คุมชุดสืบอรัญฯ ชี้จุด เก็บหลักฐานไขปมถุงดำคลุมหัว
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่ามา ที่ สภ. อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พล.ต.ต.ธนาวุฒิ จงจิระ ผู้บังคับการกฎหมายและคดี ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมคณะทีมสอบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้มีการเชิญตำรวจชุดสืบสวน เป็นตัวแทนของทีมสืบสวนพาชี้จุด โดยเริ่มจากบริเวณชั้น 2 ของห้องสืบสวน จากนั้นได้ลงมาที่โต๊ะหินอ่อนบริเวณด้านหลัง ที่ปรากฏภาพของลุงเปี๊ยกหรือนายปัญญา นั่งให้การกับชุดสืบสวน ก่อนที่จะพาไปชี้จุดที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด บริเวณชั้นล่างใต้อาคาร ห้องสืบสวน โดยมีการติดตั้งกล้องที่บริเวณดังกล่าวเพื่อดูรถของกลางที่มีการตรวจยึด
จากนั้นตัวแทนของตำรวจชุดสืบสวน ยังได้พาที่บริเวณถนน จุดที่ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่ากลุ่มเด็ก 5 คน มีการเข้าไปรุมทำร้ายและอุ้มตัวของป้ากบหรือนางบัวผันออกไปจากหน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนที่จะพาทีมคณะสืบสวนข้อเท็จจริง ไปตรวจสอบบริเวณจุดมุมกล้องที่ศาล
และภายหลังมีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จแล้ว พล.ต.ต.ธนาวุฒิ จงจิระ ผู้บังคับการกฎหมายและคดี ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมคณะ ได้เดินทางออกไปจากโรงพัก สภ.อรัญประเทศ ซึ่งไม่ได้มีการตอบคำถามใดใดกับผู้สื่อข่าว
พิสูจน์ห้องสืบอรัญฯ จุดคลุมหัวลุงเปี๊ยก
ทีมข่าวช่อง8 ได้ตรวจสอบห้องสืบสวน สภ.อรัญประเทศ พบว่ามีลักษณะคล้ายบ้าน 2 ชั้น หลังสีขาว 2 ชั้น ข้างล่างเป็นโถง ส่วนด้านบนมีห้องทำการ 4 ห้อง
หากเดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 จากฝั่งด้านหน้า ฝั่งซ้าย หน้าจะเป็นห้องของ พ.ต.ท. พิชิต รอง ผกก.สส สภ.อรัญประเทศ ด้านหลังฝั่งซ้าย จะเป็นห้องสารวัตรสืบสวน ด้านหน้าฝั่งขวา เป็นห้องธุรการสืบ (ห้องที่ดาบเสกทำงาน) ด้านหลังฝั่งขวา จะเป็นห้องโถงที่ใช้สอบปากคำนายเปี๊ยก สำหรับชุดสืบสวน
จากการตรวจสอบ พบว่าฝั่งด้านหน้าจะสามารถมองทะลุกระจกไปด้านในได้ แต่ไม่สามารถมองเห็นห้องที่มีการสอบสวนนายปัญญาหรือลุงเปี๊ยก และหากเดินเข้าทางฝั่งด้านหลัง จะพบว่ามีประตูกระจกทึบ 1 บาน ไม่สามารถมองทะลุไปด้านไหนได้
และบริเวณด้านหลังห้องสืบสวน จะมีโต๊ะหินอ่อนอยู่ 1 ชุด ซึ่งเป็นโต๊ะที่ใช้สอบปากคำผู้ต้องหาอีกหนึ่งจุด
จากการตรวจสอบพบว่า ที่บริเวณชั้นล่างของห้องสืบสวนมีกล้องวงจรปิดอยู่หนึ่งตัว ส่วนด้านบนทีมข่าวได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวมาว่า ห้องที่ใช้สอบปากคำนายปัญญาหรือลุงเปี๊ยก ก็มีกล้องวงจรปิดอยู่เช่นเดียวกัน แต่ไม่แน่ใจว่ามีกี่ตัว ส่วนคอมเพรสเซอร์ที่บริเวณอาคารห้องสืบสวนนั้น ทีมข่าวเห็นติดตั้งอยู่สองเครื่อง
ลุงเปี๊ยกไม่ตอบสื่อ หลังสอบ 5 ชั่วโมง ส่งตัวบำบัดต่อ
หลังจากลุงเปี๊ยกได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และชี้ระบุตำรวจที่บังคับให้รับสารภาพโดยใช้วิธีการทรมาน ซึ่งใช้เวลานาน 5 ชั่วโมงเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดปทุมธานี ได้พาตัวลุงเปี๊ยก ออกจากห้องเพื่อไปส่งที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จังหวัดปทุมธานี เพื่อรักษาอาการโรคพิษสุราเรื้อรัง
โดยระหว่างที่ลุงเปี๊ยกจะเดินไปขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามลุงเปี๊ยกว่า ตอนนี้มีความรู้สึกที่สบายใจขึ้นหรือยังมีความวิตกกังวลอะไรอยู่หรือไม่ ลุงเปี๊ยกไม่ตอบคำถามทำสีหน้านิ่งเฉย และเมื่อถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงที่ลุงเปี๊ยกถูกบังคับทรมานโดยการใช้ถุงดำคลุมหัวและจับถอดเสื้อนั่งตากแอร์ เพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นผู้ฆ่าป้าบัวผัน จำได้หรือไม่ว่าใครเป็นคนทำและมีเจ้าหน้าที่ที่ร่วมด้วยกี่นาย เป็นนายตำรวจคนไหนบ้างซึ่งทางลุงเปี๊ยก ไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด ได้แต่สายหน้าไปมาแล้วเดินขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังโรงพยาบาลธัญญารักษ์พร้อมกับเจ้าหน้าที่
ขณะที่ทีมข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดปทุมธานี ที่รับลุงเปี๊ยกมาดูแล ระบุว่า หลังจากที่พาลุงเปี๊ยกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ ต้องดูว่าแพทย์จะใช้เวลาในการรักษาตัวประมาณมากน้อยเท่าใด และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการรักษาแล้ว จะไปรับลุงเปี๊ยกเบื้องต้นก่อนที่จะประสานญาติของลุงเปี๊ยก ว่าสามารถที่จะนำไปอยู่ด้วยด้วยหรือไม่ และถ้าหากญาติไม่สามารถที่จะดูแลลุงเปี๊ยกได้ ทางศูนย์ควบคุมคนไร้ที่พึ่ง ก็จะนำตัวลุงเปี๊ยกเข้าสู่กระบวนการสงเคราะห์ เพื่อหาวิชาชีพและที่อยู่ให้กับลุงเปี๊ยกเป็นหลักแหล่ง เพราะไม่ต้องการให้กลับไปในที่สังคมเดิมๆ เพราะอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาอีก
พี่สะใภ้อึ้ง เพิ่งรู้ลุงเปี๊ยกถูกถุงคลุมหัว
ทีมข่าวช่อง 8 ได้มาพูดคุยกะบนางละมุน พี่สะใภ้ ของลุงเปี๊ยก อีกครั้ง ก่อนที่จะเปิดคลิปเสียงบางช่วงบางตอนที่ลุงเปี๊ยกพูดคุยกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิวินวิน ให้นางละมุนฟัง
หลังจากฟังคลิปเสียง นางละมุน ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากฟังคลิปเสียงแล้ว ตัวเองก็อยากให้เจ้าหน้ามี่ตำรวจที่นายเปี๊ยกพูดถึง ออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าได้ทำแบบนั้นกับนายปัญญาจริงหรือไม่ และทำไปทำไม เพราะตัวเองก็อยากได้ความกระจ่างจากเรื่องนี้เหมือนกัน
ส่วนเรื่องบวช ถ้านายเปี๊ยกบำบัดเสร็จแล้ว ตัวเองก็อยากให้เขาไปบวชที่จังหวัดสุรินทร์ บ้านเกิดของเขา เพราะตัวเองไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเขาแล้ว