เพจคนข่าวบางประกง เผย ติดใจวันเจอศพ ทำไมพรมาถึงเร็ว

ทีมข่าวช่อง 8 ได้มาพูดคุยกับนายนนท์ แอดมินเพจ คนข่าวบางประกง ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 17.15 น. ตัวเองได้รับแจ้งว่าเจอศพอยู่ถนนเรียบมอเตอร์เวย์ จึงเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ พอมาถึงจุดเกิดเหตุตัวเองก็ได้โทร. หาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะคิดว่าศพดังกล่าวน่าจะถูกฆาตกรรม เพราะจากดูสภาพศพของผู้ตายก็พบว่า ศพมีลักษณะลักษณะนอนตะแครง ผูกมัดมือเท้าด้วยเชือกสีแดง ตัวเองจึงถ่ายภาพนิ่งอักษรตัว B ในเสื้อของผู้ตาย กุญแจรถของผู้ตาย



ซึ่งเวลาประมาณ 5 เกือบ 6 โมงเย็น ตัวเองก็ได้โพสต์เหตุการณ์ดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊กก็มีคนทักแชตมาให้ข้อมูลจำนวนมาก ทั้งชื่อ ที่อยู่ของผู้ตาย รูปภาพของผู้ตาย ว่าศพที่ถูกมัดมือ มัดเท้าน่าจะเป็นนายใหม่ ที่ครอบครัวของผู้สูญหายกำลังตามหาอยู่ จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนก็ได้มาเอาข้อมูลเบาะแสคนตายจากในเพจของตัวเอง จนกระทั่งได้เบอร์ของภรรยาผู้ตาย ซึ่งก็คือน้องพร ตำรวจจึงโทร. แจ้งข่าวกับน้องพร กระทั่งเวลาประมาณ 1 ทุ่มกว่า นางสาวพร ก็มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมกับช่างกิต

ซึ่งตอนนางสาวพรมาถึงที่เกิดเหตุนั้น เขาก็ร้องไห้ จะเป็นลม จากนั้นตำรวจก็ไปสอบถามรายละเอียดนางสาวพร ที่ถนนฝั่งตรงข้าม ว่า “จำอะไรในร่างกายสามีได้บ้าง” นางสาวพรก็ตอบว่า “สามีเขา เขาเห็นนิ้วเท้าก็จำได้ ถ้าเห็นรอยสักที่หลังเขาก็จำได้ และจำกุญแจรถได้” ซึ่งตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถามนางสาวพรนั้น เจ้าตัวก็ยังไม่เห็นร่างของสามี เนื่องจากร่างของผู้ตาย ได้ถูกผ้าขาวปลุกคลุมเอาไว้แล้ว โดยตรงนี้ตัวเองไม่ได้เห็นว่านางสาวพรจะมีพิรุธอะไร เนื่องจากว่า ตำรวจเขาถามนางสาวพรในลักษณะว่า “หากศพดังกล่าวเป็นสามีของเขาจริง เขาจะจำอะไรในร่างกายของสามีบ้าง” นางสาวพรก็เลยตอบมาแบบนั้น ว่าเขาจะจำอัตลักษณ์ดังกล่าวได้

จากนั้นตัวเองก็นำภาพถ่ายรูปเสื้อของผู้ตาย และภาพกุญแจรถของผู้ตาย ให้นางสาวพรดู เขาก็ยืนยันว่าเป็นนายใหม่ สามีของเขา แต่สิ่งเดียวที่ตัวเองพบว่าเป็นพิรุธก็คือ หลังจากตำรวจโทร. ไปแจ้งนางสาวพรให้มาดูศพ ไม่นานเขาก็มาถึง ซึ่งตัวเองก็แปลกใจว่าทำไมเขามาถึงเร็วจัง เนื่องจากว่าจุดที่ทิ้งศพเป็นถนนเรียบมอเตอร์เวย์ สามารถเข้า-ออกได้หลายหลายทาง หากไม่ใช่คนพื้นที่อาจจะมีหลงทางและมาไม่ถูก ซึ่งทำไมนางสาวพรถึงมาจุดเกิดเหตุได้เร็ว โดยตอนนั้นตัวเองก็ไม่รู้ว่าคนที่ขับรถพานางสาวพรมานั้น คือคนก่อเหตุ

โดยนางสาวพร ก็อยู่กับศพถึงประมาณ 4 ทุ่ม โดยมีนายกิตนั่งข้าง ๆ ตลอด ซึ่งตอนนั้น ตัวเองก็ถามนายกิตว่า เป็นอะไรกับนางสาวพร นายกิตก็ตอบว่า "เป็นลูกพี่ลูกน้อง"