"แม่แตงโม" ขึ้นศาลสืบพยานโจทก์คดี "แตงโม" ตกเรือ ลั่นพร้อมสู้คดีหมิ่นประมาท เชื่อใจ "ทนายเดชา"
วันที่ 23 ม.ค. ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เดินทางมาศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมคุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ โดยวันนี้ ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์คดีการเสียชีวิตของแตงโมเป็นนัดที่ 9 ซึ่งเป็นการสืบพยานของพนักงานอัยการโจทก์ โดยทนายเดชาได้มาในฐานะทนายความของคุณแม่ซึ่งเป็นโจทก์ร่วมเป็นนัดแรก หลังคุณแม่มีการถอดถอนทนายความกลุ่มของนายชัยวัฒน์ โลมากุล อดีตที่ปรึกษากฎหมาย และแต่งตั้งทนายเดชาแทน
ทนายเดชา กล่าวว่า วันนี้รู้สึกยินดี และขอบคุณคุณแม่ที่ให้โอกาสอีกครั้ง และหวังว่าคุณแม่คงไม่เทตนอีก ครั้งที่แล้วตนเป็นทนายให้คุณแม่ได้ 77 วัน วันนี้มาเริ่มใหม่วันแรก ก็รู้สึกยินดี เหมือนพบรักใหม่ ซึ่งตนก็ไม่ได้ต้องเตรียมอะไรมาก เพราะทำคดีนี้มาตั้งแต่แรก ทราบพยานหลักฐานดีอยู่แล้ว แค่มารื้อฟื้น โดยคดีนี้ยังเหลือสืบพยานอีกประมาณ 36 นัด จะไปสิ้นสุดช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 และศาลน่าจะตัดสินปี 2568 ทั้งนี้ พยานหลักฐานต่างๆ พนักงานอัยการโจทก์ได้รวบรวมไว้ครบแล้ว ตนในฐานะทนายความโจทก์ร่วมมีหน้าที่ช่วยซักถามในบางประเด็นเท่านั้น
ด้านคุณแม่ภนิดา กล่าวว่า วันนี้ได้ทนายเดชากลับมาเป็นทนายความให้ รู้สึกสบายใจมาก เหมือนยกภูเขาออกจากอก เพราะทนายเดชาเก่งอยู่แล้ว ตนมีความมั่นใจ ช่วงนั้นแค่ขัดใจกันนิดเดียว มองกันคนละอย่าง ไม่ได้ทะเลาะกัน ยังไปทานข้าวด้วยกัน หลังจากนั้น คุณแม่เปลี่ยนทนายไปอีก 2-3 คน แต่ไม่ถูกใจก็เปลี่ยน เพราะทำคดีไม่คืบหน้า ไม่เก่ง ซึ่งตนก็ดูทนายเดชาทำงานมาตลอด มีความแม่นยำในข้อกฎหมาย จึงตัดสินใจกลับมา และยืนยันหลังจากนี้จะไม่เปลี่ยนทนายแล้ว เพราะเหนื่อยแล้ว ทนายเดชาเก่งที่สุดแล้ว “ขอฝากชีวิตไว้กับพี่เด”
ส่วนกับนายชัยวัฒน์ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย คุณแม่ บอกว่า หลังมีการแถลงข่าวไปก็ยังไม่ได้เจอกันอีก โดยตนรู้มาว่านายชัยวัฒน์หนีอยู่ และไม่ได้ติดต่อตนมา หลังจากเอาเงินตนไปก็หายไปเลย และหลังจากแถลงข่าวไป จนวันนี้ตนก็ยังไม่ได้เงินคืน แต่นายชัยวัฒน์ก็มีรับปากว่าจะคืนเงิน 150,000 บาทให้ แต่ไม่ได้ระบุเวลา พร้อมบอกด้วยว่า เงิน 150,000 บาท สำหรับตนมันน้อย แต่ตนมองว่า ถึงน้อยก็เป็นสิทธิที่ตนควรได้ เพราะลูกชายตนให้โบนัสมา
และล่าสุด ตนก็เพิ่งทราบว่า นายชัยวัฒน์ ยื่นฟ้องตนฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หลังจากที่ตนแถลงข่าวเรื่องถูกยักยอกเงิน ซึ่งตนไม่รู้สึกอะไร เฉยๆ เพราะตนไม่ได้มีความผิดอะไร อีกฝ่ายต่างหากที่มี ตนพร้อมสู้ ให้ทนายเดชาจัดการ พร้อมฝากถึงนายชัยวัฒน์ ถ้าอยากฟ้อง ก็จัดมาเลย หลายๆ คดีก็ได้ ตนรู้ตัวว่าไม่มีอะไรให้ฟ้องได้
คุณแม่ภนิดา บอกอีกว่า นายชัยวัฒน์ เป็นคนที่เขียนคำฟ้องต่างๆ แล้วเอามาให้ตนเซ็น ซึ่งบางครั้งคำฟ้องเยอะๆ ตนก็ดูไม่หมด และนายชัยวัฒน์ ก็มักจะฟ้องเรียกเงินจำนวนสูงเป็นหลักร้อยล้าน และเคยเรียกถึงจำนวน 300 ล้านบาท ที่พอตนรู้ตนต้องมารีบถอน เพราะเดี๋ยวจะมีปัญหาเอง ซึ่งตนมองว่า นายชัยวัฒน์ คงจะเดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะเคยไปทานข้าวด้วยกัน แล้วมาขอเงินตน 10,000 บาท ตนก็ให้กระเป๋าเงินไปนับเอง แต่นายชัยวัฒน์หยิบเงินไป 20,000 บาท แต่ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากได้ก็ให้ไป
อย่างไรก็ตาม ตนได้เตรียมที่จะปรึกษาทนายเดชา ในการขอลดจำนวนเงินค่าเสียหายที่เรียกจากจำเลยในคดีไปก่อนหน้านี้เป็นเงิน 179 ล้านบาท เพราะมองว่าเงินจำนวนนี้เยอะเกินไป ซึ่งเป็นตัวเลขที่มาจากความเห็นของนายชัยวัฒน์ โดยตนอยากลดลงมาให้เป็นตัวเลขที่เหมาะสม จำเลยสามารถชำระได้
ส่วนกับจำเลยบนเรือ ก็ไม่ได้คุยกัน คุยผ่านทนายความ ซึ่งกับแซน วิศาพัช ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แซนยังรักและเคารพตน ตนมองว่าแซนนิสัยน่ารักมีสัมมาคารวะ เดี๋ยวคงได้มีภาพกอดกันอีก ไม่เหมือนกับจำเลยบางคนที่เคยบอกว่า ไม่สวัสดีตน เพราะเสียเวลา
เมื่อถามถึง นายช้าง คนสนิทของคุณแม่ คุณแม่บอกว่า ก็ยังทำงานให้ตนปกติ ไม่ได้มีอะไร แต่วันนี้ไม่ได้มา เพราะพี่ช้างกลัวสื่อ