วันนีั (22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปติดตามความคืบหน้าที่ สภ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งพบว่ายังคงมีการเปิดให้บริการประชาชนตามปกติ แต่ในวันนี้ พบว่ามี พ.ต.ต.นิติรัฐ ศรีสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนในคดีการตายของป้าบัวผัน ได้เดินทางมาเข้าเวรสอบสวนที่ห้องสอบสวนในวันนี้ โดยเจ้าตัวได้แต่งกายด้วยเครื่องแบบของตำรวจ เข้ามาประจำเวรรับแจ้งเหตุ และการสอบสวนในวันนี้ อีกทั้งยังคงมีป้ายของเจ้าตัวติดอยู่ที่บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบว่าเวรพนักงานสอบสวนวันนี้เป็นของใคร แต่เจ้าตัวไม่ได้มีการตอบคำถามใดกับผู้สื่อข่าว
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า บริเวณห้องปฏิบัติการพิเศษของโรงพักอรัญประเทศ ได้มีการเรียกให้ผู้ปกครองของเยาวชน 5 ราย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดูแล และเป็นผู้ปกครองอันดับที่ 1 ของแต่ละคน เข้ามาสอบปากคำ และเชิญพยานของแต่ละคนที่ยืนยันว่าผู้ปกครองอันดับ 1 เป็นคนใกล้ชิดและดูแลเยาวชนที่เป็นผู้ต้องหา เพื่อที่จะสอบปากคำและถูกแจ้งความดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.เด็ก โดยผู้ปกครองส่วนใหญ่ที่เดินทางขึ้นไปที่ห้องปฏิบัติการนั้น ได้มีการแอบใช้บันไดหนีไฟขึ้นลง เพราะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับผู้สื่อข่าวที่ดักรอ
มีรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้หลังเวลา 10:00 น. ได้มีนายปอน (นามสมมติ) พ่อของนายบิ๊กเยาวชนอายุ 16 ปี เดินทางมาเป็นคนแรก จากนั้น มีผู้ปกครองของนายโก๊ะ ซึ่งเป็นแม่ ผู้ปกครองของนายเชน ซึ่งเป็นแม่ ผู้ปกครองของนายกัสซึ่งเป็นแม่ และผู้ปกครองของนายแบงค์คือตาวัย 80 กว่าปี เดินทางมาตามลำดับเพื่อที่จะเข้าสอบปากคำ ขณะที่ พ่อและแม่ของนายเชน เดินทางมาเป็นกลุ่มสุดท้าย แต่ได้เข้าสอบปากคำเพียงแค่ 1 ชั่วโมง โดยมีแม่ของนายเชนเป็นผู้ปกครองอันดับ 1 จากนั้นได้เดินทางกลับออกไปก่อน
และยังมีรายงานว่า บริเวณชั้น 2 ของห้องปฏิบัติการพิเศษ ยังพบว่ามีคณะกรรมการจากสำนักงานจเรตำรวจ และคณะกรรมการที่ถูกแต่งตั้งขึ้นพิเศษ ในการเข้ามาสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับการรวบรวมพยานหลักฐาน ในการเอาผิดทีมตำรวจในคดีของป้าบัวผันและลุงเปี๊ยก เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีเพิ่มเติมใน มาตรา 157 แต่เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่ามีการเรียกสอบใครบ้าง
ผู้ปกครองแก๊งทรชนน้อมรับผิด ปล่อยลูกฆ่าบัวผัน
วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับปอน (นามสมมติ) พ่อของนายบิ๊ก เจ้าตัวลงมาเจอกับทีมข่าวบริเวณด้านล่างของห้องปฏิบัติการ ซึ่งมีท่าทีที่เคร่งเครียด ประกอบกับที่นิ้วมือมีรอยหมึกสีดำติดอยู่ ซึ่งพ่อของนายบิ๊กเปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาในคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.เด็ก ซึ่งมีการละเลยและไม่ดูแลบุตรหลานจนเป็นเหตุทำให้มีการไปก่อเหตุอุกฉกรรจ์ โดยผู้ปกครองที่เดินทางมาในวันนี้ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาครบถ้วนหน้า แต่มีการแจ้งความเฉพาะผู้ปกครองอันดับ 1 เป็นผู้ปกครองหลักเท่านั้น
นายปอน เผยว่า เมื่อวานนี้ตนเองให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่อง 8 ก็ยังเป็นเพียงแค่การคาดการณ์ และทำใจยอมรับที่วันหนึ่งจะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหา แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะมีการเรียกผู้ปกครองของเยาวชนทั้งหมดเข้ามาแล้วมีการแจ้งข้อกล่าวหาทันที ส่วนตัวก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทุกคนไม่มีการดูแลลูกหลานของตนเองจริง จึงเข้าข่ายเกี่ยวกับการกระทำผิดว่าไม่ดูแลบุตรหลาน
ก็อยากจะฝากถึงผู้ปกครองคนอื่นให้ดูแลลูกหลาน และเอาเรื่องราวของพวกผู้ปกครองของเยาวชนทั้ง 5 ไปเป็นบทเรียนเพื่อดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยแบบนี้
และการเข้าแจ้งข้อกล่าวหาในวันนี้ มีการสืบพยานจากบุคคลใกล้ชิดและชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อที่จะยืนยันว่าใครเป็นผู้ปกครองที่ดูแลเด็ก โดยในวันนี้คนเดินทางมา มักจะเป็นผู้ปกครองอันดับ 1 ของเยาวชนทั้ง 5 ทุกคน ขณะที่พ่อของนายเชนและแม่ของนายเชนเดินทางมาพร้อมกัน แต่มีแม่ของนายเชนเพียงคนเดียวที่รับว่าเป็นคนดูแลจึงถูกแจ้งข้อกล่าวหาแทนพ่อ และในวงการสอบสวนในวันนี้ ทางด้านของรักษาการผู้กำกับการ สภ.อรัญประเทศ ยังได้มีการแจ้งในที่ประชุมว่ามีเด็ก 2 คน คือ นายเชนและนายโก๊ะ ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เนื่องจากมีคดีเกี่ยวกับการอนาจาร
สำหรับกรณีที่ปรากฏภาพและคลิปการก่อเหตุของกลุ่มลูกชาย โดยนายบิ๊กมีอายุมากสุดในกลุ่มคือ 16 ปี แต่กลับไปเชื่อในกลุ่มเด็กที่อายุน้อยกว่า ช่วยกันอุ้มร่างของป้าบัวผันขึ้นมอเตอร์ไซค์ ที่เข้าใจว่าจะพากันไปส่งโรงพยาบาล แต่ความจริงแล้วพากันอุ้มไปโยนทิ้งน้ำ ส่วนตัวไม่อยากแก้ตัวแทนลูก แต่อยากจะบอกว่า นายบิ๊กแม้ว่าจะอายุมากและตัวโตกว่า แต่ไม่มีวุฒิภาวะความเป็นพี่ บังคับหรือบัญชาการใครไม่ได้ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะไปเชื่อในคำพูดของเด็กและคล้อยตาม
อย่างไรตาม นายปอน พ่อของนายบิ๊ก ยังกล่าวย้ำกับทีมข่าวว่า นอกจากที่ตนเองจะเห็นว่ามีนายโก๊ะ นายแบงค์ และนายเชน ที่เป็นเพื่อนของลูกชายไปมาหาสู่กันบ่อย และมีการรวมกลุ่มตั้งแก๊งกันเป็นกลุ่มลูกตำรวจ แต่ตนเองเชื่อมั่นว่าลูกชายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไปร่วมในกระบวนการหรือกลุ่มแก๊งตังค์ไม่ออก เพราะไม่เคยเห็นลูกชายไปร่วมก่อเหตุหรือไปอยู่กับกลุ่มนั้น จึงเชื่อว่าเป็นคนละกลุ่มกัน
แฉเชน-โก๊ะ หลอกเพื่อนอีก 3 คน ช่วยจับป้าบัวผันกดน้ำ
เพจอีซ้อขยี้ข่าว โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า เป็นแชตที่เชนเล่าเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุโดยเนื้อหาเป็นการโยนความผิดให้กับโก๊ะ โดยระบุว่า
“เปิดแชต...เชนโบ้ยโก๊ะ โยนผิดทั้งหมด ยกให้โก๊ะคนเดียว แต่วันแรกโก๊ะบอกเชนเป็นคนลงมือจับป้ากบกดน้ำ...
แชตที่เพื่อนในกลุ่มสองคนทักคุยกับเชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ในคืนวันก่อนเหตุ ซึ่งตรงกันข้ามกับในข่าว จนสงสัยว่า สรุปแล้วใครกันแน่ที่จับหัวป้ากบ
ถ้ามองเผินๆ อาจไม่มีอะไร แต่เชนย้ำว่า “โก๊ะเป็นคนทำจับหัวป้ากบลงน้ำ” ซึ่งมันจะเป็นหลักฐานสำคัญในการพิจารณาคดี และส่งผลถึงบทลงโทษ
เป็นไปได้ไหมแชตของเชนกับคลิปเสียงตำรวจ อาจส่งผลไปถึงบทลงโทษจากหนักให้เป็นเบา
ซึ่งในแชตดังกล่าวเป็นการสนทนากันระหว่างเชนกับเพื่อนรุ่นพี่มีข้อความว่า
เชน : ว่าไงพี่
รุ่นพี่ : เป็นไงบ้าง
เชน : เล่ายาวเลยพี่
รุ่นพี่ : เป็นห่วงนะเนี่ย
เชน : ผมน่าจะติดสถานพินิจอะ
รุ่นพี่ : แล้วเอ็งไปทำแบบนั้นทำไม พี่อยากรู้เอ็งตอบพี่ได้ไหม
เชน : พวกไอ้โก๊ะพี่ผมบอกตัวแล้ว
รุ่นพี่ : เห้ออ เองเอ้ยเชนนน
เชน : วันนั้นผมเจอยายกบอยู่หน้าเซเว่น ไอ้โก๊ะมันก็เดินลงไปเรียกยายกบ แล้วมันก็บอกูให้เอาดิ ผมก็เตะไปที่หนึ่งแล้วพวกผมก็ขึ้นรถไป โก๊ะมันก็บอกจะเอาไปกระทืบอยู่ศรีอรัญ ผมก็เลยไปช่วยมันยกขึ้นรถหลายรอบอยู่พี่ แล้วพวกผมก็บอกมันให้พอแล้ว มันก็บอกผมว่าเดี๋ยวกูขับเอง มันก็มาขับ ผมก็ยกกับไอ้บิ๊ก แล้วผมก็ให้ไอ้บิ๊กจับยายกบไว้ แล้วพอถึงศรีอรัญ ไอ้โก๊ะให้ผมเอายายกบไปไว้ตรงสนามฟุตบอล แล้วผมก็เตะไป 2-3 ที แล้วไอ้แบงค์ก็เอาไม้ตี จากนั้นไอ้โก๊ะก็เอาเก้าอี้เหล็กมาตีหลายรอบ แล้วมันก็เอาเหล็กให้ผมตี ผมก็ตีไป 2-3 ทีที่ตัว แล้วไอ้โก๊ะก็เอาเหล็กไปตีหัวจนแตก แล้วไอ้โก๊ะบอกว่า จะเอายายกบไปทิ้งลงน้ำ พวกผมก็บอกว่าไม่ต้อง จากนั้นก็พากันเอายายกบไปทิ้งลงน้ำ ผมกับไอ้บิ๊กช่วยกันเอายายกบลงน้ำ แล้วแกไม่จม ไอ้โก๊ะเลยเอาไม้ไปกดจนแกตาย จากนั้นก็พากันไปล้างรถ ซื้อบุหรี่ แล้วก็พากันแยกกันกลับบ้าน