เรวัช ชี้จับลุงเปี๊ยก สะเทือนความเชื่อมั่นตำรวจ
พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด บอกว่า ตอนนี้มันเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาแล้ว ผมเองก็เครียดเพราะว่าความเชื่อมั่น ตร.หมดไป ต่อไปพอจับคดีอะไร ชาวบ้านคงสงสัยว่าจับแพะหรือเปล่า เพราะเคสนี้เป็น “แพะ” ชัดเจน คนตายไม่ใช่คนสำคัญ เป็นหญิงสติไม่ดีเสียชีวิต คดีอุกฉกรรจ์ถือว่าเรื่องใหญ่ มันต้องรีบรายงานผู้บังคับบัญชาทันที และต้องรีบจับให้ได้โดยเร็ว ผกก.ก็ใช้สายสืบไป สายสืบก็รายงานนายว่า ลุงเปี๊ยกรับสารภาพแล้ว แต่ไม่ได้ไล่สอบเองว่ารับสารภาพเพราะอะไร
ตาเปี๊ยกเป็นคนขี้เหล้า แค่บอกให้ตาเปี๊ยก รับหน่อยได้ไหมวะ เดี๋ยวให้เหล้า 2 ขวดก็รับแล้ว ไม่ต้องเอาถุงดำไปขู่ หรือทำท่าขู่ หรือขู่อะไรหรอก แล้วไอ้คนขู่ถ้ามีจริงนะ ก็ไม่ได้มีศักยภาพอะไร เพราะตัวเองขายังด้วนเลย แต่คงทะลึ่งทำเป็นขู่ว่าจะเอาถุงดำครอบหัวนะ แบบนี้ถ้าความปรากฏก็ต้องตั้งกรรมการสอบสวน ไล่ออกจากราชการ โดนดำเนินคดีไป
ส่วนตัว ผกก.เองก็เป็นคนดี เรียบร้อย แต่มันคลุมพื้นที่ไม่อยู่ แล้วเหตุเกิดขึ้นแล้ว เมื่อเช้าตนได้คุยกับท่านผู้บัญชาการตำรวจภาค 2 บอกว่า เอาเด็กออกมาก่อนได้ไหม ดึงฟืนออกจากกองไฟก่อนได้ไหม เพราะว่ามันไปอยู่มันจะไปคลุม ก็ไม่รู้ว่าตัว ผกก.ไปสั่งให้ลูกน้องรับสารภาพหรือเปล่า จริงไม่จริงก็ไม่รู้ แต่ต้องเอาออกมาจากพื้นที่ก่อน ให้การสอบสวนมันเสร็จสิ้น และต้องจัดการคดีเก่าที่แก๊งนี้มันทำให้เรียบร้อยด้วย จัดการออกหมายจับให้เรียบร้อย
ส่วนกรณีเหตุการณ์ที่อรัญฯ ต้องขอโทษประชาชนด้วย เพราะ ตร.ตั้งใจทำงานและร้อนรนเกินไป เลยไปจับผิดตัว แล้วลูกน้องผมมันก็ผิด หรือชั่วก็ไม่รู้ ไปขู่เข็ญหรือสัญญากับตาเปี๊ยกก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้จับคนร้ายตัวจริงแล้วเป็นเยาวชน หนึ่งในนั้นเป็นลูก ตร. ส่วน ตร.ที่เป็นพ่อ ถึงเขาจะไม่ผิด แต่เพื่อลดให้ลูกเค้ามีบารมีน้อยลง จำเป็นต้องย้าย ไม่ได้กลั่นแกล้งลูกน้องนะ แต่จำเป็นต้องย้าย ส่วนใครที่ไปขู่ หรือไปหลอกตาเปี๊ยกก็ลงโทษไปมันก็จบ
เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่ยุคผม เพราะตอนนั้นมันไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีกล้องวงจรปิด ยุคผมตอนนั้นยังไม่ต้องใช้ถุงดำเลย แค่มองตามึงจะโกหกหรือไม่ก็รู้แล้ว แล้วอย่างตาเปี๊ยกเนี่ย ไม่ต้องหรอก แค่ถามตาเปี๊ยกว่าเรื่องจริงเป็นไง เดี๋ยวให้เหล้าขวดเดียว ตาเปี๊ยกก็มือไม้สั่นแล้ว เพราะอยากเหล้า มันบอกผมไม่ได้ฆ่า ไม่ได้ฆ่าก็ไม่ได้เหล้า มันบอกผมฆ่าเอง เพราะมันอยากได้เหล้ากิน ไม่มีความจำเป็นต้องเอาถุงดำไปขู่มันเลย ปล่อยให้ตาเปี๊ยกให้สัมภาษณ์ไปเลย ไม่ต้องไปปิดสื่อ พูดไปพูดมาเดี๋ยวชาวบ้านเค้ารู้เองว่า ไอ้นี่พูดไม่อยู่กะร่องกะรอย จะไปปิดทำไมยิ่งปิดคนยิ่งอยากรู้ พูดผิดพูดถูกความน่าเชื่อถือตาเปี๊ยกก็จะหมดไปเอง ตอนนี้หมอเขาก็รับเป็นคนไข้ รพ.ศรีธัญญาแล้ว