น้องใช้อีโต้ ฟันคอพี่ชายสาหัส อ้างพี่มาขอที่ดินมรดกไปชายเพิ่ม
วันที่ 23 มกราคม 2567 ร.ต.อ.ทิชานนท์ เพิ่มพูน พนักงานสอบสวนเวร สภ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ จึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมังกรศรีบุญเรือง เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ บริเวณกระท่อมด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน สวนสวรรค์ หมู่ที่ 4 ต.หันนางาม อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งคนเจ็บพบบาดแผลถูกฟันบริเวณลำคอด้านซ้ายเป็นแผลขนาดใหญ่ นอนหายใจรวยรินอยู่บริเวณริมถนน
ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้ช่วยกันยืนเฝ้า จนเจ้าหน้าที่เดินทางมาช่วยเหลือ หลังจากนั้น หน่วยกู้ภัยมังกรศรีบุญเรืองได้นำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอศรีบุญเรือง ทราบชื่อต่อมา คือ นายเทิดศักดิ์ อายุ 46 ปี ทางโรงพยาบาลเห็นว่าอาการสาหัสจึงได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหนองบัวลำภู
ส่วนผู้ก่อเหตุชาวบ้านที่พบเหตุการณ์ บอกว่า คือ นายมนัส อายุ 40 ปี อยู่บ้าเดียวกัน เป็นน้องชายของผู้ถูกฟัน หลังก่อเหตุได้ใช้มือปิดลำคอเดินมาร้องขอให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงจากที่เกิดเหตุประมาณ 400 เมตรช่วยเหลือ ซึ่งชาวบ้านได้แจ้งให้ ส.อบต.หันนางาม โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจและแจ้งหน่วยกู้ภัยมังกรให้มาช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยผู้ก่อเหตุได้กลับไปนั่งอยู่ที่กระท่อมนาที่พี่ชายนอนพัก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีบุญเรือง จึงได้ไปควบคุมตัวนายมนัส มาสอบสวนที่ สภ.ศรีบุญเรือง พร้อมกับตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด
ผู้ต้องหาได้ให้การว่า ตนเองได้ทะเลาะกับพี่ชายเรื่องที่ดินมรดกที่พี่ชายเอาไปขายแล้วบางส่วน เมื่อเลิกกับเมียก็ยังจะมาเอาอีก จึงได้เกิดการโต้เถียงกัน ทำให้เกิดบันดาลโทสะ ใช้อีโต้ฟันบริเวณลำคอด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังก่อเหตุแล้วก็รู้สึกเสียใจ ไม่รู้ว่าพี่ชายบาดเจ็บขนาดไหน ส่วนสารเสพติดเจ้าหน้าที่ตรวจแล้วไม่พบ
พ.ต.อ.สุมิตร นันสถิตย์ ผกก.ศรีบุญเรือง ได้สอบปากคำของผู้ต้องหาร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การว่า เป็นความขัดแย้งในเรื่องของมรดก และยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดอีโต้ฟันเข้าบริเวณลำคอด้านซ้ายจริง จึงได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น
ด้านนางเรืองศีลป์ อายุ 41 ปี เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้พบผู้บาดเจ็บถูกฟันล้มลงนอนอยู่บริเวณใกล้กอไผ่ของกระท่อม เห็นเลือดไหลเต็มตัว เห็นแล้วไม่กล้าดู ก็เลยรีบกลับมาบอกเพื่อนบ้านให้โทรไปแจ้งตำรวจและกู้ภัยมาช่วย ช่วงที่ตนเองกลับมาบอกเพื่อนบ้าน ผู้บาดเจ็บได้พยายามเดินมาร้องขอความช่วยเหลือจากนายสงค์ และนางสำรวม เพื่อนบ้าน นายสงค์จึงได้บอกให้น่งสำรวมภรรยาไปเรียกรถพยาบาลมารับตัว ซึ่งขณะนั้นผู้บาดเจ็บมีการตัวเหลืองซีดมากแล้ว เนื่องจากเสียเลือดมากและพูดไม่ค่อยจะออกแล้ว จึงได้แต่บอกว่าให้เข้มแข็งอดทนไว้ กลัวผู้บาดเจ็บจะหลับ จึงได้ไปล้มตัวนอนที่ข้างถนนรอรถพยาบาลมารับ ซึ่งเพื่อนบ้านได้พยายามบอกกับพี่ชายผู้ถูกฟันว่า ให้ระวังจะเสียเปรียบเขา เพราะเคยเห็นตบตีแม่ ทำร้ายพ่อ และในครั้งนี้ก็ได้มาก่อเหตุฟันคอพี่ชายอีก