พบน้องพร โผล่ช่วยกิตล้างรถก่อนก่อเหตุ 1 วัน
ขณะเดียวกันทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ฝั่งตรงข้ามบ้านของช่างกิต โดยมีรายงานจากแหล่งข่าว ซึ่งอยู่ในละแวกแถวบ้าน ให้ข้อมูลกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ในวันที่ 26 มค ก่อนที่ จะเกิดเหตุอุ้มนายใหม่คนตาย มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเห็นว่านางสาวพร เมียของคนตาย ขับรถมาที่บ้านช่างกิต และมีลักษณะช่วยกันล้างรถกระบะตู้ทึบซึ่งเป็นคันเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุขนศพในวันถัดถัดมา โดยลักษณะช่วยกันล้างรถอย่างกะหนุงกะหนิง
แม่คนตายเผยพิรุธสะไภ้ ขอแบ่งครึ่งค่าเยียวยาศพผัว
ต่อมาทีมข่าวเดินทางมาที่วัดคลองปลัดเปรียง สถานที่จัดงานศพของนายธนาสันต์ โดยทีมข่าวได้พบกับนางยิ้ม (นามสมมติ) แม่ของผู้เสียชีวิตบอกว่า ลูกชายตนกับลูกสะใภ้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมา 17 ปี และมีการจดทะเบียนสมรสกัน ที่ผ่านมาเป็นลักษณะช่วยกันทำมาหากินโดยมีสินสมรส คือรถกระบะ และรถจักรยานยนต์รวม 2 คัน
ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยระแคะระคายเรื่องลูกสะใภ้นอกใจลูกชายตน เพิ่งมาทราบหลังจากที่ลูกชายตนเองเสียชีวิตแล้ว ว่าลูกสะใภ้ไม่ได้คบแค่นายกิตเพียงคนเดียว แต่ยังคบหากับผู้ชายคนอื่นอีกด้วย ยอมรับว่าคนเป็นแม่สะเทือนใจหนัก ที่ต้องมาสูญเสียลูกชายที่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม แถมยังต้องมารับรู้พฤติกรรมของลูกสะใภ้ที่นอกใจลูกชายคบซ้อนอีกหลายคน ในลักษณะชักศึกเข้าบ้านเอากิ๊กให้มาแค้นลูกชายแล้วตามยิงตามฆ่าจนเสียชีวิต
ในส่วนที่ลูกสะใภ้ทำขอให้เป็นในเรื่องของเวรกรรมที่เขาต้องรับ แต่หากถามว่าลูกสะใภ้ได้มาขอโทษตนเองไหมถึงเรื่องที่ชักศึกเข้าบ้านยืนยันว่าไม่ได้มาขอโทษ หนำซ้ำวันนี้ที่เจอลูกสะใภ้ลูกสะใภ้ก็ไม่ได้มาพูดคุยด้วย โดยมางานศพเพียงแป๊บเดียวแล้วก็ขอตัวกลับบ้านเพราะว่าหวั่นตัวเองเป็นอันตราย
นอกจากนี้ยังมีพิรุธอีกหนึ่งอย่างที่ตนสงสัย หลังลูกชายตนเสียชีวิตลูกสะใภ้ไม่ได้มีท่าทีสลดหรือร้องไห้แต่อย่างใด เมื่อวานนี้ลูกสะใภ้เอาใบมาให้ตนเซ็นเป็นใบรับเงินจากเหยื่ออาชญากรรม จำนวน 600,000 บาท แล้วลูกสะใภ้กำชับตนมาว่า “แม่เซ็นนะ ขอได้เงินมาเรามาแบ่งกันคนละครึ่ง” ดีที่ตนมีสติจึงมีการสอบถามตำรวจ ทางตำรวจเลยบอกว่าอย่าเพิ่งเซ็นเพราะยังไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วลูกสะใภ้จะเกี่ยวข้องกับการตายของลูกตนหรือไม่