ไอ้กิต ร้อนตัวเตรียมทำลายหลักฐาน ก่อนวันรวบตัว

ทีมข่าวช่อง 8 ได้มาพูดคุยกับนายพัน นามสมมติ น้องชายของนายกิต (ผู้ต้องหา) เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า สำหรับนายกิต พี่ชายตัวเอง เขาคบหากับนางสาวพร ได้ประมาณ 2 เดือน โดยคบหากันในลักษณะแฟน เพราะตัวเองเห็นนางสาวพร มาใช้ชีวิตที่บ้านพี่ชายหลายครั้ง อาทิ นอนห้องเดียวกัน และบางวัน ก็เห็นนางสาวพร ใส่ผ้าขนหนูผืนเดียว ออกมาจากห้องนอนของนายกิต พี่ชายตัวเองอีกด้วย

ตัวเองเชื่อว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมานายกิต พี่ชายตัวเอง ถูกนางสาวพรหลอกมาตลอดเลยว่า เขาไม่มีสามีมาก่อน ไม่อย่างนั้น นายกิต ก็คงรู้จักนายใหม่ไปแล้ว

และตอนอยู่ที่ทำงาน พี่ชายตัวเอง ก็หยอกล้อกัน กอดรัดฟัดเหวี่ยง กับนางสาวพร จนทุกคนก็เข้าใจว่า กิตพี่ชายตัวเอง และพรเป็นแฟนกันมาตลอด กระทั่งวันที่ 31 มกราคม 2567 (หลังเกิดเหตุ) ตัวเองเห็นรถมิราจ ต้องสงสัย สีแดงในข่าวจึงถามพี่ชายไปว่า ได้ไปก่อเหตุไหม มิราจสีแดง ใช่พี่ไหม นายกิต พี่ชายก็ตอบว่า “กูอยู่บ้าน เดี๋ยวกูไปเปลี่ยนล้อก่อน” ซึ่งตอนนั้นพี่ชายตัวเองก็ยังยืนยันว่าเขาไม่ได้ไปก่อเหตุ

และวันที่รับศพผู้เสียชีวิตวันแรก นางสาวพร ก็ได้โทรศัพท์มามาหาพี่ชายตัวเอง พร้อมบ่นว่า “ไม่มีเงินจัดงานศพ” นายกิต พี่ชายตัวเอง ก็ได้ไปยืมเงินเพื่อน และเอาเงินเดือนของตัวเอง รวมประมาณ 40,000 บาท ไปให้กับนางสาวพร เพื่อไปเป็นค่าช่วยงานศพผู้ตาย และเงินจำนวนดังกล่าว พี่ชายจะต้องไปรักษาโรคกระเพราะ ที่พี่ชายป่วยอยู่ และจะต้องไปผ่าตัดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทั้งที่ตอนนั้น พี่ชายก็น่าจะเพิ่งรู้ความจริง ว่าต้องให้เงินนางสาวพรไป เพื่อเอาไปเป็นค่าทำศพ ของชายที่พึ่งฆ่ามา แต่พี่ชายก็ยอมทำ เพราะเขารักพร มากกว่ารักตัวเอง ถ้าเป็นคนอื่นเค้าคงเอาเงินไปรักษาตัวเองแน่นอน

นายพัน น้องชายนายกิต ยังบอกอีกว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 ก่อนเกิดเหตุ 5 วัน นางสาวพร ได้บอกกับพี่กิต พี่ชายตัวเองว่าเขาท้อง ซึ่งตอนนั้นนายกิตพี่ชายตัวเองก็มีความสุขมาก เนื่องจากเขามีความหวังที่จะได้เลี้ยงลูกที่เกิดกับนางสาวพร ซึ่งนายกิต ก็ได้ส่งผลการตรวจร่างกายของนางสาวพร มาให้ตัวเองดูอีกด้วย ตอนนั้นยังพูดคุยกันกับพี่กิตว่า อยากได้หลานผู้หญิง เพราะจะได้มาเล่นเป็นเพื่อนกับลูกสาวของตัวเอง แต่มารู้ทีหลังว่าจริงๆแล้วพรไม่ได้ท้อง

ส่วนที่นางสาวพร ออกมาให้ข่าวว่าคีย์การ์ดของเขาหาย 1 ใบ คาดว่าพี่กิต น่าจะไปขโมยคีย์การ์ดใบดังกล่าวหรือไม่นั้น ตัวเองขอยืนยันได้เลยว่านายเกลียดพี่ชายตัวเองไม่มีพฤติกรรมขโมยของใครแน่นอน ซึ่งแค่คีย์การ์ด พี่ชายจะถึงกับต้องขโมยขนาดนั้นเลยหรอ และอีกอย่าง พี่ชายและนางสาวพร คนมันเป็นแหนกัน แค่เรื่องคีย์การ์ดทำไมต้องขโมย

และทุกครั้งที่นางสาวพร และพี่ชาย เข้าไปในบ้านผู้ตาย แล้วไม่เจอผู้ตายนั้น คาดว่า พรน่าจะสับรางเก่งพอสมควร รู้ว่าคนตายทำงานเวลาไหน ถึงพาพี่กิตเข้ามาในบ้านได้ รถไฟจึงไม่ชนกัน

สุดท้ายก็อยากจะฝากถึงนางสาวพรว่า “ ถ้าเรื่องนี้คุณไม่มาจู้จี้จุกจิก มาหลอกพี่ชายตัวเองตั้งแต่แรก ว่าไม่มีแฟน เหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้น”