ด่วน!! ศาลรธน.มีมติเสียงข้างมาก ศักดิ์สยาม สิ้นสภาพ รมต. ปมนอมินีถือหุ้นบุรีเจริญ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ม.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยในกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ที่ยื่นคำร้องของ สส.พรรคฝ่ายค้าน จำนวน 54 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ (ผู้ถูกร้อง) สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบกับมาตรา 187 หรือไม่
เนื่องมาจากเหตุเชื่อได้ว่านายศักดิ์สยาม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและเป็นผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ทำให้นายศักดิ์สยาม เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบกับ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรีปี 2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่า จากข้อพิรุธหลายอย่าง ฟังได้ว่าผู้ถูกร้องกับนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ นำเงินผู้ถูกร้องมาทำธุรกรรมต่างๆ ในนามนายศุภวัฒน์ และนำมาซื้อกองทุนทีเอ็มบี ในชื่อนายศุภวัฒน์ และขายกองทุนมาชำระค่าหุ้นให้ผู้ถูกร้อง 159 ล้าน ซึ่งยังเป็นของผู้ถูกร้อง ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นในบุรีเจริญ โดยนายศุภวัฒน์ เป็นผู้ครอบครองหุ้นบุรีเจริญแทนผู้ถูกร้องมาตลอด
อันเป็นการถือหุ้นของ รัฐมนตรี อยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่น เป็นการกระทำต้องห้ามม.187 ดังนั้น ความเป็นรมต.ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตาม 170 วรรคหนึ่ง (5)
ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลงเฉพาะตัว และสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 3 มี.ค. ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเสียงข้างมากให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.66 เป็นต้นไป