บช.ปส. รวบ 8 เครือข่ายค้ายาเสพติด ยึดยาบ้า-ไอซ์ ขยายผลยึดทรัพย์กว่า 15 ล้านบาท

วันนี้ 26 ม.ค. 2567 เวลา 09.20 น. ที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท. คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมแถลงข่าวผลการปราบปรามเครือข่ายค้าการเสพติดของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่มีการจับกุมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ถึงเดือนมกราคม 2567 มีการขยายผลจากการจับกุมในคดีต่าง ๆ โดยสามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดและยึดทรัพย์สินรายคดีสำคัญทั้งหมด 8 คดี จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 16 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้า 25 ล้านเม็ด ไอซ์ 1,000 กิโลกรัม และยึดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบอีกกว่า 15 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดที่นำยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือส่งลูกค้าในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ โดยหนึ่งในคดีสำคัญคือ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 ได้จับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด 2 เครือข่าย ที่เตรียมลำเลียงยาเสพติดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนไปส่งให้กับลูกค้า ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยมีนายณัฐพงศ์ อดีตนักแข่งรถสนามภูมิภาคเป็นผู้ขับขี่รถกระบะขนยาเสพติด และได้บังคับเด็กอายุ 12 ปี ให้นั่งรถมาด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ขณะลำเลียงยาถึงบริเวณริมถนนมิตรภาพ อำเภอโนนสูง พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ท้ายรถกว่า 12 ล้านเม็ด

พล.ต.ท.สำราญ กล่าวเพิ่มเติมว่าผลจากการกำหนดพื้นที่ควบคุมพิเศษ 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย นครพนม ในการสกัดยาเสพติดตามแนวชายแดนทำให้สามารถสกัดเครือข่ายยาเสพติดได้จำนวนมาก และพบว่าผู้ค้ามีการเปลี่ยนเส้นทางจากสายหลักไปใช้สายรองเพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่มากขึ้น โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบและการข่าวในเส้นทางต่าง ๆ และทุกคดีที่ที่สามารถจับกุมได้จะขยายผลต่อไปยังเครือข่ายทั้งหมด รวมถึงตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อบังคับใช้มาตรการยึดทรัพย์ที่ได้การกระทำความผิด เพื่อสนองนโยบายการกวาดล้างยาเสพติดของรัฐบาล

สำหรับเดือน มกราคม 2567 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญจำนวน 15 คดี ผู้ต้องหา 31 คน ของกลาง ยาบ้า 24,959,815 เม็ด, ไอซ์ 1,001 กก. ,เฮโรอีน 39.43 กก. ,โคเคน 3.655 กก. , คีตามีน 0.098 กก. , ยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบมูลค่าประมาณ 112.17 ล้านบาท และขยายผลดำเนินคดีเครือข่ายยาเสพติดในข้อหาสมคบสนับสนุน จำนวน 18 คดี