"สมชาย" เตือนอัยการสูงสุด ดำเนินคดี "ทักษิณ" ผิด ม.112 หากกลับคำไม่ฟ้อง ระวังซ้ำรอย "บอส"
นายสมชาย แสวงการ กล่าวถึงกรณีสำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินคดีในคดีมาตรา 112 กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า คดีนี้เป็นเรื่องที่อัยการสูงสุดเดิมได้สั่งฟ้องไปแล้ว จึงเป็นการดำเนินคดีคุณทักษิณ ตั้งแต่ปี 2559 แต่คุณทักษิณขออุทธรณ์คำฟ้อง ดังนั้น การที่อัยการสูงสุดเดิมสั่งฟ้อง แล้วอัยการสูงสุดใหม่จะกลับคำสั่งไม่ฟ้อง ขอให้พิจารณาดีๆ เพราะมีกรณี"บอสกระทิงแดง" เป็นตัวอย่างอยู่แล้ว
ตนจึงมองว่า เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว คุณทักษิณปฏิเสธ พร้อมยื่นขออุทธรณ์สิ่งสำคัญคืออัยการสูงสุดต้องพิจารณา มีอยู่แค่ 3 ทาง
1.คือรับอุทธรณ์ แต่ยืนยันตามคำฟ้องอัยการสูงสุด
2.รับและเห็นว่าการยื่นถูกแล้วก็เดินหน้าไป วันที่ปล่อยตัวหรือพักโทษ ก็นำตัวไปศาลต่อ ซึ่งศาลอาจจะให้ปล่อยตัวหรือไม่ก็ได้
3. ไม่มีการอายัดตัวแล้ว เพราะสอบเสร็จแล้ว
นานสมชาย ยังตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลในเรื่องนี้คือ เมื่อเข้ายื่นฟ้องคุณทักษิณ อัยการกับตำรวจย่อมเห็นสภาพว่าตอนนี้สภาพคุณทักษิณวิกฤตร้ายแรงหรือไม่ และการเขียนปฏิเสธข้อกล่าวหา จะต้องเขียนเอกสารร้องทุกข์ แสดงว่า คุณทักษิณอยู่ในสภาพที่ไม่ได้ป่วยวิกฤตร้ายแรงใช่หรือไม่ ขัดแย้งกับสิ่งที่เปิดเผยต่อสังคม เพราะอ้างว่าป่วยหนักมากจึงต้องอยู่โรงพยาบาลตำรวจ ตอนนี้ตนจึงขอเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรเปิดเผยออกมาว่าตกลงอาการของอดีตนายกคุณทักษิณ ซึ่งขณะนี้เป็นนักโทษเด็ดขาดอยู่ในอาการแบบใด สังคมจะได้หายคาง แคลงใจ
ส่วนการขอพักโทษ นายสมชาย มองว่า เมื่อครบกำหนด 22 กุมภาพันธ์นี้ ตามเกณฑ์ขอพักโทษคุณทักษิณ ก็จะได้สิทธิ์นั้น อาจจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่สังคมคงตั้งคำถามเยอะเพราะคุณทักษิณ ไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว และหากวันหน้า มีข้อบกพร่องทางกฎหมาย หมอพยาบาล แพทย์ ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องก็ต้องรับผิดชอบในอนาคต
"22 กุมภาพันธ์ ได้รับพักโทษ มีชื่อแล้ว แต่สังคมคงมีการตั้งคำถาม"
อย่างไรก็ตาม ในการอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภา นายสมชาย จองกฐิน เรื่องนี้ทักษิณ ชินวัตร ไว้แล้ว