จากกรณีเพจ “แม่ทัพลิง จุ๊กกรู๊” โพสต์ภาพสามเณรรูปหนึ่งและระบุข้อความว่า "กลางวันสำรวม กลางคืนสำราญ ตรอกข้าวสารเป็นที่แปลงร่างเป็นฆราวาส"

ซึ่งในภาพที่โพสต์ สามเณรรูปนั้นห่มผ้าเหลือง ถ่ายรูปในสนามบิน ขณะที่อีกรูปที่เพจเผยแพร่เป็นรูปถ่ายสามเณรหลังแปลงโฉมไม่ห่มผ้าเหลือง สวมใส่ชุดธรรมดาเสื้อสีน้ำเงิน แล้วยิ้มร่าเริงขณะไปเที่ยวกับเพื่อนที่ถนนข้าวสารตอนกลางคืน โดยยังแบกเพื่อนรายหนึ่งคล้ายเดินไม่ไหวหรือเมาบนหลัง

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทางเพจก็นำรูปมาแฉพฤติกรรมสามเณรรูปนี้ เป็นรูปที่สามเณรยิ้มถ่ายรูปขณะห่มผ้าเหลือง ส่วนอีกรูปสวมใส่เสื้อสีขาวแล้วไปเที่ยวกับเพื่อนตอนกลางคืน ลักษณะประคองเพื่อนที่เมาบนถนน

โดยเพจระบุข้อความว่า ขอบคุณซองงานนิมนต์ อาตมาจึงได้แปลงร่างไปตรอกข้าวสาร ได้ข้อมูลจากทางบ้าน เป็นตัวการแฉเพื่อน ถ่ายรูปเวลาออกเที่ยวด้วยกัน

นอกจากนี้ เพจแฉอีกว่า สามเณรรูปนี้สมัยก่อน เคยนัดพบผู้ชายในห้องจนแชร์ในทวิตเตอร์ แอดเอามาลงออกข่าวไปรอบละ ตอนนี้ก็ยังแอบเที่ยวแทบทุกวัน มึงนึกว่ากูไม่รู้หรอ ซึ่งรูปนี้เพื่อนมันไปเฝ้าผัวโดนจับเล่นพนัน

วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางไปที่วัดแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ เพื่อไปตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยเราได้นำภาพจากเพจดังกล่าวให้พระสงฆ์และสามเณรในวัดดู ซึ่งยืนยันว่าในรูปคือ สามเณรเดชาวัตร

ต่อมา เราพบสามเณรเดชาวัตรอยู่ใต้อาคารเรียน จึงตรงเข้าไปเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง สามเณรเดชาวัตร อ้างว่า ไม่มีอะไรชี้แจง โดยตนไปแจ้งความถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่ขออธิบายขยายความเรื่องอะไร เรื่องที่ปรากฏตนแต่งชุดธรรมดาเป็นช่วงที่ตนลาสิกขาเพื่อไปเกณฑ์ทหาร ตนชี้แจงได้หมด แต่ไม่ขอชี้แจงกับสื่อ ไม่อยากพูดเยอะ และไม่จำเป็นต้องบอกไทม์ไลน์ตัวเอง

จากนั้นสามเณรเดชาวัตรก็ลุกออกไป ย้ำคำพูดว่า “ไม่พูดไม่ชี้แจง และไม่ต้องตามมานะ เพราะจะเข้าไปเขตสังฆาวาสเข้าได้แค่พระสงฆ์” ก่อนเดินไป โดยไม่ขอชี้แจงอะไรเพิ่ม

ขณะที่นายเฉลิมศักดิ์ (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่วัด  บอกว่า วันนี้ทางเจ้าอาวาสไม่อยู่ที่วัดเพราะไปทำธุระต่างจังหวัด เบื้องต้นพระผู้ใหญ่ยังไม่ทราบเรื่องนี้ รวมถึงพระในวัด เจ้าหน้าที่วัดก็ยังไม่ทราบ เพิ่งทราบจากที่ทีมข่าวช่อง 8 มาถามข้อเท็จจริง จึงรู้ว่าพฤติกรรมพระในวัดมีพฤติกรรมดังกล่าว 

จากภาพที่เพจนำมาแฉพระที่ห่มผ้าเหลืองกับชายที่แต่งชุดธรรมดาคือคนเดียวกัน เชื่อว่าพระผู้ใหญ่ต้องตรวจสอบและขอเชิญให้ออกจากวัดทันที เพราะพฤติกรรมแบบนี้ว่ากล่าวตักเตือนไม่ได้ ต้องเชิญออกจากวัด ไม่อย่างนั้นพระที่เหลือในวัดและชื่อเสียงวัดจะเสียหมด