วันนี้ 10 ก.พ.67 เวลา 18:00 น. วันนี้ นางสาวนิวซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่เกี่ยวโยงกับคดีฆาตกรรมนายใหม่ ถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา หลังจากที่แม่ของนางสาวนิว ยื่นเอกสารพร้อมกับหลักทรัพย์ 800,000 บาท เพื่อประกันตัวลูกสาวออกมา โดยมีเงื่อนไขติดกำไล EM และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

 

เมื่อนางสาวนิวก้าวออกจากประตูเรือนจำกลางฉะเชิงเทราเจ้าตัวมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดและไม่ปิดปากตอบคำถามใดๆทั้งสิ้นกับสื่อมวลชน โดยใส่แมสและใส่หมวกปิดบังใบหน้า และมีการจับหมวกก้มหน้าตลอดระยะทางที่ออกจากเรือนจำกลางจนกระทั่งขึ้นรถเก๋งสีขาวที่แม่ของนางสาวนิวมารับ

 

ทีมข่าวพยายามสอบถามว่าได้มีส่วนร่วมในการอุ้มมัดมือมัดเท้ากับช่างกิตหรือไม่แต่ปรากฏว่านางสาวนิวไม่ตอบและไม่พยักหน้าใดใดทั้งสิ้น และเมื่อถามว่าเห็นเชือกสีแดงจริงหรือไม่และมีการจับเชือกสีแดงในรถหรือไม่ เจ้าตัวก็ไม่ตอบและรีบขึ้นรถก่อนพยักหน้าบอกแม่ที่เป็นคนขับ ให้รีบขับออกจากบริเวณที่มีทีมข่าวอยู่ โดยแม่ของนางสาวนิวพานางสาวนิว มุ่งหน้ากลับบ้านพักที่จังหวัดสมุทรปราการทันที

 

วันนี้ 9 ก.พ.2567 ทีมข่าวช่อง 8 ได้โทรศัพท์พูดคุยกับพล.ต.ต.นเรวิช สคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนางสาวพร มาสอบปากคำเพิ่มเติม เกี่ยวกับประเด็นที่นางสาวพรบอกว่า เขามีหลักฐานที่จะยืนยันว่าหลังเกิดเหตุ เขาได้ทำอะไร โทรหาใครบ้าง และประเด็นที่ 2 คือ พนักงานสอบสวนยังมีส่วนสงสัยในคำให้การของพร ที่ยังไม่ประติดประต่อกันเท่าไหร่ เพื่อให้มีความชัดเจน จึงเรียกนางสาวพรมาสอบปากคำ โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 3 ชั่วโมง (3-5ทุ่ม)

 

สำหรับประเด็นที่ตำรวจยังสงสัยก็คือ หลังเกิดเหตุนางสาวพร มีการโทรศัพท์ไปหาบุคคลๆหนึ่ง ซึ่งไม่รู้จักกับพร ตำรวจก็อยากจะถามว่าเหตุใดนางสาวพรจึงโทรศัพท์ไปหาบุคคลนี้ ซึ่งนางสาวพร ก็บอกว่า ที่เขาต้องโทรไปหาบุคคลดังกล่าว เนื่องจากเขาได้รับข้อความจากผู้ตายซึ่งมีบุคคลอื่นแฝงตัวแทน เขาไม่สบายใจ เรื่องที่คุยแชตกับนายใหม่ (แชตที่บอกว่าท้อง) เขาจึงมีการโทรศัพท์ไปหาเพื่อนร่วมงาน ของผู้ตาย เพื่อหาคำตอบ

 

สาวกู้ภัยโทรศัพท์มาหาเจ้าหน้าที่สำนักงานทนายความไพศาลเรืองฤทธิ์ บอกอยากให้ข้อมูลสำคัญเรื่องพิรุธน้องพรในคืนวันพบร่างสามี โดยมีประเด็นดังนี้

  1. น้องพรยืนยันว่านี่คือร่างของสามีใหม่ทั้งๆที่ผ้าสีขาวยังห่อคลุมร่างไว้ น้องพรรู้ได้อย่างไรว่านี่คือใหม่ทั้งๆ ที่กู้ภัยยังไม่ได้เปิดผ้าให้ดู
  2. อ้างว่าจำรอยสักได้ ทั้งที่ศพยังไม่ถอดเสื้อ
  3. 3. คืนวันพบศพน้องพรเสียใจนั่งร้องไห้แต่สังเกตพบทำไมน้องพรร้องไห้ไม่มีน้ำตา
  4. ช่างกิตคนที่มานั่งข้างๆเป็นเพื่อนน้องพร จ้องมองมายังกู้ภัยสาวอย่างผิดปกติ ดูลึกลับน่ากลัว
  5. น้องพรเป็นคนบอกข้อมูลเวลาออกจากบ้านของใหม่ให้กิตทราบหรือไม่
  6. น้องพรให้การกลับไปกลับมาไม่ตรงกัน

 พิรุธ พรรู้รอยสักคนตาย ทั้งที่ยังไม่เปิดผ้าดูศพ

ในคืนวันที่ 29 ม.ค.67 เมื่อพรไปถึงที่เกิดเหตุคือจุดพบศพของนายใหม่ ยังไม่ได้มีการเปิดผ้าห่อศพ แต่พรรู้ว่าผู้ตายคือนายใหม่ และศพสวมรองเท้าอยู่ แต่พรบอกว่าจำนิ้วเท้าได้ และนอกจากนี้ยังบอกว่าจำรอยสักข้างหลังได้ทั้งๆที่ศพยังไม่ได้ถูกถอดเสื้อ

ย้อนดูโพสต์เพจคนข่าวบางปะกงในวันเจอศพใหม่

เพจคนข่าวบางปะกง โพสต์เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 17:47 น. โดยระบุข้อความว่า

#แชร์ตามหาญาติ พบเคสสีดำ เป็นชายอายุประมาณ 30-35 ปี ถูกมัดมือมัดเท้าเอามาโยนทิ้งข้างกำแพงรั้วมอเตอร์เวย์ กม.41 ขาเข้า กทม. คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3วัน ใครจำเสื้อหรือกุญแจ หรือมีญาติหาย ให้ติดต่อ สภ.บางปะกง ด่วนครับ

จากนั้นใน เวลา 21:39 น. วันเดียวกับทางเพจก็ได้โพสต์อีกว่า

“#เคสนี้เxยมจริง ยืนยันจากญาติว่าเคสสีดำ เป็นชายอายุ33 ปี ถูกมัดมือมัดเท้าเอามาโยนทิ้งข้างกำแพงรั้วมอเตอร์เวย์ กม.41 ขาเข้า กทม. คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3วัน เป็นบุคคลที่หายตัวขณะเดินทางไปทำงานที่ชลบุรี โดยติดต่อไม่ได้ตั้งแต่ช่วง22.06 น.วันที่27 ม.ค.67 ซึ่งน้องที่เป็นคนพบคนแรกบอกว่าขณะที่ขี่รถผ่านก็เห็นเหมือนมีคนนั่งมองอยู่ในพงหญ้าโดยเห็นว่าเป็นคนที่มีใบหน้าที่ดำสนิท ก็สงสัยว่าเป็นอะไรกันแน่ก่อนจะวกกลับไปดูจึงรู้ว่าสิ่งที่เห็นนั้นกลายเป็นร่างคนนอนแน่นิ่งในพงหญ้า ก่อนโทรแจ้งตำรวจ

 

ด้านนางสาวกุ๊ก กู้ภัยฉะเชิงเทรา จุดบางประกง ให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเองเป็นหนึ่งในกู้ภัยที่มาอยู่ในวันที่เจอศพผู้เสียชีวิต ซึ่งตัวเองก็พบพิรุธว่า พอนางสาวพรมาถึง เขาก็มายืนยันอัตลักษณ์ว่าศพดังกล่าวคือสามีของเขา ทั้งที่เขาก็ยังไม่เห็นศพเลย เนื่องจากศพถูกคุมผ้าขาวเอาไว้

 

สิ่งที่เขายืนยันก่อนที่เจอศพก็คือ ยืนยันว่าเขาจำรองเท้าได้ จำรอยสักได้ จำกุญแจรถได้ ทั้งที่เขาก็ยังไม่เห็นศพ ตัวเองจึงแปลกใจในเรื่องนี้ ส่วนสีหน้าของนางสาวพรตอนที่เจอศพ นั้นก็สีหน้าธรรมดาทั่วไป

 

กระทั่งเวลา 22.00 น. ตัวเองก็ได้นำร่างผู้เสียชีวิต ไปที่โรงพยาบาล ซึ่งนางสาวพรกับนายกิตก็ขับรถออกไปก่อนตัวเองไม่นาน

พรตัวสั่นถูกเค้นสอบ เจอสายปริศนาโทรคุย จับโป๊ะรู้ชื่อศพก่อนเปิดผ้าคลุม