ให้ออกจากราชการ-แจ้งข้อหาหนัก "ร.ต.อ.สภ.ป่าติ้ว" เซ่นปมค่าปรับฉาวนักเรียนม.5
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรอำเภอป่าติ้ว พบกับ พล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร พ.ต.อ.อานุภาพ ผิวอ่อน พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร พ.ต.อ.ชวภณ จันทเมนชัย ผกก.สภ.ป่าติ้ว
โดย พ.ต.อ.สานิตย์ โฆษกประจำภูธรจังหวัดยโสธร ได้แถลงกล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ได้มี นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี เป็นราษฎร อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร พา น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี 4 เดือน ผู้เป็นหลานสาวและเป็นผู้เสียหาย เข้าพบพนักงานสอบสวน แจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันเดียวกัน ผู้เสียหายได้ขี่รถ จยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า โดยไม่ได้สวมหมวกกันน็อก ออกจากบ้านมากับน้องสาว ได้ขี่มาจอดที่ข้างที่ว่าการอำเภอป่าติ้ว แล้วเดินไปซื้อขนมที่หน้าโรงพยาบาลป่าติ้ว
ขณะเดินกลับมาที่จอดรถไว้ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อภายหลัง คือ ร.ต.อ.กัมปนาท อายุ 50 ปี รอง สว.สส.สภ.ป่าติ้ว ปฏิบัติหน้าที่งานจราจร ซึ่งข้อเท็จจริงคือไม่ได้มีการตั้งด่านตรวจตามที่แชร์ในสื่อโซเชียลแต่อย่างใด โดยยืนอยู่ที่ถนนบริเวณหน้าทางเข้า ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) อำเภอป่าติ้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกสอบถามและจะเรียกค่าปรับ 2,000 บาท
ต่อมาได้เรียกผู้เสียหายไปที่ห้อง ซึ่งอยู่ด้านหลังห้องเรียน กศน. แล้วได้กระทำอนาจารกับผู้เสียหาย และได้กลับออกมาจากห้อง โดยผู้เสียหายได้รีบไปที่โรงพยาบาลป่าติ้ว แล้วกลับเข้าบ้านไปบอกนางเอ ผู้เป็นยาย จึงได้รีบเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวทันที ในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา พรากผู้เยาว์อายุเกินกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย ฝากขังและให้ออกจากราชการไว้ก่อน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร ได้เน้นย้ำว่า ขอยืนยันจะดำเนินการเด็ดขาด ตำรวจดีให้การส่งเสริม ตำรวจไม่ดีก็ต้องเอาออกไป จะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายแน่นอน