โอ๊ต เปิดใจ ไม่รู้กิตชวนไปอุ้มสังหาร
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายโอ๊ต เจ้าตัวเปิดใจว่า ตัวเองขอยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุถ้าอำพรางผู้เสียชีวิต แต่อย่างใด ตัวเองรับประกันได้
ก่อนเกิดเหตุ นายกิต น้าชายของตัวเอง ได้บอกกับตัวเองว่า “ โอ๊ต คืนนี้พาน้าไปทำธุระหน่อยนะ จะให้พาไปเอารถ” ซึ่งตัวเองก็เห็นว่า ที่ผ่านมาจะมีคนชอบนำรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์มาจำนำกับนายกิต น้าของตัวเอง ตัวเองจึงไม่ได้คิดอะไรมากและได้ร่วมนั่งไปในรถเก๋งสีแดง ในคืนเกิดเหตุกับนายกิต และนายกานต์ นายแท็ป นางสาวนิว
ส่วนที่เห็นว่าวันเกิดเหตุ นายกิต เรียกชื่อตัวเองแล้ว ตัวเองก็ไปขับเอารถมอเตอร์ไซต์ของผู้ตายตามมานนั้น เนื่องจาก ตัวเองก็เห็นว่านายกิต น่าจะเรียกให้ตัวเองไปเอารถมอเตอร์ไซต์ แล้วตอนนั้นคนตายก็ไม่ได้เอะอะโวยวายอะไร หลังจากนั้นตัวเองก็ได้ขับกลับบ้านนายกิต และไม่ได้ไปร่วมลงมือฆ่าและทิ้งศพอำพรางพร้อมกับนายกิตแต่อย่างใด
ทีมข่าวจึงสอบถาม นายโอ๊ตว่า ในฐานะที่โอ๊ตอยู่บ้านหลังเดียวกันกับกิต กิตเคยพานางสาวพร มาที่บ้านหลังนี้ไหม นายโอ๊ตก็ตอบว่า พรเคยมานอนที่บ้านกิต หลายครั้ง โดยนอนห้องเดียวกันกับกิต ซึ่งทั้งสองคนคบหากันได้ประมาณสองเดือน ตัวเองก็รับรู้มาแบบนั้น
ทีมข่าวถามในประเด็นเรื่องรถเก๋งคันสีแดงของนายกิต ว่านางสาวพรเคยเห็นรถคันนี้มาก่อนหรือไม่ นายโอ๊ตก็ตอบว่า นางสาวพร เคยเห็นรถเก๋งคันสีแดงมาก่อนแน่นอน เพราะรถคันนี้ก็เคยจอดอยู่บ้านกิตตลอด เวลาพรมาบ้านพี่กิต ก็น่าจะเห็น หากถามว่าพรเคยนั่งรถเก๋งแดงคันดังกล่าวหรือไม่ ตัวเองก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่กับเขาตลอดเวลา
ส่วนเรื่องแชตของผู้ตายที่ถูกบุคคลปริศนาไปหานางสาวหลังจากนั้นนั้น ตัวเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพิมพ์
หลังให้สัมภาษณ์ นายโอ๊ต ได้พาทีมข่าวไปดูห้องนอน ที่นายกิต และนางสาวพร เคยนอนด้วยกัน แต่ทางนายโอ๊ตไม่สะดวกที่จะเปิดประตู พาทีมข่าวไปดูด้านในห้องดังกล่าวได้ เนื่องจากไม่ใช่ห้องนอนของตัวเอง จึงให้ถ่ายเฉพาะด้านหน้าห้องเท่านั้น
ไอ้กิตอุ้มไม่ผิดตัว แอบพกรูปใหม่
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยทางวีดีโอคอลกับ นางสาวนิว แฟนสาวของนายแท็ป และเป็นอีกหนึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนเกิดเหตุ
นางสาวนิว เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ นายกิต ได้โทรศัพท์มาชวนกานต์ และนายแท็ป แฟนของตัวเอง เพื่อให้ไปทำธุระบางอย่างช่วยเขา เวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งตอนนั้นเค้าก็ไม่ได้บอกว่าจะไปไหน ตัวเองจึงขอไปกับนายแท็ปด้วย
กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. พวกตัวเอง ก็ได้ไปรวมตัวกันที่ อู่ซ่อมรถของนายกิต ก่อนที่นายกิตจะพาขับรถเก๋งคันสีแดง ไปที่หมู่บ้านของผู้เสียชีวิต ซึ่งพอไปถึงหน้าหมู่บ้านของผู้เสียชีวิต ในกิตก็ได้แตะคีการ์ดเข้าไปในหมู่บ้านตามปกติ และมีการไปจอดรถ ถอยรถเข้าออกออก เหมือนรออะไรบางอย่าง นายแท็ป แฟนของตัวเอง ก็ถามพี่กิตอยู่เรื่อยๆว่า “พี่รออะไร” กิตก็ตอบว่า “รอก่อน รอทำธุระนี่แหละ”
กระทั่งเวลาประมาณ 4 ทุ่มนิดๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซต์คันหนึ่งขับออกมาจากหมู่บ้าน จากนั้นนายกิต ก็ได้ขับรถตามมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวออกมา พอถึงช่วงหนึ่ง นายกิต ได้ขับรถเก๋งปาดหน้า รถมอเตอไซค์คันดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็เริ่มรู้สึกไม่โอเคแล้ว ว่านายกิตพาตัวเองและแฟนหนุ่มมาทำอะไรกันแน่
นายกิต ได้เปิดกระจกฝั่งข้างคนขับ แล้วพูดกับผู้ตายว่า “มึงๆ ขึ้นรถ” แล้วแฟนตัวเองก็เรียกผู้ตายว่า “พี่ เขาให้ขึ้นรถ” ก่อนที่ผู้ตาย จะเดินขึ้นรถตามปกติ แล้วี่กิตก็พูดอีกคำหนึ่งว่า “โอ๊ต” จากนั้นนายโอ๊ตก็ได้ลงจากรถเก๋งแล้วไปขับรถมอเตอร์ไซต์ของผู้เสียชีวิต แล้วนายกิตก็ได้ขับรถเก๋งออกไป จังหวะที่นายกิต ขับรถออกมานั้น ตัวเองเห็นนายกิต เขาเอาโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วเปิดรูปภาพบัตรประชาชนผู้ตาย พร้อมถามผู้ตายว่า “มึงชื่อธนาสันต์ เตอั้น ใช่ไหม อยู่ที่อยู่ตามนี้ใช่ไหม“ ผู้ตายก็ตอบแบบสีหน้ากังวลๆว่า ”ใช่ครับ ผมชื่อธนาสันต์ เตอั้น” ตอนนั้นตัวเองก็คิดว่า ผู้ตาย ไปติดหนี้เงินกู้กับพี่กิตหรือไม่ พี่กิตจึงมารับผู้ตายขึ้นรถแบบนี้
กระทั่งรถนายกิตขับไปจอด ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง นายกิตและนายกานต์ ได้เดินลงไปซื้อบุหรี่ จังหวะนั้น ผู้ตายอยู่กับตัวเองและนายแท็ป ผู้ตายได้ถามพวกตัวเองว่า “พี่จับผมมาทำไม ผมทำอะไรผิด” นายแท็ป ก็ถามกลับว่า ”พี่ไปทำอะไรผิดมาไหม” คนตายจึงตอบว่า “ผมไม่รู้ครับ” ก่อนที่นายกิต จะขึ้นรถ แล้วขับรถเก๋งออกจากร้านสะดวกซื้อ นายแท็ป ตัวเอง และนายกานต์ เริ่มรู้สึกไม่ดีแล้ว นายแท็ป จึงบอกให้นายกิต ว่า “พี่ ถ้าเป็นอย่างนี้ ไปส่งผมกลับบ้านเลย กระทั่งนายกิต ได้ไปส่งที่หลังอู่ของเขา จากนั้นนายกิต นายกานต์ และนายแท็ป ก็เดินลงจากรถไป ทำให้ตอนนั้นตัวเองและผู้เสียชีวิตได้นั่งกันอยู่ในรถสองคน ตัวเองจึงถามผู้ตายว่า “พี่ พี่ไปทำอะไรผิดมา” คนตายก็ตอบว่า “ผมก็ไม่รู้ครับ” ซึ่งตอนนั้นสีหน้าผู้ตาย ก็กังวล และระแวงมากๆ ก่อนที่ตัวเองจะลงจากรถ แล้วกลับบ้านกับนายแท็ปไป
ส่วนนายกานต์ ก็แยกออกไปดื่มเหล้ากับเพื่อน ซึ่งนายกิต และผู้ตายจะไปไหนต่อจากนั้น ตัวเองก็ไม่รู้ แต่ตัวเองมองว่ามีหลายจังหวะที่ผู้ตายสามารถวิ่งหลบหนีออกไปได้ อย่างเช่นตอนที่เขาอยู่กับตัวเองตามลำพัง และตอนที่นายกิต ไปซื้อบุหรี่ที่ร้านสะดวกซื้อ แต่ผู้ตายเขาก็ไม่หนีลงจากรถ
นางสาวนิว บอกอีกว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุ ตัวเองได้เห็นเชือกเส้นสีแดงอยู่ในรถของนายกิตอยู่เหมือนกัน ตอนแรกเชือกวางอยู่ที่คอนโซลของรถ จังหวะที่ในขับขึ้นสะพาน เชือกหล่นมาใส่ตัวเอง ตัวเองจึงหยิบเชือกเส้นดังกล่าวขึ้นมา แต่ตอนนั้นยังไม่มีการก่อเหตุแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องของกิต และนางสาวพรนั้น ตัวเองก็ทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ทั้งสองคนคบหาดูใจกันอยู่ และนายกิต ก็รักพรมาก