น้องพรเปิดปาก ยัน กิตมือสังหาร แค่เพื่อนร่วมงาน
เวลา 15.30 น. วันที่ 2 ก.พ. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บางประกง นำกำลังนำหมายศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าตรวจค้นบ้านพักของนางวรรณพร ในซอย 26 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อเก็บวัตถุพยานหลักฐานเพิ่มเติม หาจุดเชื่อมโยงในคดี โดยก่อนเข้าตรวจค้นหลังจากนางสาววรรณพร เจ้าของบ้าน เดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้อ่านหมายค้นให้นางสาววรรณพรฟัง ก่อนที่จะเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายในบ้าน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางกลับ พร้อมกับนำวัตถุพยานที่พบในบ้านไปตรวจสอบเพิ่มเติม
นางสาววรรณพร กล่าวว่า ขณะนี้ตนเองยังสภาพจิตใจแย่ ไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ แต่ได้กล่าวสั้น ๆ ว่า ตนเองยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมสามี และยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นทุกอย่าง รายละเอียดตนเองให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว หลังทราบว่านายกิตเป็นคนลงมือ ตนเองตกใจมากไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ และเป็นพฤติกรรมที่ตนรับไม่ได้ ส่วนนิสัยใจคอนั้น ลึก ๆ ตนเองก็ไม่ทราบว่านายกิตเป็นคนแบบไหน เพราะเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น
ป้าช่างกิต เผยหลานเคยพาน้องพรมาบ้าน ในฐานะแฟน
วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของช่างกิต ซึ่งเป็นบ้านที่เจ้าตัวให้การว่ามีการเตรียมการก่อนไปก่อเหตุ และหลังก่อเหตุได้มีการพาคนตายมาที่บ้านหลังดังกล่าว แล้วยังมีการก่อเหตุในการพันธนาการ ก่อนที่จะเปลี่ยนรถแล้วนำไปทิ้งข้างมอเตอร์เวย์ นั้น
โดยช่วงเช้าทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งบริเวณด้านหน้าติดกับถนนจะเป็นบ้านไม้กึ่งปูน 2 ชั้น เปิดเป็นอู่รถของช่างกิต ขณะที่บ้านสีเขียวด้านหลัง 2 ชั้น จะเป็นบ้านที่เจ้าตัวพักอาศัยอาศัยอยู่กับญาติ โดยบรรยากาศส่วนของอู่รถด้านหน้าปิดเงียบไม่มีคนอยู่ แต่ส่วนบ้านสีเขียวด้านหลังสังเกตว่ามีญาติอาศัยอยู่ ทีมข่าวจึงเข้าไปขอสอบถามและเปิดใจหลังจากที่ปรากฏเป็นข่าว โดยสังเกตว่าภายในมีหลานและป้าของนายกิต อาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว แต่ทันทีที่เห็นทีมข่าวได้มีการปิดประตูใส่ทันที
จากนั้นช่วงบ่ายทีมข่าวได้ย้อนกลับไปที่บ้านหลังดังกล่าวดังกล่าวอีกครั้ง ทีมข่าวได้พูดคุยกับป้าอู๊ด ป้าของช่างกิต ซึ่งเจ้าตัวเดินออกจากบ้านและกำลังจะไปที่ห้องครัวด้านหลัง ระหว่างนั้นได้มีการเปิดใจกับทีมข่าว ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่อยากจะพูดอะไรอีกแล้ว แต่ยืนยันว่าในคืนวันเกิดเหตุตนเองไม่ได้ยินเสียงปืน และไม่ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน แม้ว่าจะนอนอยู่ติดกับอู่รถของหลานก็ตาม และในคืนนั้นเข้าใจว่าทุกคนเข้านอนหมดแล้ว จึงไม่รู้ว่าเจ้าตัวไปก่อเหตุอะไรมา ได้ยินแต่ลักษณะเสียงวัยรุ่นพูดคุยกัน แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
กรณีที่กล่าวหาว่า มีการยิงปืนกันในบ้านและอาจจะมีการซ้อมทรมานกัน ส่วนตัวยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีเสียงปืนดังขึ้นแต่อย่างใด และที่สำคัญตนเองก็ไม่รู้จักนายใหม่ คนตาย จึงไม่รู้ว่ามาที่บ้านหลังนี้หรือไม่ เพราะไม่เคยเห็นและไม่เคยเห็นหลานพาใครมากักขังหรือซ้อมทรมาน แต่คงพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะมันเป็นเวรกรรมของเขาต้องรับผิดชอบ
ส่วนตัวในฐานะป้าของกิต ยอมรับว่าเจ้าตัวเคยพาพรมาที่บ้านบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยบ่อย ซึ่งตนเองก็เข้าใจมาตลอดว่าเป็นแฟนของหลานชาย และหลานชายก็เคยแนะนำให้รู้จักในฐานะแฟน ประกอบกับมีการให้น้องพรเรียกตนเองว่าป้าเหมือนกัน ฉะนั้นตัวเองก็เชื่อว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็น่าจะรู้จักกันพอสมควร แต่เรื่องที่ฝ่ายหญิงมีแฟนซึ่งเป็นคนตายอยู่แล้วนั้นตนเองไม่รู้ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคบหากับใครกี่คน
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่หลานทำเอาไว้ ฉะนั้นก็ต้องไปว่าตามกระบวนการ จะประกันตัวหรือไม่ประกันตัวก็คงขึ้นอยู่กับแม่ของเขา ตัวเองคงไม่ไปยุ่งอะไร และมันเป็นเวรกรรมที่เขาควรจะได้รับ ทำไปแล้วก็ต้องรับแบบนั้น ส่วนตัวไม่มีอะไรฝากบอก หรือจะขอโทษไปยังครอบครัวของคนตาย เพราะไม่รู้จักกัน ใครทำก็ให้คนนั้นไปขอโทษ
และขณะเดียวกันเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาทำการตรวจภายในบ้านของช่างกิต โดยเป็นการตรวจวัตถุพยานเพิ่มเติมตามคำให้ เกี่ยวกับการพัฒนาการและการก่อเหตุภายในบ้าน เพื่อให้ตรงตามคำให้การของเจ้าตัวและกลุ่มพรรคพวก แต่จากการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติและไม่ตรงตามที่คำให้การระบุไว้ เช่น คราบเลือดภายในบ้านภายใน หรือเชือกที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้มีการบันทึกการเข้าตรวจ เพื่อไปประกอบในสำนวนตามคำให้การให้ และให้ป้าอู๊ด ป้าของช่างกิต มีการเซ็นรับทราบในการเข้าตรวจค้น