แท็ปรุดทำบุญอุทิศให้ใหม่ ก่อนเข้า รพ.ฟอกไต
ด้านนายไพศาล อายุ 53 ปี หรือนายหรั่ง ลุงของแท็ป ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ วินาทีที่หลานชายตัวเองออกจากเรือนจำ เขาก็โผเข้าก่อนแม่ของเขา แล้วก็ร้องไห้ตื้นตันใจ ซึ่งตัวเองก็รู้สึกดีใจกับหลานชายที่เขาได้รับการประกันตัวออกมา ถึงแม้จะใส่กำไล EM ก็ตาม แต่ตัวเองเชื่อว่าหลานชายตัวเองบริสุทธิ์ เชื่อว่าเขาไม่ได้ไปร่วมก่อเหตุกับนายกิตแน่นอน รวมถึงวันที่นายกิต มีการไปซ้อมแผน หลานชายก็ไม่ได้ไปกับเขาด้วยในคืนนั้น
เมื่อเช้าวันนี้ตัวเองก็ได้พาหลานชาย และพ่อแม่ของเขา ทำบุญตักบาตรอยู่ที่หน้าบ้าน เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้กับผู้เสียชีวิต และให้ผลบุญไปไปถึงนายกิต (ผู้ต้องหา) เขาจะได้ใจเย็นลง และไม่ต้องมาซัดทอดน้องๆ เพราะเขาไม่ได้ร่วมก่อเหตุด้วย
โดยตอนนี้ หลานชายตัวเองก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพื่อรอฟอกไตในเวลาประมาณห้าทุ่ม
นายหรั่งยังส่งภาพนิ่ง ที่นายแท็ป และครอบครัว ทำบุญตักบาตร ในเมื่อเช้าวันนี้ ให้ทีมข่าวดูอีกด้วย
แม่นิวยันลูกเห็นเชือกแดงบนรถกิต แต่ไม่ได้ร่วมพันธนาการใหม่
วันนี้นางแหม่ม (นามสมมติ) แม่ของน้องนิว หนึ่งในผู้ต้องหาที่อยู่ในคดีร่วมกันฆ่านายใหม่ ได้เดินทางมาที่ ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อมายื่นเอกสารขอรับตัวลูกสาวออกมาจากเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา เผยสำหรับการประกันตัวลูกสาวออกจากเรือนจำกลางฉะเชิงเทราจะต้องใช้หลักทรัพย์ในการยื่นศาลขอประกันตัวเป็นเงินทั้งสิ้น 800,000 บาท โดยมีการใช้เงินส่วนตัวและมีการหยิบยืมคนอื่นเพื่อมาประกันตัวลูกสาวในครั้งนี้ มีเงื่อนไขในการประกันตัวออกมาในครั้งนี้คือต้องใส่กำไล EM และห้ามออกนอกประเทศ
ในส่วนเรื่องของคดีตนเองยังมีความเป็นห่วงอยู่ก็มีการปรึกษาทนายถึงเรื่องที่จะเดินหน้าต่อสู้คดีต่อจากนี้ ส่วนตัวเชื่อที่ลูกสาวเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังในคืนที่เกิดเหตุ ยอมรับลูกสาวไม่ได้อยู่บ้านพักกับตนแต่อยู่บ้านพักกับนายแท็ปในคืนที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นนายกิตได้โทรเรียกนายแท็ป มีการชวนออกไปทำธุระ โดยนายแท็ปเป็นหลานชายของนายกิตอีกทั้งเป็นแฟนหนุ่มของลูกสาวตน ก็ไม่อยากปล่อยให้ลูกสาวตนอยู่ในบ้านพักคนเดียวจึงชวนลูกสาวตนออกไปด้วย ตอนนั้นกิตก็ไม่ได้บอกแท็ปและลูกสาวตนว่าจะไปไหน และก็ได้ขึ้นรถเก๋งมิราจสีแดงของนายกิตไปทำธุระ
โดยนายแท็ปและลูกสาวตนค่อนข้างกลัวและตกใจมากตอนที่นายกิตขับรถเก๋งสีแดงปาดหน้ารถจักรยานยนต์ของนายใหม่ ตอนนั้นทั้งนายแท็ปและลูกสาวตนก็รู้สึกกลัวและตกใจทันที แต่ถ้าถามว่ามีการใช้ปืนจี้บังคับ “ใหม่” ให้ขึ้นรถหรือไม่ ลูกสาวตนและนายแท็ปก็บอกว่าไม่มี โดยนายใหม่ยินยอมขึ้นรถเก๋งโดยดีและไม่ได้มีท่าทีขัดขืน
ตอนนั้นนายแท็ปเห็นท่าไม่ดีออกอุบายบอกนายกิตว่าจะต้องรีบกลับบ้าน แล้วก็มีการชักชวนลูกสาวตนลงจากรถคันนั้น ยืนยันว่าตอนที่ลูกสาวตนและแท็ปลงจากรถ คนอื่นในรถก็ลงเช่นกัน จึงทำให้ในรถมีเพียงสองคนที่ยังอยู่เท่านั้น คือนายกิตนั่งเบาะคนขับและนายใหม่นั่งหลังเบาะคนขับ ตนยังได้ถามลูกอีกว่าเห็นอะไรแปลกๆบนรถหรือไม่ ซึ่งลูกก็บอกว่าในตอนที่นายใหม่นั่งอยู่บนรถเพิ่งสังเกตเห็นมีเชือกสีแดงอยู่ในรถของนายกิต แต่ตอนนั้นไม่ได้เอะใจเพราะกิตเป็นช่างอยู่แล้ว
ยืนยันตนเองไม่เข้าข้างลูกรอผลตรวจเชือกสีแดงและรอผลสืบสวนสอบสวนของตำรวจอีกครั้ง แต่เบื้องต้นก็เชื่อว่าลูกของตนบริสุทธิ์ เพราะที่ผ่านมาลูกสาวตนไม่เคยเกเร และไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมายจึงเชื่อว่าลูกมีความบริสุทธิ์อยู่ แต่ลูกยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้มีส่วนร่วมมัดมือมัดเท้านายใหม่ ซึ่งตอนที่ลูกกับแท็ปลงรถนายใหม่ก็ไม่ได้ถูกมัดมือมัดเท้าเช่นเดียวกัน
ตนอยากฝากบอกนายกิตว่า “ ตัวเองเป็นคนทำก็ไม่ควรลากคนอื่นหรือลากน้องไป ยอมรับผิดเถอะว่าทำคนเดียว” หลังลูกสาวได้รับการประกันตัวออกมาเลยวันนี้คุณยายก็เตรียมทำกับข้าวที่บ้านเพื่อรับขวัญลูกสาว ยืนยันว่าทางครอบครัวจะสู้คดีถึงที่สุดเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของลูกสาวตน