บิ๊กโจ๊กลุยเอง สอบลุงเปี๊ยกเอาผิดตำรวจคลุมถุงดำ
ภายหลังจากเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นำตัวนายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก สามีของป้าบัวผัน หรือป้ากบ จากจังหวัดสระแก้ว เข้าไปอยู่ในความดูแลของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดปทุมธานี ล่าสุดพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะทำงาน และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ได้เข้าไปสอบปากคำลุงเปี๊ยก เพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีที่ก่อนหน้านี้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพในคดีฆาตกรรมป้าบัวผัน รวมถึงกล่าวอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ถุงดำคลุมศีรษะและซ้อมทรมานให้รับสารภาพ
โดยมีคลิปสนทนาทำนองว่า ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาได้คลุมถุงดำใส่ลุงเปี๊ยกจริง แต่เป็นการหยอกเล่น รวมถึงยังปรากฏอีกคลิปวิดิโอที่เป็นเสียงของลุงเปี๊ยก ที่ปฏิเสธว่า ไม่มีการใช้โซ่ตรวนในการกักขัง แต่ยอมรับว่ามีการใช้ถุงพลาสติกครอบด้านบนศีรษะ ไม่ได้คลุมทั้งหมด และบังคับให้ถอดเสื้อในห้องแอร์เย็นๆ ช่วงเวลากลางคืนว่าทั้งหมดนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
โดยเบื้องต้น พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้รายงานให้พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทราบเบื้องต้นแล้ว และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้ตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และ สภ.อรัญประเทศ รายงานผลการตรวจสอบให้ทราบภายในวันนี้
ขณะที่ต่อมา พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยก่อนสอบปากคำว่า ได้ฟังคลิปเสียงทั้ง 2 คลิปแล้ว ทั้งคลิปเสียงของลุงเปี๊ยก และคลิปเสียงของรองผู้กำกับการท่านหนึ่ง ซึ่งหากมีแต่เสียงลุงเปี๊ยกตนเองคงไม่เชื่อ แต่เมื่อมีเสียงของรองผู้กำกับการยืนยัน ก็เหมือนคำรับสารภาพแล้วว่ามีการคลุมถุงดำจริง แต่การทำแบบนั้นส่วนตัวเชื่อว่าไม่ใช่การช่วยเหลือให้ลูกตำรวจพ้นผิด แต่เป็นวิธีการบีบบังคับเพื่อให้ได้คำรับสารภาพ และเร่งปิดคดีเพื่อทำผลงานในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นวิธีการที่ผิดกฎหมาย เป็นการควบคุมตัวและสอบปากคำโดยมิชอบตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ป.วิอาญา และเมื่อกระบวนการผิดตั้งแต่ต้น ก็เชื่อว่ากระบวนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก็มีการบังคับและชี้นำลุงเปี๊ยกด้วยเช่นกัน
แต่การจะดำเนินคดีกับตำรวจหรือบุคคลใด ก็ต้องสอบสวนลุงเปี๊ยกก่อน ว่าลุงเปี๊ยกจะให้การว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง หากลุงเปี๊ยกยืนยันได้ชัดเจน ก็จะต้องนำตัวลุงเปี๊ยกกลับไปสอบสวนที่ สภ.สระแก้ว เพื่อชี้ตัวผู้เกี่ยวข้อง โดยจะต้องหาความจริงให้ได้ว่ามีตำรวจคนไหนมีส่วนร่วมบ้าง และมีกี่คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ใครเป็นผู้สั่งการ หรือเป็นผู้บังคับบัญชา ซึ่งแม้จะไม่ได้ร่วมก่อเหตุ แต่หากมีส่วนรู้เห็น ก็ถือว่าผิดด้วย
ส่วนผู้กำกับการในฐานะผู้บังคับบัญชา แม้จะเพิ่งมารับตำแหน่งนี้ ก็ต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าาวมีทั้งโทษทั้งทางอาญาและวินัย จะอ้างว่าล้อเล่นไม่ได้ เพราะการกระทำผิดเกิดขึ้นแล้ว ส่วนพยานหลักฐานจะเพียงพอหรือไม่ ตนเองได้ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว รอเพียงสอบปากคำลุงเปี๊ยก
บิ๊กโจ๊ก ลุยสอบลุงเปี๊ยก ขอส่งแยกขัง 5 ลูกตำรวจ
ส่วนลูกตำรวจนั้น จากการตรวจสอบประวัติการโทรศัพท์ที่โทรหาพ่อ ซึ่งเป็นรองสารวัตรสืบสวน สภ.อรัญประเทศนั้น พบว่ามีประวัติการโทรช่วงตี 1 ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณตี 2 และหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการติดต่ออีกเลย จนกระทั่งผู้เป็นพ่อมาทราบว่ามีการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นและลูกตนเองเกี่ยวข้องด้วย จึงได้รีบพาเข้ามอบตัว จึงเชื่อได้ว่าหลังก่อเหตุแล้วไม่ได้มีการขอให้พ่อช่วยเหลือทางคดีแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทั้ง 5 คน ยังอยู่ที่สถานพินิจฯ จังหวัดสระแก้ว แต่ก็จะประสานกับอธิบดีสถานพินิจและคุ้มครองเด็กหารือเรื่องการแยกคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 ออกจากกัน ไปอยู่ตามบ้านแรกรับจังหวัดต่างๆ พร้อมยืนยันว่าไม่มีผู้มีอำนาจประสานให้ผู้ปกครองเด็กเตรียมไปขอประกันตัวแน่นอน เพราะเด็กแต่ละคนต้องอยู่ในสถานพินิจฯ อย่างน้อย 3 ปี หรือจนกว่าจะอายุครบ 18 ปี
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังรับฟังผลการสอบปากคำลุงเปี๊ยกที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดปทุมธานี ว่าคณะทำงานได้นำรูปถ่ายปัจจุบันของตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ทุกนายให้ลุงเปี๊ยกชี้ตัว ลุงเปี๊ยกยืนยันตัวตำรวจขาขาด 1 นาย ยศชั้นประทวนซึ่งเป็นหนึ่งในชุดสืบสวน ที่บังคับให้ลุงเปี๊ยกถอดเสื้อในห้องแอร์ให้หนาว เอาถุงคลุมศีรษะ และควบคุมตัวโดยมิชอบนานถึง 9 ชั่วโมง เพื่อบังคับให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพว่าฆ่าป้าบัวผัน ด้วยความทรมานและเหนื่อยล้า ลุงเปี๊ยกจึงยอมรับสารภาพ ก่อนถูกบังคับไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุ แต่ไม่มีการล่ามโซ่
ดังนั้น วันนี้จึงมีตำรวจที่กระทำผิด 1 นายก่อน เพราะลุงเปี๊ยกยืนยันว่าในห้องขณะถูกทรมานมีตำรวจนายนี้นายเดียว ซึ่งจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 และความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ส่วนความผิดทางวินัยมีโทษถึงขั้นให้ออก
ส่วนจะมีตำรวจนายอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ ได้ให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 สั่งการให้รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีตำรวจนายอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะจากคลิปเสียงของรองผู้กำกับการนายหนึ่งยืนยันว่ารู้เรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องตรวจสอบว่ารองผู้กำกับการนายนี้รู้ขณะทำการทรมานลุงเปี๊ยกหรือไม่ ซึ่งจะเข้าข่ายร่วมกันกระทำความผิด แต่หากรู้ภายหลังทรมานลุงเปี๊ยกแล้ว แต่ไม่ดำเนินการลงโทษตำรวจที่ก่อเหตุ ก็เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงจะต้องขยายสอบปากคำชุดสืบสวนทั้งหมดด้วย ว่ามีผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุร่วมด้วยอีกกี่คน
แต่เบื้องต้นลุงเปี๊ยกบอกว่า สารวัตรและรองผู้กำกับการไม่ได้อยู่ในห้องที่ถูกทรมาน และทั้งสองคนก็พูดจากับลุงเปี๊ยกเป็นอย่างดี ไม่ติดใจ ส่วนที่เหลืออีก 1 คนเพียงสับเปลี่ยนเวรและเฝ้าด้านนอกเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนร่วม
ทั้งนี้หลังจากสอบปากคำลุงเปี๊ยกเสร็จแล้ว ลุงเปี๊ยกก็มีความสบายใจขึ้นและไม่กลัวตำรวจแล้ว และไม่จำเป็นต้องพาตัวลุงเปี๊ยกไปชี้ตัวตำรวจที่ สภ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วแล้ว
คลิปฉบับเต็ม ลุงเปี๊ยกแฉถูกคลุมถุงดำก่อนเป็นแพะ
กรณีมีคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง นายดลชนก รองประธานมูลนิธิวินวิน กับลุงเปี๊ยก ถึงพฤติกรรมที่ตำรวจกระทำระหว่างการเค้นสอบปากคำ และการพาไปชี้จุดเกิดเหตุ โดยเป็นการพูดถึงการข่มขู่จากตำรวจนายหนึ่งมาข่มขู่ลุงเปี๊ยกและพยายามเค้นให้ตนยอมจำนน โดยลักษณะของตำรวจนายนั้นขาขาด
เค้นดาบเสกขาเป๋ ไขปมคลุมถุงดำลุงเปี๊ยก
โดย "ดาบเสก" ตำรวจที่ถูกพาดพิง เป็นตำรวจสืบสวนคนที่พิการทางขา ได้ขึ้นมาที่อาคารตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พยามสอบถามในหลายประเด็น ทั้งการเดินทางมา ทั้งการก่อเหตุใช้ถุงดำคลุมลุงเปี๊ยก และในประเด็นที่อยากจะให้ชี้แจงอื่นๆ โดยเจ้าตัวไม่ได้ตอบ มีลักษณะเดินกะเผลกขึ้นบันได พร้อมกับตอบสั้นๆว่า “รอให้นายตอบครับ”
ภายหลัง ดาบเสก คนที่ถูกกล่าวหา เดินทางมาให้การกับทีมสอบสวนภูธรจังหวัด ตั้งแต่ 10.10 น. ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 12.50 น. การสอบสวนเสร็จสิ้น ได้มีตำรวจสืบสวนจาก สภ.อรัญประเทศ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานด้วยกัน 2 นาย เดินทางมาเพื่อรับเจ้าตัวกลับ เนื่องจากเจ้าตัวเดินขาเป๋ เดินไม่สะดวก ซึ่งจะต้องผ่านกองทัพสื่อมวลชนที่รออยู่ จึงต้องให้เพื่อนช่วยพยุงและพาเดินออกไป
และระหว่างที่ดาบเสกเดินออกจากห้องสอบปากคำลงไปที่ชั้นล่างเพื่อขึ้นรถกระบะ ระหว่างทางผู้สื่อข่าวพยามสอบถามในหลายประเด็น ทั้งเรื่องของพฤติกรรมใช้คลุมดำคุมหัว ตามที่ถูกพาดพิง รวมถึงประเด็นที่ว่ามีคลิปเสียงหลุดเกี่ยวกับการใช้ถุงดำคลุมเพื่อล้อเล่น หรือแม้แต่แรงจูงใจ หรือแม้แต่การสอบสวนลุงเปี๊ยกในวันที่คุมตัวก่อนรับสาร หรือแม้แต่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเจ้าตัวถูกพาดพิงก็ตาม ระหว่างทางที่เดิน เจ้าตัวปฏิเสธที่จะตอบได้แต่ก้มหน้าเงียบ และมีเพียงเสียงของผู้สื่อข่าวที่พยามถามเท่านั้น แต่ช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะขึ้นรถเจ้าตัวตอบก่อนปิดประตูรถว่า “ ให้การกับผู้บัญชาการไปแล้ว” จากนั้นก็ได้ขึ้นไปนั่งอยู่บนรถ ก่อนที่เพื่อนจะพาออกไปจากตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว
เด้งผู้กำกับอรัญฯ เซ่นคลิปบีบ “ลุงเปี๊ยก” สารภาพฆ่าป้าบัวผัน
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว มีหนังสือคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ที่ 15/2567 ลงวันที่ 18 ม.ค. เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ตามคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ที่ 12/2567 ลงวันที่ 17 มกราคม 2567 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี ปรากฏคลิปเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ ได้มีการบังคับขู่เข็ญ ให้นายปัญญา หรือเปี๊ยก คงแสนคำ รับสารภาพในคดีฆาตกรรมนางสาวบัวผัน ตันสุ จากการตรวจสอบเบื้องต้นข้อเท็จจริงปรากฏว่า เป็นเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนในสังกัดสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศนั้น
เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 67 และ มาตรา 68(5) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบกับระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566 ลงวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2566 ข้อ 5 ,ข้อ 6(2) และข้อ 9(3) จึงให้ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วมอบหมาย มีกำหนด 30 วัน โดยขาดจากต้นสังกัด ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
เมียดาบเสกดึงสติผัว นึกถึงลูกหากคิดผิดทำผิด
วันนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายังที่พักของดาบเสก ได้เจอกับนางแดง นามสมมติ ภรรยาของดาบเสก ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า ตัวเองคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของดาบเสก ส่วนคลิปเสียงตัวเองก็ได้ฟังแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเขาใช่คนที่เอาถุงดำไปคลุมหัวลุงเปี๊ยกหรือไม่ เพราะตัวเองไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับการทำงานของเค้า เพราะตัวเองไม่เคยยุ่งเกี่ยวเรื่องงานของสามี
ตัวเองพูดตรงๆ เลยว่า ตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่กับสามีเป็นเวลา 20 ปี แล้ว ตัวเองอยู่กับลูกแค่ 2 คน ส่วนเขาอยู่กับผู้หญิงอีกคน
ถ้าดาบเสกฟังอยู่ก็อยากจะบอกเขาว่า “ทำอะไรลงไป ก็ให้คิดถึงลูก” ชีวิตของตัวเองอยู่ได้เพราะลูก อยากให้เขานึกถึงความรู้สึกของลูกบ้าง ตัวเองตกใจมากว่าคนที่เคยอยู่ร่วมกันในห้องนี้มาตลอด จู่ๆ เขาก็ตัดสินใจเดินจากตัวเองไปทั้งที่ตัวเองไม่รู้สาเหตุ และมารู้ทีหลังว่าเขามีใหม่แล้ว เขาหมดรักเราแล้ว
ตั้งแต่เขาออกไป ตัวเองก็เลี้ยงลูกตามลำพัง และตัวเองก็ไม่ได้ทำงาน ร่างกายตัวเองก็ไม่ค่อยแข็งแรง
คนสนิทดาบเสกเชื่อคลุมถุงดำลุงเปี๊ยกแค่ทำเล่นๆ
ด้านนายฟูจิ (นามสมมติ) คนสนิทของดาบตำรวจเสก ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า เท่าที่ตัวเองรู้จักกับดาบตำรวจเสก ตัวเองก็เห็นว่าเค้าเป็นคนนิสัยดีมาตลอด ไม่เคยมีนิสัยโหดร้าย แต่จากที่ตัวเองได้ยินข่าวมา ที่เขาเอาถุงดำคลุมหัวเขาน่าจะทำเล่นหรือเปล่า
สำหรับตัวเองเปิดธุรกิจเกี่ยวกับคาร์แคร์และได้ไปร่วมงานกับชุดสืบสวน และเดินทางไปที่ห้องสืบสวนอยู่บ่อยครั้ง ตัวเองก็เห็นชุดสืบเขาทำงานตามปกติเวลาเค้าสอบผู้ต้องหา และเขาก็ไม่ได้ปฏิบัติกับผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยรุนแรงแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องของร้อยตำรวจตรี พ่อของเชน เท่าที่สัมผัสเค้าก็เป็นคนนิสัยดี ปฏิบัติงานดี แต่ถ้ามองเรื่องคดีนายปัญญาและป้ากบ ตัวเองก็เชื่อว่า คดีนี้น่าจะมีการทำให้นายปัญญารับสารภาพแทนใครหรือไม่