จากกรณีเมื่อเวลา 04.30 น. มีผู้พบร่างผู้เสียชีวิตในคอนโดแห่งหนึ่ง ภายในซอยประชาอุทิศ 24 คือ นางสาวธมลวรรณ หรือหวานเจี๊ยบ อายุ 23 ปี ดีเจและเน็ตไอดอลชื่อดัง นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน สภาพเปลือย ส่วนที่มือซ้ายพบปืนแม็กกาซีน วางไว้ในมือ สภาพบาดแผลพบรอยถูกยิงบริเวณเหนือกกหูด้านซ้าย โดยเพื่อนผู้เสียชีวิตแจ้งให้ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ
ต่อมาเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง และ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้เดินทางไปยังคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านสนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี เพื่อควบคุมตัวนายติณห์ หรือเสี่ยชัช อายุ 40 ปี แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงห้องพักและได้เคาะเรียกให้เปิดห้องแต่ไม่มีผู้ตอบรับ จึงพังประตูเข้าไปพบว่าเสี่ยชัชได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองชีวิตบนที่นอนไปแล้ว
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้กล้องวงจรปิด 3 มุม เป็นรถเสี่ยชัชที่ขับกลับไปคอนโดก่อนจ่อขมับตัวเองเสียชีวิต โดยกล้องตัวที่ 1 เวลา 06.44.05 น. จับภาพเสี่ยชัชขับรถเก๋งสีขาว มุ่งหน้าไปคอนโดตัวเอง
กล้องตัวที่ 2 เวลา 07.02.18 น. จับภาพรถเก๋งของเสี่ยชัช ขับอยู่บริเวณตลาดแห่งหนึ่ง ก่อนเข้าไปในคอนโด
และกล้องตัวที่ 3 เวลาประมาณ 07.02 น. ที่มุมซ้ายของกล้อง จับภาพรถเก๋งของเสี่ยชัช ขับมุ่งหน้าคอนโดของตัวเอง
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังคอนโดที่เสี่ยชัชก่อเหตุยิงตัวตาย แต่ทางนิติบุคคลของคอนโดไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในพื้นที่ และไม่อนุญาตให้ทำข่าว
วันนี้ 23 มกราคม 2567 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำร่างของเสี่ยชัชมาชันสูตร ก่อนที่ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ทางญาติของเสี่ยชัชก็ได้เดินทางเข้ามารับศพ โดยมีนางสาวธารารัตน์ อายุ 29 ปี ภรรยาของเสี่ยชัช พร้อมกับลูกชายวัย 2 ขวบ และแม่ของเสี่ยชัช เดินทางมาร่วมรับศพด้วย
โดยก่อนที่จะเดินทางไปทำเอกสารในการรับศพ ภรรยาของเสี่ยชัช ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตัวเธอเองได้คบหากับเสี่ยชัช มาประมาณ 5 ปี และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 2 ขวบ ระหว่างที่คบกัน เธอยอมรับว่าฝ่ายชายค่อนข้างเป็นคนนิสัยใจร้อน ขี้หึง เจ้าชู้ และเคยลงไม้ลงมือกับเธอมาก่อนเช่นกัน แต่เธอก็ไม่ได้โทษฝ่ายชายเพียงคนเดียว เพราะตัวเธอเองก็เป็นคนค่อนข้างอารมณ์ร้อนเช่นกัน จึงเกิดการปะทะคารมกันไปมา แต่เรื่องก็จบแค่นั้นไม่เคยถึงขั้นรุนแรงว่าเอาปืนมาข่มขู่หรือใช้อาวุธเลย
นอกจากนี้ ระหว่างที่เธอตั้งท้อง เธอเองก็ทราบมาว่า สามีของเธอแอบไปมีคนอื่น ก็คือพริตตี้ที่เสียชีวิต ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเนื่องจากฝ่ายชายเป็นคนเจ้าชู้ โดยช่วงแรกเธอยอมรับว่าได้มีการตามฝ่ายชายไปเพื่อขอเจอผู้หญิงอีกคน จนเกิดการปะทะคารมกันมาแล้ว และเธอเองก็ขอให้ฝ่ายชายเลิกกับผู้หญิงคนนั้น แม้ฝ่ายชายจะบอกว่าเลิกติดต่อไปแล้ว แต่สุดท้ายเธอก็มาจับได้ว่ายังคงติดต่อและไปมาหาสู่กันอยู่
หลังจากที่รู้ว่าเธอไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยของสามีได้ จึงทำให้เธอเริ่มทำใจ แล้วปล่อยให้สามีออกไปใช้ชีวิต เหลือเพียงแต่ความสัมพันธ์พ่อกับแม่ของลูกเท่านั้น ซึ่งฝ่ายชายก็ได้รับผิดชอบเป็นอย่างดี ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ ระหว่างที่ใช้ชีวิตบนความสัมพันธ์แบบนี้ ฝ่ายชายก็เคยบอกว่าไม่สามารถที่จะเลิกกับใครได้ เพราะรักและเป็นห่วงทั้งคู่ ซึ่งเธอเองก็เคยบอกกับเสี่ยชัชว่าไม่อยากมาอยู่ในวังวนของความรักแบบนี้แล้ว อยากออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยที่โฟกัสลูกชายเป็นหลัก
ส่วนในวันที่เกิดเรื่อง เธอไม่ทราบว่าฝ่ายชายไปหาฝ่ายหญิง เนื่องจากที่ผ่านมาก็ไม่ได้ติดต่อหรือรู้ความเคลื่อนไหวกันอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่เธอจะทราบจากเพื่อนของฝ่ายชายมากกว่า เธอจึงไม่ทราบว่าฝ่ายชายไปก่อเหตุยิงฝ่ายหญิงมา
แล้วเมื่อช่วงเวลา 05.08 น. วันที่ 21 มกราคม 2567 ทางฝ่ายชายก็ได้โอนเงินมาให้ตัวเอง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นเงินจำนวน 49,999 บาท พร้อมเขียนบันทึกช่วยจำในสลิปว่า “ลาก่อน” ส่วนครั้งที่สองได้มีการโอนเงินจำนวน 40,000 บาท พร้อมเขียนบันทึกช่วยจำในสลิปว่า “ฝากลูกด้วย”
ก่อนที่ช่วงช่วงเวลา 05.18 น. ฝ่ายชายจะไลน์มาหาพร้อมข้อความว่า “รหัสคอนโด 521... เผื่ออยากมาหา ลาก่อนนะไม่ต้องทุกข์เพราะพี่อีกแล้ว” พร้อมกับส่งลิงก์เพลง “หากฉันตาย” มาให้ตัวเอง และหลังจากนั้นตัวเองจึงทราบว่าฝ่ายชายได้ก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิต
กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 22 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 07.00 น. ฝ่ายชายก็ได้โทรมาหาแล้วบอกให้เธอไปหาที่คอนโดที่เกิดเหตุย่านนนทบุรี ตัวเองจึงนั่งแกร็บไปหาเขาที่นั่น ซึ่งเท่าที่ได้คุยก็ได้สังเกตสีหน้าฝ่ายชายว่าดูค่อนข้างเครียด แต่ก็ไม่ได้เล่าถึงเหตุการณ์อะไรให้ฟัง แล้วเธอเองก็ไม่ได้ถามเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วฝ่ายชายก็เอาเงินสดให้เธอประมาณ 100,000 บาท โดยตัวเองคุยกันประมาณ 5-10 นาที ก่อนจะแยกย้ายกันไป
เมื่อสอบถามถึงธุรกิจสีเทาของเฮียชัช เธอเองยอมรับว่า เฮียชัชทำธุรกิจสีเทาจริง รวมถึงเว็บพนันออนไลน์ แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าทำอะไรกับใครบ้าง เพราะไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเฉพาะเรื่องเงิน ที่ผ่านมาทราบอยู่แล้วว่าฝ่ายชายเป็นคนเจ้าชู้ และมีการเลี้ยงดูให้เงินกับผู้หญิงหลายคน
ส่วนพริตตี้สาวที่เสียชีวิต ตัวเองทราบอยู่แล้วว่าทั้งคู่แอบหาคบกัน โดยคบกันขณะที่ตัวเองตั้งท้องลูกชาย เมื่อทราบ ตัวเองก็มีการทะเลาะกับฝ่ายหญิงและโพสต์ต่อว่ากันผ่านโซเชียล แต่เมื่อคลอดลูกตนรู้สึกโตขึ้น โฟกัสลูกมากขึ้น จึงตีตัวออกห่าง เพราะกลัวว่าหากลูกโตจะทราบเรื่องและรู็สึกไม่สบายใจ
ส่วนข่าวที่เพื่อนของหวานเจี๊ยบ ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุเฮียชัชไปยืมเงินหวานเจี๊ยบ 5 แสนบาทนั้น เธอไม่ทราบและไม่รู้ เพราะฝ่ายชายไม่เคยบอกอะไร และไม่เคยเอาปัญหาธุรกิจมาปรึกษาเลย ส่วนเรื่องที่ว่าเสี่ยชัชไปยืมเงินสารวัตรรายหนึ่ง มากว่า 10 ล้านบาทนั้น กรณีนี้ตัวเองก็ไม่รู้เรื่องมาก่อน เพราะสาทีไม่เคยเล่าอะไรให้ตัวเองฟัง
ทั้งนี้ หลังจากก่อเหตุเธอเองก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “R.I.P. ขออโหสิกรรมต่อกันและกันแล้วนะคะ หมดเวรหมดกรรมต่อกันแล้ว ขอให้ทั้งคู่ไปสู่ภพภูมิที่ดี” เพราะระหว่างที่เธออยู่ในความสัมพันธ์แบบรักสามเส้า ก็ยอมรับว่าเคยมีการโพสต์ปะทะ หรือเคยพูดด่ากับฝ่ายหญิงที่เสียชีวิตมาก่อน พอหลังจากทั้งคู่เสียชีวิตก็อยากหมดเวรหมดกรรมซึ่งกันและกัน จึงได้อโหสิกรรมให้ทั้งคู่
และยังอีกเรื่องหลังจากเกิดเหตุที่เธอรู้สึกตกใจมาก ก็คือเรื่องที่ลูกชายวัย 2 ขวบของเธอ ได้มีการเรียกชื่อของพ่อว่า “ปะป๊า” อยู่ 3 รอบ แล้วทำท่าเหมือนปั๊มหัวใจ ก่อนจะบอกว่าตอนนี้พ่อไปอยู่บนดวงดาวแล้ว “เช้าวันนี้ ลูกชายก็พูดเองอีกแล้วว่า ปะป๊าอยู่ดาวแต่อยู่บนมูน (moon) ไม่ได้...รู้สึกใจหายเนอะ ในวันที่ไม่มีพี่จริง ๆ แล้วหนูต้องอยู่ให้ได้นะ คำ ๆ นี้”
เช่นเดียวกับช่วงที่ได้มีการรับศพ ลูกชายของเธอก็ได้มีการตะโกนตามหลังช่วงที่เข็นศพขึ้นรถว่า “พ่อตายแล้ว” โดยที่ตอนนั้น ยังไม่มีใครบอกลูกชายเลยว่า พ่อของเขาตายแล้ว
หลังจากรับศพเสี่ยชัชขึ้นรถกู้ภัยแล้ว ทีมข่าวพยายามเข้าไปสอบถาม แม่ของเสี่ยชัช เพื่อจะขอสอบถามแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ แต่ทางด้านแม่ของเสี่ยชัชก็ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ เนื่องจากยังอยู่ในอาการเสียใจอยู่
น.ส.แอน (นามสมมุติ) และ น.ส.เฟิร์น (นามสมมุติ) เพื่อนของหวานเจี๊ยบ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปร่วมรดน้ำศพที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่า ตอนนี้ไม่ได้ติดใจอะไรแล้วเพราะคนที่กระทำความผิดเขาได้ตายไปแล้ว เขาได้รับกรรมของเขาไปแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เชื่อว่าเฮียชัชเป็นคนยิงหวานเจี๊ยบแน่นอน ปัญหาหลัก ๆ เขาทะเลาะกันตลอด และรอบนี้น่าจะเป็นเรื่องเงิน เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยชัดขนาดนี้ ซึ่งประมาณกลางเดือน ม.ค. เฮียชัชเคยเอาเงินมาให้หวานเจี๊ยบ 1 ล้านบาท เป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้า หวานเจี๊ยบเกิดวันที่ 7 ก.พ. แล้วเฮียชัชเขาก็เล่นการพนันเสีย ก็เลยมาดึงเงินกลับไปแล้ว 5 แสนบาท แล้วจะมาเอาอีก 5 แสนบาท โดยในวันที่เกิดเหตุ คาดว่าคงจะมาเอาเงินจำนวน 5 แสนบาทรอบหลังนี้ เพราะหลังเกิดเหตุแล้วเงินจำนวนนี้หายไปด้วย
โดยเพื่อน ๆ ของหวานเจี๊ยบรู้ว่าเงินที่เฮียชัชเอามาให้หวานเจี๊ยบ รอบนี้มาจากการจำนองบ้านได้มา 3 ล้านบาท เอามาให้หวานเจี๊ยบ 1 ล้าน แล้วเฮียชัชเขาเอาไปเล่นพนัน 2 ล้าน เพราะเขามีพฤติกรรมเล่นพนันอยู่แล้ว เพื่อน ๆ ก็เคยได้ยินมาตลอดว่าเฮียชัชไปปอยเปต ก่อนหน้านี้ ตลอดเวลาที่เฮียชัชคบกับหวานเจี๊ยบมา 2 ปี ก็มักจะให้เงินหวานเจี๊ยบใช้เดือนละ 1 แสนบาท ยกเว้นช่วงที่ทะเลาะห่าง ๆ กันก็ไม่ได้ให้ ซึ่งช่วงหลัง ๆ ก็ไม่ได้ให้เงินมาสักพักแล้ว แล้วก็มาให้เงินก้อนนี้ 1 ล้านบาทเลย
“เจี๊ยบเขาก็มีแพลนในการใช้จ่ายอยู่แล้ว ทั้งลงทุนครีมและให้พ่อแม่ แต่เฮียชัชจะขอเงินคืน แล้วก็ชอบพูดว่าไม่รักกูเหรอ เห็นแก่เงินเหรอ”
เพื่อนหวานเจี๊ยบ ยังบอกอีกว่า เฮียชัชเมื่อก่อนก็มักจะหึงหวง เวลาไปเที่ยว ใครอยู่ใกล้ ๆ ก็ไม่ได้ จะมีทำร้ายตอนหึงหวง ทั้งบีบคอ ตบจนเส้นเลือดในตาแตกก็มี แต่หลัง ๆ มาไม่ค่อยมีแล้ว ก่อนหน้านี้เพื่อน ๆ ก็เคยบอกให้เลิกตลอด แต่ผู้ชายก็ขู่ไว้ด้วย ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าเพื่อนทุกคนที่เข้าไปยุ่งก็รู้สึกกลัว
ส่วนเฮียชัช มีภรรยาอยู่แล้วหรือไม่ เพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่า เฮียชัชเขาบอกว่าเลิกกับภรรยาแล้วเลยมาจีบเจี๊ยบ และเช่าคอนโดอยู่ด้วยกัน และก่อนเกิดเหตุก็ไม่ได้มีอะไรที่ดูแปลก ๆ ซึ่งปกติหวานเจี๊ยบก็จะประกอบอาชีพขายครีมและเป็นดีเจ
“เขาทำกับเพื่อนหนูเกินไป ถ้าอยากตายทำไมไม่ตายไปคนเดียว เอาเพื่อนไปทำไม เขาเป็นเสาหลักของบ้าน ส่งเงินให้แม่ทุกเดือน วันสำคัญก็จะกลับไปไหว้แม่ตลอด แม่เขาก็อายุมากแล้วด้วย”
ส่วนประเด็นเรื่องของการทำธุรกิจสีเทา เพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่า เคยรู้ว่าทำเว็บพนันนานแล้ว และเฮียชัชบอกว่าเลิกทำไปแล้ว แต่เพื่อน ๆ ก็ไม่ได้มีหลักฐาน เป็นเพียงแค่คำบอกเล่ามา และเฮียชัช ก็บอกว่าเลิกทำไปนานแล้ว ส่วนเคยไปยืมเงินอดีตสารวัตรหรือไม่นั้น ทางเพื่อน ๆ ไม่ทราบ เพราะส่วนตัวแล้วเฮียชัชเขาเป็นคนลึกลับ เวลาจะถ่ายรูปอะไรก็ไม่เคยให้เห็นหน้า และไม่เคยบอกอะไรเลย รู้แค่เฮียชัชเขามีเงินเฉย ๆ เพราะมีเงินให้เพื่อนตลอด เป็นเงินสดหลักแสน และพาไปกินอาหารดี ๆ ส่วนเรื่องอาวุธปืนเฮียชัชเขาบอกไปรับจำนำมา
โดยปืนที่เสี่ยชัชใช้ยิงตัวเอง เป็นปืนลูกโม่ ขนาด.38 มม. แต่ปืนที่พบข้างศพหวานเจี๊ยบ ไม่ใช่ปืนของเฮียชัช แต่ชื่อผู้ครอบครองเป็นชื่อของบุคคลอื่น ส่วนกรณีดีเจหนุ่มที่ถูกเจ้าของเว็บพนันลวงจ้างไปเปิดเพลงที่ปอยเปต ก่อนปิดห้องกระทืบบาดเจ็บสาหัส เหตุโมโหดีเจหอมแก้มแฟนสาวนั้น ก็คงเพราะมาจากความหึงหวงของเฮียชัช ถึงลวงไปทำร้าย
นอกจากนี้ มีการเผยแพร่คลิปนาทีเพื่อน ๆ เข้ามาลูบหัวอำลาหวานเจี๊ยบ และพูดว่า “เพื่อนหลับให้สบายนะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะเพื่อน หลับให้สบายนะ ไปโรงพยาบาลด้วยกันนะ” ก่อนที่เพื่อน ๆ จะปล่อยโฮออกมา “กูรักมึงนะ”
อีกทั้งมีการเปิดเผยข้อความแชตสนทนาของหวานเจี๊ยบกับกลุ่มเพื่อน ที่หวานเจี๊ยบมีลักษณะพูดคุยเล่าเรื่องที่อึดอัดในใจให้เพื่อน ๆ ฟัง ในลักษณะของการถูกฝ่ายชายตามหึงหวง จนฝ่ายหญิงรู้สึกเบื่ออึดอัด แล้วยกตัวอย่างเรื่องของดีเจหนุ่มคนหนึ่งที่โดนทำรุมกระทืบเพราะหึงหวง แล้วเพื่อนก็แนะนำว่า ให้ถอยออกมาตั้งแต่วันที่ทำถูกทำร้ายร่างกาย
โดยแชตมีช่วงหนึ่งเหมือนเสี่ยชัชจะใช้ไลน์ของหวานเจี๊ยบ พิมพ์กลับเข้ามาคุยกับกลุ่มเพื่อนของหวานเจี๊ยบ ในลักษณะข่มขู่เพื่อน ๆ ระบุว่า “ใครที่ไหนก็พรากเจี๊ยบไปจากพี่ไม่ได้ นอกจากความตายจากกัน อยากเลิกก็ตายไปเท่านั้น ไม่ต้องช่วยออกความเห็น” แล้วก็มีรูประเบิดส่งมา และมีข้อความต่อว่า “เดี๋ยวไล่เช็กบิลทีละตัว” “ใครที่พูดยุเจี๊ยบให้เลิก ไม่ต้องห่วง ไม่บังคับ ให้มันเลือกอยู่จะตายแบบไหนดี”
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังวัดบางพูดนอก จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของเสี่ยชัช บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวตอง (นามสมมุติ) ลูกบุญธรรมของเสี่ยชัช ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับตนเป็นบุตรบุญธรรมของเสี่ยชัช ซึ่งเขาเลี้ยงดูตนมาตั้งแต่แบเบาะ กระทั่งเรียนจบมหาวิทยาลัยและมีงานทำจนถึงทุกวันนี้ ก่อนหน้านี้ตนไม่รู้ว่าพ่อไปทำอะไรมาบ้าง แต่มุมมองของตน พ่อเป็นคนดีคอยหาเงินเลี้ยงคนในครอบครัว ทั้งคุณยายและตน พ่อเป็นเสาหลักของครอบครัว ถ้าไม่มีเขาตนก็อาจไม่มีโอกาสได้เรียนมหาวิทยาลัยแบบนี้ เพราะตนเองมาจากครอบครัวที่ยากจน
ก่อนหน้านี้ พ่อไม่เคยมาระบายปัญหาให้ตนฟังเลย มีคุยกันล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยคุยเฉพาะเรื่องทั่วไปเท่านั้น ส่วนตัวก็ทราบว่าพ่อคบหากับหวานเจี๊ยบ แต่ตนก็ไม่รู้ปัญหาของทั้งสอง เพราะพ่อไม่เคยเล่าให้ฟัง
ตนอยากบอกพ่อว่า ให้พ่อไปสู่สุคติไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว “ขอบคุณที่ส่งเสียหนูมาขนาดนี้ ถึงแม้ทุกคนจะว่าร้ายพ่ออย่างไรก็ตาม แต่พ่อก็คือที่หนึ่งในใจหนูเสมอ พ่อจะอยู่ในใจหนูตลอดไป”
ขณะที่เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ ที่ศาลา 2 วัดเขาดินวนาราม ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ทางแม่และพี่ชายของหวานเจี๊ยบ ได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเขาดินวนาราม และได้ทำพิธีรดน้ำศพ ท่ามกลางความเศร้าโศกของบรรดาญาติ รวมถึงเพื่อน ๆ และแฟนคลับต่างก็ช็อกกันไปตาม ๆ กัน เมื่อทราบข่าวหวานเจี๊ยบซึ่งถือเป็นเน็ตไอดอลและมีชื่อเสียงอย่างมากในโลกโซเชียล มีผู้ติดตามกว่า 1 แสนคน โดยเพื่อน ๆ ของหวานเจี๊ยบที่ได้เดินทางมาร่วมอาลัยและร่วมรดน้ำศพต่างพูดกันว่า “ทำใจไม่ได้เลย R.I.P. น้องสาวคนสวย มันโหดร้ายเกินไปมาก ทั้งช็อก ทั้งจุก พูดไม่ออก ชีวิตของหนูกำลังสดใสไปในทางที่ดีเลย”