เปิดวงจรปิด เหตุโรงงานพลุระเบิด
ทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิด ขณะที่คุณยายสวัสดิ์ อายุ 82 ปี ได้นอนพักผ่อนอยู่บริเวณใต้ถุนบ้านพื้นที่ หมู่ 3 ต.ศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 700 เมตร พบว่าในช่วงเวลา 15.19 น. ของวันที่ 17 มกราคม 2567 ได้เกิดเหตุโรงงานพลุระเบิด จนทำให้คุณยายสวัสดิ์สะดุ้งและลุกขึ้นนั่งและได้ตะโกนว่า “ใครทำอะไรที่ไหนวะ” จากความตกใจ จนทำให้เกือบหัวใจวาย
ทีมข่าวได้เดินทางมาที่บ้านคุณยายสวัสดิ์ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ขณะตนกำลังนอนเล่นอยู่ภายในบ้านระหว่างนั้นตนได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง ซึ่ง ณ ตอนนั้นตนยอมรับว่า รู้สึกตกใจจนแน่นหน้าอก พร้อมตะโกนว่า “ใครทำอะไร ที่ไหนวะ” จนกระทั่งมีชาวบ้านเขาพูดกันว่าเกิดเหตุโรงงานพลุระเบิด
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โชคดีที่ตนไม่มีญาติพี่น้องคนใดทำงานอยู่ภายในโรงงานดังกล่าว แต่ก็รู้สึกตกใจ เพราะตอนเกิดเหตุนั้น ลูกชายไปวิดน้ำที่บริเวณทุ่งนา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 500 เมตร โชคดีที่ปลอดภัย แต่ตนก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะผู้ที่เสียชีวิตนั้นส่วนมากก็เป็นชาวบ้านในหมู่บ้าน และบางคนตนก็รู้จัก
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า มีโรคประจำตัวอยู่ คือ โรคความดันเบาหวาน และไขมัน ซึ่งโชคดีที่ขนาดได้ยินเสียงระเบิดนั้นตนไม่ได้เป็นอะไรมาก
แรงระเบิดสะเทือนไกล 7 กิโลเมตร ทำบ้านร้าว
ทีมข่าวได้เดินทางมาที่บ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่ 10 ต.ศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยบ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ซึ่งภายในบ้านได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนระเบิด จึงเป็นเหตุทำให้ฝ้าเพดานร่วงลงมา และบ้านร้าว
นางบังอร อายุ 48 ปี ชาวบ้าน ม.10 ที่ได้รับผลกระทบ เผยว่า ขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่ภายในอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดประมาณ 7 กิโลเมตร ระหว่างนั้นช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ตนได้ยินเสียงระเบิดดัง 1 ครั้ง ตอนนั้นตนไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่ายางระเบิด จึงวิ่งออกมาดูแต่กลับว่าไม่ใช่เหตุยางระเบิด แต่สิ่งที่ตนเห็นคือแสงสีขาว ๆ ฟุ้งเหมือนลักษณะดอกเห็ดกระจัดกระจายเต็มทุ่งนา บริเวณโรงงานพลุ
ด้วยความตกใจจึงรีบเดินทางไปบริเวณจุดเกิดเหตุทันที เพื่อดูว่ามีญาติพี่น้องตนที่ทำงานภายในโรงงานนั้น อยู่ในพื้นที่ที่เกิดเหตุหรือไม่ แต่โชคดีที่ไม่มีใครอยู่
หลังจากนั้นตนจึงเดินทางกลับมาที่บ้านพัก และเห็นว่าบ้านพักของตนนั้น ฝ้าเพดานทะลุลงมา ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้คิดอะไรมาก จึงเก็บทำความเศษฝ้าเพดานที่ร่วงลงมา กระทั่งตกดึกขณะที่ตนกำลังนอนอยู่ภายในห้องพัก ระหว่างนั้นฝ้าเพดานครึ่งหนึ่งของห้องได้ร่วงลงมา ซึ่งโชคดีที่ตนและสามีนอนอยู่ห่างจากฝ้าเพดานที่ร่วงลงมา
ยอมรับว่า รู้สึกกังวลถึงความปลอดภัย กลัวว่าฝ้าเพดานจะร่วงลงมาเพิ่มอีก ตอนนี้ตนจึงต้องย้ายห้องไปนอนอีกห้องหนึ่ง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนได้รับความเสียหายครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก และยังไม่สามารถประเมินค่าเสียหายได้อยู่ในระหว่างรอช่างเข้ามาประเมินและซ่อมแซม
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า ที่ผ่านมารู้สึกกังวลอยู่บ้างเล็กน้อย ถึงแม้ว่าบ้านตนไม่ได้อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงชาวบ้านที่เขาไปทำโรงงานพลุ แต่ตนก็เข้าใจว่าหากเขาไม่ทำกัน เขาก็คงลำบาก เพราะการทำพลุนั้น ถือเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านละแวกนี้