แฉวีรกรรมแก๊งทรชน บุกปาระเบิดป่วนเมือง

กรณีกัน จองพลัง พากลุ่มผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกกลุ่มเยาวชน “ตังค์ไม่ออก” มีการกระทำก่อเหตุ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ มาร้องขอความเป็นธรรมและติดตามความคืบหน้าทางคดีที่ สภ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นั้น

โดย กันจอมพลัง ได้มีการติดต่อพูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหายและพยานล่วงหน้าหลายวัน ก่อนที่จะพาผู้เสียหายเดินทางมาที่โรงพักในวันนี้ เพื่อมาร้องขอความเป็นธรรม แต่ปรากฏว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ตำบลคลองน้ำใส จังหวัดสระแก้ว บุกมาเขวี้ยงปาระเบิดปิงปอง ที่หน้าบ้านของพยานและตัวแหล่งข่าวที่กัน จอมพลัง กำลังจะพามาร้องกับตำรวจที่โรงพักเมื่อเช้าวันนี้ และก่อนหน้านี้ก็เคยก่อเหตุเขวี้ยงปาระเบิดสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านในพื้นที่มาแล้วอีกหลายครั้งนับไม่ถ้วน จนกระทั่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ซึ่งเป็นเหตุการณ์เก่าที่เคยก่อเหตุของกลุ่มนี้



และปรากฏว่าเมื่อ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองน้ำใส จังหวัดสระแก้ว ได้ไปควบคุมตัว 3 เยาวชนที่เป็นกลุ่มคนก่อเหตุขว้างปาระเบิด ในคืนวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเข้าควบคุมตัวนายเติ้ล นายตูน และนายคิง ทั้ง 3 คนเป็นเยาวชน จึงต้องมีการเชิญผู้ปกครองมาร่วมในการสอบปากคำด้วย ซึ่งตำรวจได้มีการแยกสอบกลุ่มเยาวชน และการสอบสวนนั้นก็ยังคงมีผู้ครองรวมถึงผู้ใหญ่บ้านร่วมเป็นพยานและฟังการสอบ เพราะเนื่องจากมีการปฏิบัติตามเงื่อนไขการสอบปากคำเยาวชนต้องมีสหวิชาชีพร่วมด้วย

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางวิภาดา (นามสมมติ) หนึ่งในผู้ปกครองของเยาวชน (นายคิง) เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่รู้ว่าลูกชายไปเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน และไปปาระเบิดหรือไปทำใครไว้ แต่เข้าใจว่าในบรรดากลุ่มเพื่อนหรือที่เรียกกันว่าแก๊ง พากันไปก่อเหตุและมาหลบซ่อนซุกตัวอยู่ที่บ้านของตนเอง จึงกลายเป็นว่าลูกชายของตนเองก็ถูกจับไปด้วย และชนวนเหตุนั้นตัวเองก็เชื่อว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะไปข่มขู่พยานหรือไปเขวี้ยงปาใส่แหล่งข่าวของกัน จอมพลัง แต่เป็นเพราะไปปาระเบิดใส่คู่อริที่มีเรื่องกันอยู่แล้ว แต่ด้วยความบังเอิญไปเกี่ยวข้องกับบ้านของแหล่งข่าวของกันจอมพลัง

และในวันนี้ที่ตนเองต้องเดินทางมาเป็นพยานเพราะลูกชายถูกจับเมื่อคืนนี้ โดยลูกชายบอกว่าตำรวจกำลังจะพาตัวไป ตัวเองก็ไม่รู้ว่าลูกชายไปทำผิดอะไรไว้ แล้วเมื่อกี้ได้เข้าไปพูดคุยก็คุยกันเพียงแค่ไม่กี่คำ จึงยังไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด แต่เชื่อว่าเหตุผลที่ลูกชายถูกจับเป็นเพราะคบเพื่อน และพาเพื่อนที่ไม่ดีเข้ามาอยู่ในบ้าน แล้วดันไปโยงเกี่ยวข้องกับแก๊งตังค์ไม่ออก จึงกลายเป็นเรื่องบานปลาย และที่สำคัญตนเองก็กำลังจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.เด็ก ที่ตำรวจอ้างว่าตนเองไม่ดูแลลูก ซึ่งตนเองก็ให้ลูกอยู่บ้านโดยปกติอยู่แล้ว จึงค่อนข้างแปลกใจว่าตนเองไม่ดูแลลูกตรงไหน ตนเองก็อยากจะรู้คำตอบจากปากตำรวจเหมือนกัน



ด้านของ พ.ต.อ.วิชาญวิทย์ เคยการ ผกก. สภ.คลองน้ำใส จ.สระแก้ว เผยว่า เหตุการณ์ที่ชุดสืบสวนไปจับกุมตัวเยาวชนเพราะเกี่ยวข้องกับการปาระเบิดในคืนวันที่ 17 ม.ค. ในพื้นที่หมู่บ้าน เป็นเหตุทำให้ต้องเข้าจับกุมตัวกลุ่มก่อเหตุ และหลังจากที่เข้าควบคุมตัวไม่เจอระเบิดปิงปองหรือระเบิดที่ใช้ในการปา เข้าใจว่ามีการปาแตกไปแล้วจึงไม่มีเก็บเอาไว้ แต่ไปพบอาวุธมีดซึ่งเป็นของกลาง จึงได้มีการตรวจยึดมา

สำหรับพฤติกรรมการก่อเหตุ ตนเองก็เชื่อว่าเป็นเพราะกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่เกิดเหตุ ไม่พอใจกันแล้วมีการแก้แค้นกันไป แต่อาจไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกลุ่มแก๊งตังค์ไม่ออกในพื้นที่อรัญประเทศ เพราะมันเกิดเหตุคนละพื้นที่กัน ส่วนตัวจึงเชื่อว่าไม่ใช่เหตุต่อเนื่องหรือกลุ่มเดียวกัน

แต่สำหรับในพื้นที่คลองน้ำใส ยอมรับว่ากลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ก็มีบางคนและกลุ่มที่รู้จักกับกลุ่มอรัญประเทศ หรือกลุ่มตังค์ไม่ออก เพราะเนื่องจากมีบางคนไปเรียนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจึงมีเพื่อนที่รู้จักกัน แต่ไม่เคยมีรายงานว่าไปร่วมก่อเหตุกับกลุ่มดังกล่าว จึงเชื่อว่าเป็นเพียงแค่ความรู้จักแต่ไม่ได้ ร่วมก่อเหตุและเกี่ยวข้องโดยตรง

แจ้งจับไอ้โก๊ะ ขืนใจสาวประเภทสอง

เช้าวันนี้ (19 ม.ค.) กัน จอมพลัง ได้เดินทางมาพร้อมกับกลุ่มบรรดาผู้เสียหายที่อ้างว่าเป็นการกระทำและการก่อเหตุของแก๊งเยาวชน 5 คน ที่ตั้งแก๊งในนาม “ตังค์ไม่ออก”

โดยมีเคสคือ น้องหลุยส์ เป็นสาวประเภทสอง อายุ 16 ปี ชาวจังหวัดกัมพูชา ซึ่งเติบโตและเรียนอยู่ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เจ้าตัวเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเรียนช้ากว่าเกณฑ์แม้ว่าจะอายุมาก ได้เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับกัน จอมพลัง หลังจากที่กัน จอมพลังพามาที่โรงพัก สภ.อรัญประเทศ ได้เข้าพบกับพนักงานสอบสวนกรณีคดีเด็ก โดยมีพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้วร่วมติดตามการสอบสวนด้วย โดยเจ้าตัวอ้าง ถูกนายโก๊ะ ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนในจำนวน 5 คน ที่ถูกจับกุมในคดีของป้าบัวผัน กระทำอนาจารข่มขืนบังคับจิตใจ ทางทวารหนัก เพราะเนื่องจากน้องเป็นสาวประเภทสอง แต่มีการไว้ผมยาวและมีนม แต่งกายคล้ายผู้หญิง



ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากน้องหลุยส์ แต่เจ้าตัวไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เพราะอัพอายและกลัว โดยเจ้าตัวเผยว่า เป็นเหตุการณ์เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ถูกกลุ่มวัยรุ่นขับรถมาเจอตัวในตลาดสด ซึ่งพ่อแม่ชาวกัมพูชาขายของอยู่ จากนั้นบังคับให้ออกไปจากตลาดแล้วมีการกระทำ ซึ่งตอนแรกกลุ่มก่อเหตุอาจเข้าใจว่าน้องหลุยส์เป็นผู้หญิง แต่เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ชายจึงได้เปลี่ยนใจและไปหาเหยื่ออื่น แต่มีนายโก๊ะซึ่งยังคงกระทำผิดต่อ โดยการบังคับขืนใจและร่วมเพศทางทวารหนัก

และในระหว่างการสอบสวนนั้นเข้าใจว่าผู้ปกครองของน้องหลุยส์เป็นชาวกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงได้มีการเชิญครูผู้สอนและครูประจำชั้น มาร่วมในการสอบสวน

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวขนมจีน (นามสมมติ) ครูของน้องหลุยส์ เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องหลุยส์บ้าง เพราะเข้าใจว่าเป็นส่วนที่เกิดขึ้นนอกโรงเรียน และเด็กก็ไม่เคยมาเล่าให้ฟัง อาจเกิดจากความอับอายหรือไม่กล้าพูดกับใครหรือไม่ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองก็ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนก่อเหตุ เป็นตัวของนายโก๊ะจริงหรือไม่ หรือมีการจับมาโยงประเด็นเพราะเนื่องจากกระแสข่าวเรื่องเยาวชน 5 คน กำลังแรงหรือไม่ แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับการตรวจสอบและการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง

สำหรับนิสัยของตัวน้องแม้ว่าจะอายุมากถึง 16 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปี 3 เพราะเนื่องจากเข้าเรียนช้าต่ำกว่าเกณฑ์ และเจ้าตัวมักจะมีนิสัยไม่อยากจะมาโรงเรียน จึงไม่รู้ว่าเกิดจากเหตุอะไร หลายครั้งครูไปเยี่ยมบ้านน้องก็ทำทีเหมือนจะไม่ค่อยอยากจะเรียน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเกิดจากผลกระทบเรื่องของการถูกกระทำอนาจารหรือไม่ที่ทำให้ตัวน้องเป็นแบบนี้ และตัวของน้องหลุยส์ยอมรับว่าเป็นเด็กผู้ชาย แต่การแต่งกายและปฏิบัติตัวเหมือนเด็กผู้หญิง ก่อนหน้านี้ก็มีการซื้อวิกมาสวมใส่ แต่ช่วงหลังก็มีการไว้ผมยาว ซึ่งน้องก็เริ่มสรีระ (นม) เสมือนผู้หญิง จึงไม่แน่ใจว่ากลุ่มก่อเหตุเข้าใจผิดหรือไม่หรือจงใจ