้าบัวผันนั่งหน้าร้านสะดวกซื้อ และมีนายบิ๊กมาล้อเลียนป้าบัวผันก่อน โดยที่ป้าพยายามไล่ให้ไป แต่แก๊งโจ๋กลับหัวเราะเยาะเย้ย
หลังจากนั้นนายบิ๊กเดินเข้ามาหาป้าบัวผันพร้อมกับนายเชน เข้ามาเต้นยั่วโมโหป้าด้วยเช่นกัน โดยฝั่งป้าก็มีการโต้ตอบกลับด้วยการขว้างขวดใส่ แต่แก๊งโจ๋ก็ยังไม่ยอมหยุดล้อเลียน พร้อมกับหัวเราะเยาะเย้ย
นอกจากแก๊งโจ๊จะล้อเลียนและหัวเราะเยาะเย้ย ยังขว้างปาของใส่ป้าบัวผันอีกด้วย
นอกจากนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้กล้องวงจรปิดมุมใหม่ วินาทีที่กลุ่มผู้ก่อเหตุไปล้างคราบเลือด อยู่ที่คาร์แคร์แห่งหนึ่ง โดยกล้องจับภาพตั้งแต่เวลา 03.43-04.00 น. เอาไว้ได้อย่างชัดเจน พร้อมพูดถึงเรื่องกล้องวงจรปิดหน้าร้านสะดวกซื้อว่าจะจับภาพได้หรือไม่
และหากดูเวลา 03.52 ผู้ก่อเหตุบางคนมีการถอดเสื้อออกมาล้างรถที่เปื้อนเลือด
เปิดใจญาติผัวบัวผัน จิตใจดีไม่มีทางฆ่าเมีย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้ติดตามข้อมูลที่อยู่อาศัยของนายปัญญา พบว่า นายปัญญามีชื่อตามทะเบียนบ้านอยู่ที่บ้านระเวียง อำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์
เมื่อเดินทางมาถึงเราได้พบกับนางชญาภา อายุ 62 ปี พี่สาวนายปัญญา และนายสมบัติ อายุ 68 ปี พี่เขย อยู่ที่บ้านพอดี จึงได้มีโอกาสสอบถามทั้ง 2 คนเกี่ยวกับคดีของนายปัญญา
นางชญาภา พี่สาว เปิดเผยว่า ตนเองมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน โดยนายปัญญา เป็นน้องคนที่ 3 ตั้งแต่ที่พ่อกับแม่เสียชีวิตเกือบ 30 ปี ตนเองและพี่น้องคนอื่นๆ ก็ต่างแยกย้ายกันไปมีครอบครัวใหม่ ตนเองแต่งงานมีสามีอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ ขณะที่นายปัญญาน้องชายเคยแต่งงานมีภรรยาและลูกมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ได้เลิกรากันไปเกือบจะ 20 ปีแล้ว ส่วนสาเหตุเนื่องจากว่านายปัญญาเป็นคนที่ชอบดื่มสุราไม่ทำงานทำการ จึงทำให้ภรรยาขอหย่า หลังจากนั้นนายปัญญาก็กลายเป็นคนเร่ร่อน แต่ความสงสารตนเองจึงได้นำชื่อของน้องชายเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านด้วย
ตนเองก็ไม่ได้ติดต่อน้องชายมาเกือบจะ 20 ปีจนตอนแรกคิดว่าน้องชายเสียชีวิตไปแล้ว จนกระทั่งเมื่อกลางปีที่แล้วอยู่ๆ นายปัญญาก็เดินทางมาเยี่ยมตนเองที่บ้าน ประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นนายปัญญาน้องชายก็กลับไปอยู่ที่อรัญประเทศ และก็ไปเร่ร่อนไปทั่วเหมือนเดิม จากนั้นก็ไม่ได้ข่าวน้องชายอีกเลย
จนล่าสุด ญาติพี่น้องที่อยู่อรัญประเทศได้โทรศัพท์มาหาตนเอง บอกว่าน้องชายฆ่านางบัวผันภรรยาตาย หลังจากได้ยินข่าวตนเองไม่เชื่อทันทีว่าน้องชายจะฆ่านางบัวผัน เพราะโดยนิสัยน้องชายแม้จะเป็นคนขี้เหล้าชอบดื่มเหล้า แต่ก็ไม่เคยก้าวร้าวหรือโมโหร้ายและไม่เคยทำร้ายใครก่อน ส่วนที่ว่าน้องชายมีภรรยาใหม่ตนเองก็ไม่รู้มาก่อนเพิ่งจะมารู้พร้อมกับที่ข่าวออก
นางชญาภา พี่สาวนายปัญญายังบอกอีกว่า หลังน้องชายโดนจับและสารภาพว่าเป็นคนฆ่านางบัวผันตายพร้อมกับพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จนกระทั่งมีนักข่าวไปเจอหลักฐานว่าคนที่ก่อเหตุไม่ใช่น้องชายของตนเอง ตนเองก็รู้สึกหายห่วงและสบายใจ เพราะตนเองเชื่อว่าอย่างน้อยฟ้าก็ยังมีตาว่าน้องชายเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ก็ก็ยังคงเป็นกังวลในเรื่องของความปลอดภัยของน้องชาย
นอกจากนี้ ตนเองยังติดใจเรื่องที่น้องชายตนเองรับสารภาพทั้งที่ไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ ซึ่งตนสงสัยว่ามีใครไปข่มขู่ให้น้องชายสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุฆ่านางบัวผันหรือไม่ อีกทั้งน้องชายเป็นคนไม่ทันคน ใครสั่งให้ทำอะไรก็ทำ จึงคิดว่าคนที่ข่มขู่อาจจะคิดว่าน้องเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่หลักแหล่ง จึงต้องการอยากให้น้องชายตนเองเป็นแพะรับบาปแทนใครหรือไม่
ส่วนเรื่องจะดำเนินคดีกลับหรือไม่นั้น ตนเองยังไม่คิด ขอปรึกษาญาติก่อน แต่ก็คงคิดว่าเป็นเวรกรรมของน้องชาย และดีแล้วที่มีหลักฐานออกมาเปิดเผยว่าน้องชายเป็นผู้บริสุทธิ์ พร้อมกับเชื่อมั่นในตำรวจอรัญประเทศ ว่าจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา
พร้อมกับขอบคุณทีมข่าวช่อง8 ที่สามารถหาหลักฐานมามัดตัวคนร้ายตัวจริงได้ จนทำให้น้องของตนเองพ้นข้อหาฆ่าคนตาย
สุดเศร้าพลเมืองดีประสาน พม. ให้มารับป้าไปดูแล แต่สุดท้ายพบป้าเป็นศพ
ต่อมาเราได้พูดคุยกับนางสาววาที เป็นพลเมืองดีและเป็นอาสาสมัครกู้ภัย เล่าว่า ตนเองเป็นคนประสาน พม.จังหวัดสระแก้ว และนัดแนะให้ พม.มารับป้าบัวผัน ซึ่งทั้งตนและพม.นัดกันช่วง 16.00 น. ของวันที่ 11 มกราคม ลงพื้นที่แถวสภ.อรัญประเทศเพื่อมารับป้า เพื่อส่งต่อให้พม.ดูแลต่อ แต่ปรากฏว่าวันนั้นป้าไม่ได้อยู่แถว สภ.อรัญประเทศ จึงทำให้ทั้งตนและเจ้าหน้าที่ พม.ไม่เจอ กระทั่งพบว่าป้าเป็นศพเสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นก็สงสัยที่ไม่เจอป้า ก็วนหาต่อหลายรอบ
ตนเสียดายมาก คลาดกันแค่นิดเดียว ตอนตนกับเจ้าหน้าที่ของ พม.หาป้า ถ้าหาป้าเร็วกว่านี้ก่อนวัยรุ่นเจอป้า ป้าคงได้ใช้ชีวิตในบ้านพัก พม.แล้ว