"ก้าวไกล" เปิดหลักฐาน 6 ข้อ เชื่อ "พิธา" รอดคดีถือหุ้น ITV ลุ้นกลับสภาฯ 24 ม.ค.นี้
พรรคก้าวไกล เผยแพร่คลิปความยาว 7 นาที เปิดหลักฐานและข้อเท็จจริงที่เชื่อว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จะรอดจาก คดีถือหุ้นสื่อ ได้กลับมาเป็น สส. และเข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯ อีกครั้ง ด้วยการประมวลภาพช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พร้อมกับยกพลโพล สะท้อนความนิยมของนายพิธาและของพรรคก้าวไกล จนคว้าชัยชนะในเลือกตั้งปี 62 พร้อมกับระบุว่า "มีกระบวนการ" ทำให้นายพิธาหลุุดเก้าอี้สส. ซึ่งส่งผลเชิงจิตวิทยาต่อการโหวตนายกฯ ด้วยการกล่าวหาว่า "ถือหุ้นสื่อ"
พรรคก้าวไกลเปิดหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ "ไอทีวี" ออกอากาศวันสุดท้ายในวัน 14 มกราคม 51 พร้อมกับให้เหตุผล 6 ข้อ ชี้ว่าไอทีวีไม่สถานะเป็นสื่อมวลชนแล้ว เช่น
1. ไม่มีใบอนุญาตคลื่นความถี่ เนื่องจากไอทีวีถูกรัฐบาลไทยแจ้งยกเลิกสัญญาตั้งแต่ พ.ศ. 2550
2. หลังจากเกิด "สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส" ไอทีวีก็เลิกประกอบกิจการโทรทัศน์
3. ประธานการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ยืนยันต่อศาลว่าไอทีวีไม่มีพนักงาน ไม่มีรายได้จากการทำสื่อ ไม่มีการทำสื่อ และยังไม่มีแผนจะทำสื่อ
4. ไม่มีหลักฐานจดแจ้งการพิมพ์ จึงไม่อาจเป็นผู้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสิ่งพิมพ์อื่นได้
5. ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการภาพยนตร์ วีดิทัศน์ และสื่อโฆษณา จึงไม่อาจประกอบกิจการดังกล่าวได้
6. ศาลปกครองสูงสุดเคยชี้ว่าไอทีวีไม่ปรากฏหลักฐานการดำเนินการสื่อวิทยุโทรทัศน์แล้ว
ที่น่าสนใจคือ พรรคก้าวไกลระบุว่า ต่อให้ไอทีวีเป็นสื่อมวลชนจริง พิธาก็ไม่ได้ถือหุ้นตั้งแต่วันสมัคร สส. เพราะตอนยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ในปี 62 ก็แจ้งชัดเจนว่าถือหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดก จากพ่อที่เสียชีวิต และต่อให้นายพิธาถือหุ้นสื่อจริง! และต่อให้ถือหุ้นสื่อจริง ก็มีสัดส่วนเพียง 0.00348% เท่านั้น ไม่สามารถครอบงำ สั่งการ ให้ทำการใดๆหรือไม่ทำการใด ๆ ได้
คลิปของพรรคก้าวไกลย้ำว่า ตอนนี้ไม่มีไอทีวีแล้ว นายพิธาก็ไม่เคยไปดีเบตในช่องไอทีวี ไม่เคยใช้ไอทีวีสร้างความนิยมให้ตนเองและพรรค หรือออกข่าวใส่ร้ายป้ายสี สร้างความเสียหายแก่คนอื่น พรรคอื่น ตอนท้ายของคลิปที่ต่อตัดโดยพรรคก้าวไกล สรุปว่า "ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรือกังวล ขอให้รอติดตามการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 24 มกราคม เวลา 14.00 น."