เมียเก่าไอ้กิตแฉ เกือบเป็นศพถ้าไม่เลิก

วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวช่องแปดยังได้เดินทางไปพูดคุยกับนางสาวชมพู (นามสมมติ) อายุ 33 ปี อดีตภรรยาของช่างกิต ที่เคยจดทะเบียนสมรสและคบหากันเมื่อประมาณ 11 ปีก่อน และมีลูกด้วยกันมาแล้ว

นางสาวชมพู เผยว่า หลังจากที่ตนเองเลิกรากับช่างกิต นานกว่า 11 ปี ก็ไม่เคยติดต่อหรือคิดจะติดต่อ เพราะตอนตนเองเลิกรากับเจ้าตัวนั้นถูกทำร้ายร่างกายโดยการตบ ตนเองจึงเลือกที่จะเดินออกมาจากชีวิตก่อนที่จะนัดเจอกันภายหลังแล้วเซ็นใบหย่า และตนเองก็เอาลูกมาเลี้ยงจนกระทั่งโตจนจนถึงทุกวันนี้ แล้วส่วนตัวเพิ่งจะดูข่าวตอนที่ช่างกิตถูกจับ ตอนแรกที่ทราบข่าวก็ตกใจ และไม่คิดว่าจะไปเกี่ยวข้องหรือเป็นคนก่อเหตุด้วยซ้ำ จนกระทั่งไปรู้เรื่องราวความจริงหลายอย่าง จึงค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นการกระทำของช่างกิต เพราะแม้จะดูเป็นคนนิ่งเงียบเหมือนไม่มีอะไร แต่ก็เป็นคนอารมณ์ร้อนโมโหร้ายพอสมควร ฉะนั้นการกระทำจึงอาจเกิดขึ้นเพราะอารมณ์ชั่วชั่ววูบหรือสันดานที่ซ่อนอยู่ในตัว และการที่ตนเองเลือกที่จะออกมาจากชีวิตของช่างกิต ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี หากตนเองยังทนอยู่ปัจจุบัน ก็อาจจะกลายเป็นศพ ที่อาจถูกคุ้มค่าหรือทำร้ายร่างกายแล้วเอาไปทิ้งก็ได้

สำหรับที่ผ่านมา หลังจากที่ตนเองเอาลูกมาเลี้ยงจนกระทั่งโต ตนเองไม่เคยให้ลูกรับรู้ว่าพ่อของลูกคือช่างกิต และก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องตนเองก็ได้ถามลูก ทำนองว่า “ ลูกอยากรู้ไหมว่าพ่อของลูกเป็นใคร” โดยตัวลูกของตนเองตอบว่า “ ไม่อยากรู้ ทุกวันนี้ก็มีความสุขแล้ว” เพราะเนื่องจากตนเองให้ตาเป็นพ่อบุญธรรมของลูกอยู่ในตอนนี้ และการใช้นามสกุลของลูกก็เป็นนามสกุลของตนเอง ไม่ใช่นามสกุลของช่างกิต ดังนั้น จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่วันนี้ลูกไม่รู้ว่าพ่อคือฆาตกร ไม่เช่นนั้นคงเป็นตราบาปให้กับลูก และส่วนหลักฐานที่เกี่ยวข้องว่าช่างกิต เป็นพ่อของลูก ไม่ว่าจะเป็นภาพงานแต่ง หรือความสัมพันธ์ หรือเอกสารอะไรก็ตามที่มีชื่อของช่างกิต ตัวเองได้มีการเผาทำลายทิ้งไปหมดแล้ว เพราะไม่อยากให้เป็นหลักฐานที่ลูกจะรู้ความจริง ตนเองรับไม่ได้ที่จะต้องให้ลูก ไปมีคนอย่างช่างกิตเป็นพ่อ

แล้วที่ผ่านมา สมัยที่เคยคบหากัน ยอมรับว่าเจ้าตัวเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ก็ยังไม่รุนแรงถึงขั้นก่อเหตุได้เหมือนปัจจุบันปัจจุบัน แต่ส่วนหนึ่งก็เชื่อว่าอาจเป็นเพราะหลงรักเขาหัวปักหัวปำ ไม่ยอมรับความจริงทั้งที่ฝ่ายหญิงเขามีแฟนอยู่แล้ว จนกระทั่งกระทำฆ่าสามีคนอื่นเค้าตาย และอีกส่วนก็อาจจะเป็นเพราะฝ่ายหญิง ที่อาจมีข้อมูลปกปิดหรือพูดความจริง จนกระทั่งทำให้ช่างกิต คิดไปไกล หรืออาจมีความเป็นไปได้ที่ฝ่ายหญิงอาจหลอกว่าไม่มีแฟนหรือไม่มีสามีอยู่กับพ่อแม่ เพราะในฐานะที่เคยคบหากัน เจ้าตัวก็เป็นคนลักษณะหัวอ่อนพอสมควร จึงอาจคล้อยตามและเชื่อคำพูดของผู้หญิงก็ได้

ขณะเดียวกัน กรณีการก่อเหตุของช่างกิต และพรรคพวกที่มีการไปอุ้มหนุ่มโรงงานขึ้นรถ จากนั้นมีการฆ่าอำพรางแล้วเอาไปโยนทิ้ง จนมีเด็กที่อยู่ในรถออกมาโต้ข้อมูลในหลายประเด็น ทำนองว่าถูกหลอกให้ไปช่วยงาน แต่ไม่ได้มีการร่วมฆ่านั้น ส่วนตัวก็เชื่อว่า คำพูดของเด็กเรานั้นค่อนข้างมีมูล เนื่องจากตนเองก็ดูหลักฐานและข่าวเหมือนกัน เด็กอาจถูกช่างกิต ที่เป็นในฐานะรุ่นพี่หรอกให้ไปทำผิด แต่เมื่อรู้ความจริงก็ต้องหนีเอาตัวรอดเพื่อที่จะไม่ทำผิดต่อ แต่สิ่งที่สิ่งที่มันเกิดขึ้นอาจจะเป็นตัวของช่างกิตล้วนๆ ที่ทำลงไปเนื่องจากอารมณ์โมโหเพียงคนเดียว แต่เด็กคนอื่นไม่ได้มีประเด็นที่จะไปร่วมทำร้ายเขา จึงเป็นไปไม่ได้ และตัวเองก็เชื่อว่าคนที่ลงมือทั้งหมดก็คือช่างกิต เพียงคนเดียว คนในรถคนอื่นไม่ได้เกี่ยวข้อง

เรวัชเปิดสาเหตุ น้องพร รอดหมายจับ

พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้อดคลิปถึงประเด็นนี้ว่าที่น้องพรรอดหมายจับ เพราะหลักฐานที่ออกมามันไปไม่ถึง แล้วอีกอย่างตัวของกิตเอง เป็นคนรับคนเดียวไม่มีการซัดทอด ก็ออกหมายจับไม่ได้ แต่สิ่งที่พรได้รับก็เหมือนตายทั้งเป็นเพราะสังคมประณาม