"ศาลพิพากษา" จำคุก 8 จำเลย คดีแฟลชม็อบ 14 ธ.ค. 62 4 เดือน แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมปรับทั้งหมด 11,200 บาท เหตุเป็นผู้จัดการชุมนุม แต่ไม่แจ้ง-ควบคุมการชุมนุม

วันที่ 5 ก.พ. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลแขวงปทุมวัน พิพากษาคดีแฟลชม็อบที่สกายวอร์ก เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2562 โดยจำเลยประกอบด้วย อดีตพรรคอนาคตใหม่ อย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.พรรคก้าวไกล กับพวกรวม 8 คน ว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. การชุมชนสาธารณะ พ.ศ. 2558 และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 ดังที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องจริงหรือไม่

โดยศาลพิพากษาให้จำคุก 4 เดือนปรับ 1,000 บาท แต่ศาลได้คำนึงถึงสถานะทางสังคมและไม่เคยรับโทษมาก่อน จึงได้ปราณีทางกฎหมายอาญาให้โอกาสรอลงอาญา 2 ปี แต่ให้ปรับโทษเป็นพินัยตาม พ.ร.บ. การชุมชนสาธารณะ พ.ศ. 2558 และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 เป็นเงิน 10200 บาท ซึ่งตามกระบวนการจำเลยสามารถยื่นอุทธรณ์ได้

ทั้งนี้ ศาล ชี้ว่า จำเลยอยู่ในฐานผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ แต่ไม่แจ้งก่อนล่วงหน้าภายใน 24 ชั่วโมง ไม่ดูแลการชุมนุมไม่ให้กีดขวาง และไม่ควบคุมการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทำให้เกิดความไม่สะดวกต่อประชาชนที่สัญจร ในพื้นที่สาธารณะ เกิดความเดือดร้อน ซึ่งตามกฎหมายพฤติการณ์ดังกล่าวมีโทษทางพินัยและอาญาตามมาตรา 83

ศาล ยังคำนึงถึงพฤติการณ์ของจำเลยที่มีการโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่คืนวันที่ 13 ธันวาคม 2562 เชิญชวนประชาชนมาชุมนุมที่สกายวอล์ค แยกปทุมวัน จากข้อความและภาพที่ปรากฏในการประชุม ผู้นัดชุมนุมถือว่าเป็นผู้ประสงค์จัดชุมนุมสาธารณะ มีหน้าที่ต้องแจ้งการชุมนุมก่อนไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง แล้วจะต้องจัดการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย และยังปรากฏว่าในช่วงการชุมนุมตำรวจได้แจ้งให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมแล้ว แต่ไม่เป็นผล และในวันดังกล่าวพบว่าผู้ชุมนุมมีจำนวนมากเต็มพื้นที่ และภาพที่ปรากฏออกมา ย่อมเห็นได้ว่ามันเป็นการกระทบต่อการสัญจรของประชาชนในพื้นที่สาธารณะ อีกทั้งยังชุมนุมใกล้วังสระปทุม ในรัศมี 150 เมตร

อย่างไรก็ตาม ศาลยังกล่าวทิ้งท้ายว่า การใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตและกฎหมายรวมถึงสถานที่ตามกฎหมาย แต่จำเลยเพิ่มเฉยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

 

สำหรับจำเลย 8 คน ที่ถูกยื่นฟ้องประกอบด้วย

1. น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา
2. นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ ซึ่งตอนนี้บวชเป็นพระอยู่
3. นายธนวัฒน์ วงค์ไชย
4. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
5. นายปิยบุตร แสงกนกกุล
6. น.ส.พรรณิการ์ วานิช
7. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
8. นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร