จากกรณีเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2567 พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.อำนาจ ยิ้มเนียม รอง ผกก.ป.สภ.บางปะกง ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ลิ้นทอง รองสว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ฉะเชิงเทรา แพทย์เวรโรงพยาบาลบางปะกง หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบพบศพชายถูกฆ่าแล้วนำมาทิ้งไว้ข้างทาง บริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ กม.41+100 ขาเข้า กทม. หมู่ 10 ต.บางวัว อ.บางปะกง
พบร่างชาย สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ โดยมีเสื้อยืดคอปกสีเทาแถบแดงใส่อยู่ด้านใน ใส่กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล มือและเท้าถูกมัดด้วยเชือกสีแดง นอนตะแคงอยู่ในพงหญ้าข้างทางติดกำแพงรั้วมอเตอร์เวย์ สภาพศพเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2 วัน โดยไม่พบเอกสารหรือมือถืออยู่ในตัว
ส่วนปมในการก่อเหตุ ทางภรรยาผู้ตายและเพื่อน ๆ คาดว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง หลังมีแชตจากผู้ตายในวันที่หายตัวไป แชตมาหาภรรยาเพื่อบอกเลิก เพราะไปทำผู้หญิงท้อง ซึ่งภรรยายืนยันเป็นไปไม่ได้ และคาดว่าแชตที่ส่งมานั้นสามีไม่ได้พิมพ์ส่งมาแต่เป็นคนร้ายสวมรอย
ขณะที่กล้องวงจรปิดอีก 2 มุม จับภาพคนตายขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน เวลา 22.11 น. และกล้องอีกตัว เวลา 22.13 น. ขี่มาตามเส้นทางเพื่อไปจุดเปลี่ยนรถ แต่จะเห็นว่ามีรถเก๋ง สีแดง ต้องสงสัย ขับตามรถมอเตอร์ไซค์ของผู้ตาย ตามมาอยู่เรื่อย ๆ
ทีมข่าวช่อง 8 ได้กล้องวงปิดมาเพิ่มเติม เวลา 22.54.04 น. จับภาพรถของผู้ตายขี่อยู่ตามทาง จากนั้นเวลา 22.54.21 น. จับภาพรถเก๋งแดงต้องสงสัย ขับตามรถผู้ตายไป
ขณะที่บรรยากาศที่ห้องสืบสวน สภ.บางปะกง ตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดของมอเตอเวย์ บริเวณใกล้จุดทิ้งศพ เพื่อหาเบาะแสคนร้ายต่อไป
ด้านนางสาววรรณพร ภรรยาของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตัวเองมองว่าสาเหตุการตายของสามีน่าจะไม่ได้มาจากเรื่องชู้สาว เพราะเชื่อว่าแชตที่พิมพ์มาหาตัวเองนั้นไม่ใช่สามีตัวเอง และยืนยันว่าสามีไม่เคยมีปัญหายุ่งเกี่ยวกับเรื่องการพนัน และเรื่องยาเสพติดมาก่อน ส่วนเรื่องการเงินของสามีก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเขาก็มีเงินเก็บของเขาอยู่บ้าง เพราะถ้าสามีเล่นการพนัน เขาจะไม่มีเงินเก็บแน่นอน และสามีก็เป็นคนที่บริหารเงินเป็น แต่ถ้าหลังจากนี้ผลออกมาจะเป็นปมเรื่องชู้สาว ตัวเองก็ทำใจได้ ขอให้จับคนร้ายได้ก็พอ
ส่วนที่จุดพบศพของสามีพบว่ามีรอยไหม้นั้น คาดว่าคนร้ายน่าจะมาทำลายหลักฐานหรือไม่ แต่ตัวเองก็ไม่ได้หนักใจอะไร เพราะเชื่อว่าตำรวจเก็บหลักฐานไปหมดแล้ว วันนี้ที่ตนได้ไปออกรายการโหนกระแส แล้วได้เจอท่านเรวัช ยิ่งทำให้รู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ
ส่วนเรื่องเชือกสีแดงที่มัดมือมัดเท้าสามีนั้น คิดว่าไม่ใช่เชือกรองเท้าสามีแน่นอน เพราะสามีไม่เคยซื้อเชือกรองเท้าสีแดง และตัวเองก็คิดว่าเชือกที่ใช้ผูกมือและเท้าสามีเป็นเชือกที่เพิ่งซื้อใหม่ ตัวเองเชื่อว่าคนก่อเหตุเป็นคนใกล้ตัว เพราะเขารู้ความเคลื่อนไหวของสามี ว่าสามีเข้า-ออกบ้านตอนกี่โมง ส่วนรถเก๋งสีแดงที่ขับตามรถมอเตอร์ไซค์ของสามีนั้น ตัวเองก็ไม่เคยเห็นรถคันนี้ขับในหมู่บ้านตัวเองมาก่อน
ขณะที่ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ บอกว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะทราบตัวคนร้ายแล้ว ซึ่งในคืนเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพรถเก๋งสีแดง ขับตามนายใหม่ ผู้ตาย ออกมาจากหมู่บ้าน พอถึงทางแยกหน้าหมู่บ้าน นายใหม่ขี่รถ จยย. เลี้ยวซ้าย ออกไปทางซอยจงศิริ โดยมีรถเก๋งสีแดงขับตามอยู่ห่าง ๆ ซึ่งช่วงซอยดังกล่าวบางช่วงตอนกลางคืนจะค่อนข้างเปลี่ยวและไม่มีบ้านคน พอมาถึงช่วงเซ่เว่นฯ ทางแยกซอยจงศิริ-เด่นชัย ตามข้อมูลพบว่า มีรถเก๋งสีแดงจอดเปิดไฟกระพริบอยู่บริเวณดังกล่าว จากนั้นไม่นานมีรถ จยย. ของนายใหม่ ขี่มาจอดต่อท้ายรถเก๋ง แต่จุดนี้ผู้ขับขี่ไม่ใช่นายใหม่แล้ว ซึ่งเชื่อว่านายใหม่น่าจะอยู่ในรถคันดังกล่าวแล้ว โดยจุดที่นายใหม่หายตัวห่างจากบ้านพัก ประมาณ 2 กม. ก่อนที่จะไปพบว่ารถเก๋งและรถ จยย. ขับตามกันไปที่ถนนกิ่งแก้ว
แหล่งข่าวยังบอกอีกว่า ประเด็นการสังหารนั้น มาจากเรื่องที่ทำงาน ที่ผู้ตายทำหน้าที่ขับรถโฟล์คลิฟต์ จนกระทั่งไปทราบถึงพฤติกรรมการฉ้อโกงในที่ทำงาน จนบริษัทส่งทีมลงมาสอบสวนหาผู้กระทำความผิด ซึ่งประเด็นนี้ทางผู้ตายทราบดีว่ามีปัญหากับใคร ส่วนที่แชตไลน์นั้นไม่ใช่ผู้ตายพิมพ์แน่นอน น่าจะเป็นการเบี่ยงประเด็นของผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 2 คนแน่นอน ตอนนี้ทีมสืบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และขยายผลเพิ่มเติม
ด้านนางสาววรรณพร ภรรยาผู้เสียชีวิต เผยเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง สามีตัวเองไม่มีพฤติกรรมทุจริตเลย สามีก็ทำงานได้รับเงินเดือนตามปกติ แต่ตัวเองก็ปักใจเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนใกล้ตัวสามี ส่วนที่มีข่าวว่ากระเป๋าใบหนึ่งหายไป ตัวเองก็ขอยืนยันว่ากระเป๋าใบนั้นยังอยู่ที่บ้าน ส่วนเรื่องที่ทำงานของสามี เขาก็ไม่เคยเล่าให้ตัวเองฟังเลย
นางสาววรรณพร ยังเปิดเผยกับทีมข่าวอีกว่า ตัวเองอยากแก้ข่าวว่าตนไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กของสามี เพราะตัวเองไม่รู้รหัสเฟซฯ สามีเลย และที่ตัวเองเปลี่ยนโปรไฟล์เฟซบุ๊กของตัวเองเพราะว่าตัวเองเห็นข้อความที่สามีส่งมาทางไลน์ ว่าทำผู้หญิงท้อง ตัวเองจึงน้อยใจแล้วเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ของตัวเองตามหลัง
ทั้งนี้ บรรยากาศที่วัดคลองปลัดเปรียง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้มีนายปอนด์ (นามสมมติ) น้องชายของผู้เสียชีวิต ได้จุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณของผู้ตาย เพื่อให้ไปสู่สุคติ ด้านนายปอนด์ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า วันนี้ตัวเองและญาติได้ไปเชิญวิญญาณผู้ตายอยู่ที่จุดพบศพ ซึ่งพระสงฆ์ก็ได้ปั้นหุ่นขี้ผึ้งเพื่อให้วิญญาณของคนตายมาอยู่ในหุ่น แล้วทางครอบครัวก็จะพาดวงวิญญาณของผู้ตายกลับไปยังวัด
ส่วนปมในการก่อเหตุนั้น ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามาจากเรื่องอะไร เพราะพี่ชายตัวเองไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย ส่วนที่มีข่าวว่าพี่ชายยุ่งเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด หรือเรื่องการพนันหรือไม่ ตัวเองขอตอบเลยว่า ไม่จริงเพราะนิสัยของพี่ชายไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ และเรื่องชู้สาวตัวเองก็คิดว่าน่าจะไม่ใช่มูลเหตุ เรื่องแชตที่ส่งมาว่าทำผู้หญิงท้องก็ไม่ใช่คำพูดของพี่ชายตัวเองแน่นอน ตัวเองคิดว่าคนร้ายเขามาสวมรอย
นายปอนด์ ยังบอกอีกว่า หลังจากที่เฟซบุ๊กของพี่ชายแชตไปหาภรรยาของเขานั้น เวลา 03.28 น. วันที่ 28 มกราคม 2567 ตัวเองก็ได้โทรเฟซฯ ไปหาพี่ชาย ซึ่งตอนนั้นตัวเองโทรติด แต่ว่าพี่ชายไม่รับสาย ก่อนที่ตัวเองจะส่งข้อความไปหาพี่ชายว่า "ใหม่ ว่างไหม โทรกลับมาหน่อย"
ขณะที่ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดที่โรงงานของผู้ตาย เวลา 08.39 น. วันที่ 27 มกราคม 2567 จับภาพนายธนาสันต์ หรือ ใหม่ ผู้เสียชีวิต กำลังเดินออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน ซึ่งตอนนั้นก็เห็นว่าคนตายเดินออกมาปกติ ไม่ได้มีเรื่องกับใคร เนื่องจากก่อนเกิดเหตุคนตายทำงานเข้ากะกลางคืน และเลิกงานตอนเช้า
ด้าน พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ไลฟ์สดผ่าน TikTok ถึงคดีดังกล่าว โดยให้ข้อมูลที่เชื่อมโยงนำไปสู่การจับกุมคนร้ายว่า บาดแผลมันดูได้ บาดแผลที่ถูกยิง โดยต้องดูว่าถ้ายิงในระยะ 3 ฟุต ต่ำว่า 3 ฟุต หรือเรียกว่าจี้ยิง มันจะมีร่องรอยเขม่าดินปืนติดดำเลย ถ้ายิงห่างก็จะไม่มีเขม่า
ดังนั้นจึงวิเคราะห์ว่า คนตายน่าจะถูกบังคับให้นั่งคุกเข่า แล้วข่มขู่ต่าง ๆ นานา ว่า เอาของ เอาเงินของกูไปไว้ไหน หรือว่ามึงมาทำน้องกูทำไม มาทำเมียกูทำไม ก่อนจ่อยิงบนหัวแล้วทะลุไปท้ายทอย
ส่วนปืนก็วิเคราะห์ได้ว่าไม่ใช่ปืนเถื่อน เพราะปืนเถื่อนคือปืนที่ผลิตในประเทศไทยลำกล้องไม่มีเกลียว ซึ่งมันจะไม่ค่อยมีแรงขับเคลื่อนกระสุนเท่าไร ถ้ายิงโป้งเข้าไปอาจจะคาอยู่ข้างใน น่าจะเป็นปืนที่ผลิตจากต่างประเทศ หรือปืนที่มีลำกล้องมีเกลียว
ส่วนกระสุนก็จะเป็นขนาด .38 หรือ 9 มม. หรือ 11 มม. ตนไม่ได้ดูบาดแผล จึงไม่รู้ว่ารูเข้ามันขนาดอะไร ปกติถ้าวัดรอยแผลแล้วมันประมาณ 11 มิลลิเมตร ขึ้นไป ก็จะเป็น 11 มม. เพราะถ้า 9 มิลลิเมตร ก็จะเป็น 9 มม. หรือ .38 หรือออโตเมติก .380 หรือ .38 ซุปเปอร์ แต่ถ้าเล็กลงไปหน่อยขนาด .32 หรือ 7.65 มม. ก็คือจะไม่ถึง 9 มม. หมอจะวัดบาดแผลที่กะโหลก ภาพแผลที่กะโหลกจะดูง่าย
ถ้าคนร้ายใช้กระสุนที่เป็นหัวรู เรียกว่า แจ็กเก็ตฮอลโลว์พอยต์ มันจะมีรอยแตกเป็นฉีก ๆ ไป แล้วศพถูกมัดด้วยเชือก เชือกร่มสีแดง ร่องรอยวัตถุพยานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุก็จะนำไปสู่กันจับกุมคนร้ายได้