อธิบดีกรมข้าว เข้าให้ปากคำ ยันมีหลักฐานเอาผิดแก๊งตบทรัพย์

 

วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ ชั้น 16 อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว พร้อมภรรยา ได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานาอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป) เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดี "ศรีสุวรรณเรียกรับเงิน"

 

โดยนาง ธัญญรัตน์ ภรรยา กล่าวว่า "เรื่องราวเป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่ได้แถลงข่าว ยืนยันหลักฐานมีมากกว่านั้นเยอะ ยิ่งวันเกิดเหตุที่ชัดเจนทุกอย่างทุกถ้อยคำ ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยเรียกรับเงินเป็น เรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของเรา ส่วนที่นาย จ. ติดต่อหลังเกิดเรื่องได้ให้หลักฐานกับตำรวจไปแล้ว"

 

วงจรปิดของวันที่ 21 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ารถของเจ๋ง ดอกจิ กำลังวิ่งเข้ายังกรมการข้าว ตามข้อมูลแจ้งว่าน่าจะเข้ามาเพื่อเจรจาข้อมูลบางอย่าง และภาพต่อมายังมีภาพนายเจ๋งดอกจิก เดินคู่กับอธิบดี โดยนายเจ๋งได้ติดต่อมาบอกอธิบดีกรมการข้าวว่า ขอกินกาแฟด้วย แต่จริงๆแล้วเป็นการเดินทางมาเพื่อพูดเรื่องอื่น

 

หลักฐานใหม่อีกหนึ่งอย่าง จะเป็นคลิปที่มีคนถ่ายจากในรถ แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินลงไปที่บ้านของศรีสุวรรณ แล้วกลับออกมา จากข้อมูลระบุว่ามีการนำเงินไปส่งมอบให้

 

โดยมีภาพจากในบ้านเป็นภาพกองเงินวางอยู่บนโต๊ะโดยมีชายเสื้อสีเหลือง กางเกงสีเขียวนั่งอยู่

 

เปิดคลิปเสียงคล้าย ศ.คุยภรรยาอธิบดี

ขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหนึ่งคลิปที่ นางธัญญรัตน์ ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว คุยกับ นาย ศ. โดยเป็นการคุยกันหลังจากที่มีการโอนเงินไปให้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังโอนไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงกัน 1.5 ล้าน ทำให้ต้องมีการเจรจาว่าต้องจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก และบอกว่า ถ้าจ่ายตามที่ตกลงเดี๋ยวจะจบเรื่องนี้ โดยในคลิป ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว บอกว่า เหมือนพูดแล้วไม่ค่อยจะจบค่ะพี่ สรุปแล้ว 1.5 ล้าน แล้วหักออก 6 หมื่น ที่เขามาเอาไปก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ยังบอกอีกว่าฝ่ายเอกสารตาม แล้วขออีก 1 แสน ให้จ่ายที่เขา ส่วน 1.4 ล้านเอามาให้พี่ (นาย ศ.) ทางฝั่ง นาย ศ. บอกว่า ไม่เกี่ยว ข้อตกลงคือ 1.5 ล้าน ถ้าเบิกไปแล้ว 6 หมื่น ก็จะเหลือ 1 ล้าน 4 แสน 4 หมื่น ส่วนที่เหลือ เขาจะไปคุยอะไรมันก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยว พี่...ไม่รับรู้ ไม่รับทราบ ทางฝั่ง ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว บอกอีกว่า เขาบอกว่าเดี๋ยวเอกสารมันไปที่อื่น เขาอาจจะไปร้องที่อื่น ทางฝั่ง นาย ศ. ตอบสวนขึ้นมาอย่างมีอารมณ์ว่า "ไม่มีหรอก! ถ้าจบตรงนี้ มันก็จบตรงนี้ มันจะไปที่อื่นได้ยังไง ไม่ต้องไปฝืน จะมาฝืนข้อตกลงที่ผมกำหนดไว้ได้อย่างไร ไม่มีอะไรหรอก มันก็แกล้ง" ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว บอกอีกว่า ฝั่งนั้นเขาอ้างว่าจะต้องเอาไปจ่ายหลายส่วน ทั้งคณะกรรมษธิการอะไรอย่างนี้ด้วย นาย ศ. บอกว่า "ไม่เกี่ยวๆ เพราะเรื่องนี้ยังไม่ไปถึงไหน มันจบแค่นี้ คุยกันจบ ก็คือจบ"

 

เปิดคลิปเสียงนาย จ. คุยภรรยาอธิบดี

นอกจากนี้ยังมีคลิปที่ถูกบันทึกเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 ธันว่าคม 66 ในคลิป เป็นการสนทนากันระหว่าง นางธัญญรัตน์ ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว กับ นาย จ. โดยเริ่มต้นคลิป ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว บอกว่า ตนก็กังวลเหมือนกัน เพราะการมีเรื่องมันปวดหัว เพราะมีงานต้องทำเยอะแยะ กว่าจะสู้กันมันก็หลายขั้นตอน และก็เหนื่อย ขณะที่ฝั่ง นาย จ. บอกว่า ผิดถูกมันก็สาระ กว่าจะสู้กันมันก็ไปไกลแล้ว กว่าจะพิสูจน์ทราบมาได้ว่าเราบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใย มันเหนื่อยแล้วมันก็มัวหมอง เพราะระดับอธิบดี โดยเมื่อกี๊ตนคุยกับอธิบดีแล้วในห้องส่วนตัว เขาบอกว่า "พี่...จัดการให้ผมหน่อย" ตนเลยรีบกลับไปทำการบ้านมาให้ดี และรีบโทรกลับไปฝั่งนู้น โดยบอกไปว่าเขาไม่ผิดนะ เขายืนยันว่าเขาไม่ผิด แต่ในเมื่อเขาไม่ผิด จะให้เขาดูแล 2 (กิโลฯ) คุณนายเขาบอกว่าเขาไม่ไหว เพราะเขาไม่ผิด โดยจังหวะนี้ทางฝั่งภรรยาอธิบดีกรมการข้าว สวนขึ้นมาว่า "ไม่ไหวหรอก 2 กิโลฯ หนูก็ตายสิพี่ หนูไม่ได้ทำ" ขณะที่ทางฝั่งนาย จ. บอกว่า ตนเลยบอกไปว่า "พวกมึงเอาไปแบ่งกัน สัก 1.5 แล้วกัน แล้วก็ไปเที่ยวก่อนปีใหม่กัน ปิดเรื่องแล้วก็จบ และอย่าไปยุ่งกับเรื่องนี้ กูขอก็แล้วกัน ส่วนเรื่องอื่นๆ เดี๋ยวกูจะเคลียร์กับข้างบนเอง ข้างบนนี่กูไม่ให้ใครยุ่ง ส่วนข้างล่างมึงก็เก็บให้เรียบร้อย อย่าให้มันโผล่ออกมาอีก เรื่องกรมการข้าวเนี่ย"

 

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แฉพฤติกรรมกลุ่มพี่ศรีย้อนหลัง เผย เคยส่งคนกลางมาขอเคลียร์-แลกกับการไม่ร้องเรียนทุจริตในกรมฝนหลวง

 

นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมปี 2566 ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มของนายศรีสุวรรณ จรรยาและนายเจ๋ง ดอกจิก ได้เดินทางมาร้องเรียนกับตนเอง ว่าจะมีการยื่นตรวจสอบการทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้างเฮลิคอปเตอร์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งหลังจากนั้นได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็พบว่า ดังกล่าวเป็นเรื่องเก่าจากสมัยรัฐบาลที่แล้วและก็มีการตั้งกรรมการตรวจสอบแล้วก็ไม่พบมูลความผิด จึงรู้สึกเอะใจว่าทำไมกลุ่มผู้ต้องหาถึงจะนำเรื่องเก่ามาร้องเรียนใหม่

 

จากนั้นวันที่ 17 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาได้ส่งคนคนหนึ่งชื่ออักษรย่อว่าอ.อ่าง มาเป็นคนกลางเจรจาต่อรองกับอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยในคลิปเสียงที่นายจ.จานคุยกับคุณนายอธิบดีกรมการข้าวก็จะพบว่ามีการพาดพิงชื่อของที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยบอกว่า อธิบดีกรมฝนหลวงฯไม่กล้าคุย จึงต้องให้ที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ มารับหน้าแทน ทั้งๆที่ตนเองไม่ทราบเรื่องว่าจะมีการมาขอเคลียร์คดีแต่ประการใด

 

ซึ่งตอนนั้นตนเองเริ่มมั่นใจแล้วว่านี่คือกระบวนการร้องเรียนเพื่อตบทรัพย์อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้มีการวางแผนเก็บหลักฐาน กระทั่งพบว่ากลุ่มผู้ต้องหายังมีพฤติการณ์ไปร้องเรียนเพื่อข่มขู่รีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวในเวลาใกล้กันอีก หลังจากนั้นจึงได้เริ่มปฏิบัติการซ้อนแผน-ล่อซื้อเพื่อเก็บหลักฐานทั้งหมด สลิปการโอนเงินและคลิปภาพบันทึกการนำเงิน 100,000 บาท ไปมอบให้ที่บ้านนายศรีสุวรรณ เชื่อว่าขบวนการนี้น่าจะมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน ไม่ขอก้าวล่วง ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการออกหมายเรียกให้ผู้ร่วมกระทำผิดมารับทราบข้อกล่าวหาโดยเร็ว

 

“เรวัช” เชื่อ “ศรีสุวรรณ” เหนื่อยแน่ สงสับปมถุงแขวนหน้าบ้าน

พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พูดถึงเรื่องถุงที่แขวนหน้าบ้านนายศรีสุวรรณว่าถ้าเกิดไม่ใช่ของคุณ คุณจะหยิบเข้าไปทำไม ถ้ามีคนมาแขวนถุงหน้าบ้านผม ผมเข้าใจว่าเป็นระเบิดด้วยซ้ำ ผมจะรับเอาออกจากหน้าบ้าน ไม่ใครกล้าเอาเข้าบ้านหรอก ก็เลยรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรซ่อนเงื่อนอยู่

 

"เจ๋ง ดอกจิก" รับเคยพูดคุยกับเมีย "อธิบดีกรมการข้าว" แต่เป็นแค่คนไกล่เกลี่ยตามคำสั่งผู้ใหญ่ ไม่ใช่กระบวนการตบทรัพย์ตามข้อกล่าวหา ส่วนเรื่องเงินผู้ร้องกับผู้ถูกร้องเขาตกลงกันก่อนหน้านี้ ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

 

จากกรณีที่มีการแฉคลิปเสียงภรรยาอธิบดีกรมการข้าวสนทนากับบุคคลคล้าย เจ๋ง ดอกจิก หรือ นายยศวริศ ชูกล่อม ​ และศรีสุวรรณ จรรยา ไกล่เกลี่ยไม่ให้ดำเนินการฟ้องร้องอธิบดีกรมการข้าว ทีมข่าวของเราติดต่อไปสอบถาม เจ๋ง ดอกจิก เจ้าตัว ระบุว่า ยังไม่ได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าว มีแต่คนเล่าให้ฟัง แต่ยอมรับเคยคุยโทรศัพท์กับเมียอธิบดี​กรม​การข้าวจริง แต่มันไม่ใช่การไปตบทรัพย์ เป็นการเข้าไปไกล่เกลี่ย โดยตนเป็นคนไกล่เกลี่ยระหว่างผู้ร้องกับผู้ถูกร้อง เพื่อให้ยุติความขัดแย้ง โดยเป็นไปตามคำสั่งของผู้ใหญ่ ที่อยากให้จบเรื่องนี้ ไม่ให้เกิดความเสียหายกับกระทรวงและผู้ถูกร้อง ตนมีหน้าที่แค่ไปไกล่เกลี่ย

 

ทั้งนี้ ยอมรับ มีการตกลงระหว่างผู้ร้องกับผู้ถูกร้องเรื่องจ่ายเงินเป็นค่าดูแลจริง แต่เป็นการตกลงก่อนหน้าที่ตนจะเข้าไปไกล่เกลี่ย โดยตนเข้าไปไกล่เกลี่ยให้มันจบตามที่ผู้ใหญ่สั่งการมา ไม่ได้มีการตกลงเรื่องเงินเรื่องทองอะไรเลยสำหรับตน

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่พร้อมให้ข้อมูลอะไรขอรวบรวมพยานหลักฐานในการต่อสู้คดีครั้งนี้ก่อน แต่ยืนยัน มันไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์อย่างที่เขากล่าวหา ตนจึงต้องหาทางแก้ไข มันไม่ใช่ อย่างที่เขากล่าวหาเลย มันเป็นการช่วยเหลือฝ่ายผู้ถูกร้อง ไม่ให้เดือดร้อน เพราะคนร้อง เขาจะไปร้องให้เจ้ากระทรวงตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ถูกร้อง

เรวัช ชี้มีพิรุธถุงคนอื่นดันหยิบเข้าบ้าน "พี่ศรี" เหนื่อยแน่ "เจ๋ง" รับคลิปเสียงของจริง