เปิดห้องหั่นศพ แฉนายจ้างขังคนงานก่อนฆ่า

นางสมใจ (นามสมมติ) บอกว่า นาที่ที่ตนทราบว่าส่งแรงงานเมียนมาถูกหั่นศพแล้วนำไปยัดไว้ในตู้แช่แข็ง ตนตกใจมาก ทราบต่อมาว่า ตู้แช่แข็งดังกล่าวอยู่บริเวณชั้นสอง ในส่วนเจ้าของตึกที่เกิดเหตุมาที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ คาดว่าเครียดหลังเป็นข่าวจึงไม่ย้อนกลับมาอาคารแห่งนี้อีกในวันนี้ ยอมรับว่ามีชาวบ้านบางคนได้ยินเสียงเลื่อยไฟฟ้าดังลั่นซอยในช่วงประมาณตี 4 ของวันที่ 20 มกราคม สุดท้ายเพิ่งมารู้ภายหลังว่า น่าจะเป็นเลื่อยไฟฟ้าที่ใช้หั่นศพแรงงานเมียนมา

ในขณะที่สภาพตึกที่เกิดเหตุมีทั้งหมดสามชั้น ชั้นแรกเป็นห้องโถง และบริเวณด้านหลังเป็นห้องครัว ชั้น 2 และ 3 เป็นห้องนอน 2 ห้องและมีห้องน้ำตรงกลาง ซึ่งจุดที่ตู้แช่แข็งศพตั้งอยู่ อยู่ตรงห้องนอนติดถนนชั้นสอง

ก่อนหน้านี้เจ้าของตึกอยากขายตึกแห่งนี้ 3 ล้านบาท แต่ยังไม่มีคนซื้อ จึงปล่อยเช่าแต่ยังไม่มีคนมาเช่า จนกระทั่งนายหน้าชาวอินเดียมาติดต่อขอเช่าจึงให้เช่าก่อนเกิดเหตุดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายซันดาราเวล ผู้ก่อเหตุชาวอินเดีย ได้จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ซิก้า โกรเซรี่ส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 66 ดำเนินธุรกิจในการจัดหาแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยจดทะเบียนตั้งบริษัทให้ถูกกฎหมายก่อน จากนั้นจึงมีการลักลอบนำแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาทำงานในเมืองไทย

ต่อมา เราได้พูดคุยกับนางนฤมล ซึ่งเป็นนายจ้างของแรงงานเมียนมา เล่าว่า ร้านของตนรับแรงงานเมียนมามาทำงานตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้พบกับนายซันดาราเวล ชาวอินเดียที่เป็นนายหน้าของแรงงานเมียนมา พาแรงงานเมียนมาประมาณ 5 คน มาที่ร้านของตนเพื่อของานทำ

แต่ส่วนตัวไม่ชอบนิสัยของนายซันดาราเวล เนื่องจากตระเวนพาแรงงานเมียนมามาของานทำกับร้านของคนไทย แต่มีการหักหัวคิวแรงงานเมียนมา ตกคนละ 3,500 บาท ตนจึงไม่ชอบเพราะเป็นการเอาเปรียบแรงงานเมียนมา แต่ตอนนั้นร้านตนขาดคนงาน จึงจำเป็นต้องรับแรงงานเมียนมาที่นายซันดาราเวลเป็นนายหน้าสองคน แต่ปรากฏว่าแรงงานเมียนมาที่ตนรับ กลับอู้งานและเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน จึงทำให้มาทำงานที่ร้านตนได้เพียงสองวันเท่านั้น และไม่ทำงานอีกเลย

ตนตกใจมากที่ทราบว่านายซันดาราเวล เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ลงมือฆ่าแรงงานเมียนมา และยังเป็นคนที่ปรากฏในภาพวงจรปิดขณะไปเลือกซื้อตู้แช่แข็งที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อนำมาอำพรางศพแรงงานเมียนมา

ส่วนพฤติกรรมก่อนก่อเหตุ ก็ตระเวนหาอาคารในย่านนี้เพื่อเช่าให้แรงงานเมียนมาอยู่ตั้งแต่หลายเดือนแล้ว และมาทราบตอนหลังว่า เพิ่งย้ายมาเช่า และพักอาศัยในอาคารที่เกิดเหตุเพียงไม่กี่วันก่อนมีเหตุการณ์นี้