แม่เลี้ยงพร เดินหนีสื่อ เผย ยังไม่มีอะไรจะพูด
ผู้สื่อข่าวได้ปักหลักเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของ น.ส.พร ที่บ้านของนายจำเริญ พ่อของน้องพรตลอดทั้งวัน กระทั่งเวลา 15.27 น. นายจำเริญและนางหญิง แม่เลี้ยงได้ขับรถกระบะออกมาจากบ้าน ทีมข่าวจึงได้ติดตามไปดูและพบว่า นายจำเริญและนางหญิงได้ไปซื้อข้าวสารประมาณ 2 กระสอบ น้ำ 1 ถัวใหญ่ รวมถึงเปลี่ยนถังแก๊สที่ร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านออกไปประมาณ 7 กิโลเมตร โดยออกไปได้ประมาณ 20 นาที ทั้ง 2 คนก็ขับรถกลับเข้าบ้านไป ผู้สื่อข่าวสังเกตไม่พบว่ามี น.ส.พร นั่งออกมาในรถด้วย ซึ่งดูจากการซื้อของใช้และอาหาร ของนายจำเริญและนางหญิงแล้วน่าจะเป็นการเตรียมการที่จะปักหลักอยู่ที่บ้านเป็นเวลาหลายวัน
โดยหลังจากที่นายจำเริญและนางหญิง ซื้อของและอาหารเสร็จเรียบร้อย ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปพูดคุยแต่ได้รับคำตอบจาก นางหญิงว่า “ยังไม่อยากพูดอะไรในตอนนี้ และยังไม่มีอะไรจะพูด” จากนั้นทั้งสองคนก็ได้ขึ้นรถ และขับรถมุ่งหน้ากลับเข้าบ้านไป
ผู้การฯ เชื่อกิตพร้อมเปิดอกให้ข้อมูล จ่อเข้าสอบในเรือนจำ
พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า จากการทำงานของตำรวจค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า ขณะเกิดเหตุกิตไปกับนายใหม่ 2 คน ส่วนพฤติการณ์ของการยิงผู้ตาย ว่าจะเปิดประตูหลังด้านซ้ายยิง หรือยิงจากในรถ, คนตายนั่งหน้า หรือนั่งเบาะหลังนั้น ตำรวจอยู่หระหว่างตรวจสอบอยู่ ซึ่งจะต้องดูเขม่าปืนและคราบเลือดว่า พยานหลักฐานเจอที่ตรงไหนก่อนถึงจะสรุปได้ โดยตำรวจคาดการณ์ว่ามีการมัดมือ มัดเท้าผู้ตายก่อน ที่นายกิตจะลงมือยิง แต่ตำรวจก็มีคาดการณ์อยู่ว่า ตอนเกิดเหตุอาจมีบุคคลที่ 3 อยู่ด้วยหรือไม่
โดยเร็ว ๆ นี้ ทางตำรวจก็จะไปสอบปากคำนายกิตเพิ่มเติมในเรือนจำ ซึ่งถ้ามีข้อมูลและมีหลักฐานเพิ่ม ก็อาจออกหมายจับเพิ่มเติม แค่ตอนนี้ขอรวบรวมหลักฐานก่อน ส่วนประเด็นที่มีบุคคลอื่นอาจไปซักซ้อมแผนก่อนเกิดเหตุ 1 วัน กับช่างกิตนั้น ตำรวจก็อยู่ระหว่างตรวจสอบเรื่องนี้ว่าใครที่ไปกับช่างกิต ซึ่งถ้าหากพบว่าคนที่ไปซักซ้อมด้วยรู้เห็นเหตุการณ์ ก็จะดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ พล.ต.ต.นเรวิช ให้ข้อมูลอีกว่า จากการตรวจสอบโทรศัพท์ของนางสาวพรยังไม่พบว่านางสาวพรมีการบอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ตายให้กับนายกิตรู้แต่อย่างใด ซึ่งตำรวจก็ได้สอบปากคำนายกิตในประเด็นนี้เหมือนกัน โดยเขาให้การว่า เขามีความสงสัยเกี่ยวกับผู้ชายอีกคนของพร (ใหม่ ผู้ตาย) มาก่อนหน้านี้แล้ว และนายกิตก็เช็กเวลาด้วยตัวเอง ว่าผู้ตายน่าจะออกไปทำงานกะเวลาเท่าไร
การชำแหละรถของนายโอ๊ตนั้น จากการสอบปากคำ นายโอ๊ตได้ให้การว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าตัวได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับมาที่อู่ของช่างกิต ก่อนที่จะชำแหละในวันหลังจากนั้น โดยเจ้าตัวให้การยืนยันว่ามีการชำแหละที่อู่ของช่างกิต โดยนายกิตเป็นคนสั่ง และในช่วงกลางคืนถึงได้นำซากรถมอเตอร์ไซค์ใส่กระบะทึบไปทิ้ง ส่วนเรื่องผลการตรวจโทรศัพท์น้องพร และของบุคลอื่น ๆ ในคดี อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญตรวจสอบ
น้องชายกิต จอให้ปากคำตำรวจ 12 ก.พ. เตรียมบอกพี่เรื่องโลก 7 ใบของพร
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายพัน น้องชายของช่างกิตทางวิดีโอคอล เปิดเผยว่า ตำรวจได้เชิญตัวเองไปสอบปากคำในวันจันทร์ที่ 12 ก.พ. ที่จะถึงนี้ โดยสอบปากคำเกี่ยวกับประเด็นว่า ตัวเองอยู่บ้านช่วงวันเกิดเหตุไหม แล้วถ้าอยู่บ้าน ตัวเองเห็นความเคลื่อนไหวของช่างกิต นายโอ๊ต นางสาวพร และคนอื่น ๆ หรือไม่ เนื่องจากตัวเองเป็นบุคคลที่อยู่บ้านหลังเดียวกันกับช่างกิต
โดยในวันจันทร์ตนก็จะเดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจแน่นอน และตัวเองก็ไม่ได้กังวลใจอะไร ส่วนถามว่าตัวเองเห็นพิรุธอะไรเกี่ยวกับ นายกิต พี่ชายตัวเองหรือไม่นั้น ตัวเองก็ไม่ได้เห็นพิรุธอะไร ถึงตัวเองจะอยู่บ้านหลังเดียวกันก็จริง แต่ก็อยู่ห้องนอนกันคนละโซน ตัวเองไม่ได้มาคลุกคลีกับพี่ชาย และปกติพี่ชายก็จะเข้าเข้า-ออกออกบ้านแบบนี้อยู่แล้ว
โดยอีกประมาณไม่เกิน 15 วัน หากตัวเองได้เยี่ยมพี่ชาย สิ่งแรกที่จะบอกเขาก็คือให้กำลังใจเขา ก่อนที่จะถามเรื่องคดีความ ว่าตอนเกิดเหตุพี่ชายไปก่อเหตุอย่างไรบ้าง แต่ก็คิดว่าประเด็นนี้พี่ชายก็ปากแข็งไม่เล่า อะไรให้ตัวเองฟังหรอก และสิ่งที่พี่ชายจะพูดกับตัวเอง คาดว่าเขาน่าจะฝากให้ดูแลแม่ เนื่องจากพี่ชายเขาเป็นห่วงและรักแม่มาก ๆ แต่ถ้าพี่ชายฝากดูแลน้องพร หากเขาพูดคำนี้ออกมา ตัวเองก็จะบอกพี่ชายเองว่าหลังจากที่พี่ชายไปอยู่ในเรือนจำ พรเขามีโลก 7-8 ใบ ยืนยันว่าจะบอกความจริงเกี่ยวกับนางสาวพรให้พี่ชายฟังแน่นอน
เปิดปมแค้น! กิตสูญเงินนับแสนให้พร จึงต้องการเป็นเบอร์ 1
ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังที่ทำงานของนางสาวพร และนายกิต ได้พูดคุยกับนายเหลิม (นามสมมติ) เพื่อนร่วมงานต่างแผนกของทั้งคู่ ให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเองรู้จักกับนางสาวพร และนายกิต แต่จะไม่สนิทกับทั้ง 2 คน เนื่องจากว่าทำงานกันคนละแผนก แต่ยอมรับว่าชื่อเสียงของนางสาวพร ค่อนข้างโด่งดังในโรงงาน เพราะเขาค่อนข้างคุยกับผู้ชายหลายคน โดยนางสาวพรจะเป็นคนเข้าไปจีบหนุ่ม ๆ ในคลังสินค้า แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะคบหากับนางสาวพร เพราะว่าหากช่างกิตรู้ว่านางสาวพรคุยกับหนุ่มคนไหน หนุ่มคนนั้นก็จะถูกนายกิตมาเตือนว่าห้ามยุ่งกับผู้หญิงคนนี้ประจำ จึงไม่มีใครกล้ายุ่งกับน้องพร แล้วตัวเองก็ได้ข่าวมาว่า มีหนุ่ม ๆ ในโรงงานประมาณ 3 คน ที่โดนนายกิตไปตักเตือนไม่ให้ยุ่งกับน้องพร
ส่วนปมที่นายกิตไปก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าน่าจะมาจากเรื่องหึงหวง และตัวเองก็เห็นคนในโรงงานคุยกันว่า ช่างกิตให้เงินน้องพรใช้หลายแสนบาท จึงทำให้ช่างกิตแค้นเรื่องที่เคยเปย์ให้น้องพรจำนวนหลายบาทด้วยหรือไม่
เพื่อน เชื่อ คนใกล้ชิดบอกไทม์ไลน์ ใหม่ ก่อนถูกสังหาร
ด้านนายบุญฤทธิ์ หรือ แอ๊ด เพื่อนสนิทของนายธนาสันต์ หรือ ใหม่ ผู้ตาย ให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเองเชื่อว่า การก่อเหตุครั้งนี้นายกิตมีการวางแผนก่อเหตุมาเป็นอย่างดีแน่นอน เพราะเขารู้กระทั่งเวลาทำงานของผู้ตาย ว่าเข้างานกี่โมง วันไหนเข้ากะไหน ซึ่งข้อมูลนี้ต้องเป็นคนใกล้ชิดผู้ตายเท่านั้นที่รู้รายละเอียดตรงนี้ และที่ผู้ก่อเหตุเขาไปซ้อมแผนก่อนเกิดเหตุ 1 วัน เพื่อดูว่าจะก่อเหตุตรงไหน จุดไหนเปลี่ยว จุดไหนปลอดคน
ส่วนประเด็นวันแจ้งความ ที่นางสาวพรบอกกับเพื่อนช่างกิต ว่าแฟนเก่าปีนเข้าบ้านจนต้องพากันไปแจ้งความนั้น ตัวเองก็ยังไม่เคยทราบในประเด็นนี้มาก่อน ซึ่งหากเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็อยากถามพรว่าคิดอะไรอยู่ และอยากให้นางสาวพรออกมาพูดจริง
นายบุญฤทธิ์ บอกกับทีมข่าวต่อว่า ตัวเองเป็นเพื่อนกับนายใหม่มาตั้งแต่ประถม มัธยม และก็ได้ ไปเป็นทหารในปีเดียวกัน โดยจับมือกันเข้าค่ายทหารเลยก็ว่าได้ ซึ่งตัวเองเคยเจอนางสาวพร ครั้งแรก ตอนวันที่เข้าค่ายทหาร ที่นางสาวพรไปส่งนายใหม่เข้าค่าย หลังจากนั้นพอใหม่อยู่ในค่ายทหารห่างจากพร เขาก็จะคิดถึงพรทุกวัน “เพราะพร เป็นแฟนคนแรก และคนเดียวของใหม่”
โดยใหม่มีความฝันอยากจะสร้างครอบครัวกับนางสาวพร อยากมีลูกกับนางสาวพร และใหม่ก็คาดหวังที่จะรับราชการทหาร แต่เขาสอบไม่ผ่าน จากนั้นก็ออกมาทำงานโรงงานและเวลานางสาวพรอยากได้อะไร ใหม่ก็จะซื้อให้ทุกอย่าง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายใหม่ก็ไม่เคยมาระบายให้ตัวเองฟังเลยว่า พรนอกใจเขา ที่ใหม่จับไม่ได้ ตัวเองก็คิดว่าใหม่น่าจะเป็นคนซื่อ
ทั้งนี้ ตนได้คุยกับนางสาวพรครั้งสุดท้าย คือเมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ตอนนั้น เวลา 14.43 น. ตัวเองทักไปหานางสาวพรว่า “ใหม่อยู่ไหน” จากนั้นตัวเองก็โทร. หานางสาวพร 2 สายแต่เขาก็ไม่รับ ก่อนที่นางสาวพรจะตอบกลับมาว่า “ไม่รู้”
ต่อมานางสาวพร ส่งข้อความแชตที่มีคนปริศนา แอบอ้างเข้าเฟซบุ๊กของใหม่ แล้วบอกว่าใหม่ทำผู้หญิงท้อง มาให้ตัวเองดู แล้วพรก็พิมพ์ว่า “ติดต่อไม่ได้อีกเลย พรวิ่งเต้นแจ้งความคนหายพยายามตามหาอยู่” จากนั้นตัวเองก็ตอบกลับนางสาวพร ว่า “เดี๋ยวจะช่วยตามหาอีกทาง” พรตอบกลับมาว่า “ขอบคุณค่ะ” และตนก็ขอชื่อ ที่อยู่ ของใหม่แล้วนางสาวพรก็ส่งที่อยู่มาให้ จากนั้นนางสาวพร พิมพ์กลับมาว่า “พรไปถามมาหมดแล้ว วันนี้พรไป สภ.บางพลี บางปูไปมาหมดแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปใหม่ ขอหมายจะไล่ดูกล้อง”
จากนั้น นายบุญฤทธิ์ สอบถามนางสาวพรว่า “ได้ทะเลาะกับนายใหม่หรือไม่” นางสาวพรก็ตอบว่า“ไม่ได้ทะเลาะค่ะ รักกันปกติ ก่อนจะออกจากบ้านไปทำงานที่หายไป ก็ยังกอดกัน หอมแก้มกันปกติไปเดินตลาด หาข้าวกิน”
ส่วนแชตต่อมา เป็นตอนที่ทุกคนทราบข่าวว่าเจอศพผู้เสียชีวิตอยู่ริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ นางสาวพรจึงส่งภาพนิ่ง 1 ภาพ ขณะที่นั่งรถบนถนน เส้นบางนา-ตราด มุ่งหน้าจุดพบศพมาให้ตัวเองดู ตัวเองก็พยามสอบถามนางสาวพรว่า “ศพที่เจอไม่ใช่ใหม่ใช่ไหม” เพราะตอนนั้นตัวเองไม่อยากให้ศพดังกล่าวเป็นนายใหม่เพื่อนตัวเองเลย ทั้งนี้ ตนก็อยากขอความยุติธรรมให้กับเพื่อนของตัวเอง ด้วยเชื่อว่านายกิตไม่สามารถก่อเหตุเพียงคนเดียวตามลำพังได้
นอกจากนี้ นายบุญฤทธิ์ ยังส่งภาพของนายใหม่ ผู้เสียชีวิต สมัยที่ทั้งคู่เป็นทหารเมื่อปี 2554 รวมทั้งมีรูปของผู้เสียชีวิตสมัยเป็นเด็ก ประถมที่ถ่ายร่วมกับเพื่อนเพื่อนในชั้นเรียน มาให้ทีมข่าวดู และยังมีคลิปที่ผู้ตายนั่งตัดหญ้าตอนเป็นทหารเกณฑ์ อยู่ในค่ายทหารแห่งหนึ่ง โดยเป็นบรรยากาศกำลังเล่นสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อน
อีกทั้ง ทีมข่าวยังได้รับแชตเฟซบุ๊กที่นายบุญฤทธิ์ ได้ทักเฟซบุ๊กหาผู้ตายหลังจากเกิดเหตุเมื่อเวลา 20.43 น. โดยมีข้อความว่า “ไอ้ใหม่ ใครที่ทำมึงให้มันโดนจับไว ๆ มึงช่วยให้ตำรวจตามเจอโทรศัพท์มึงซะทีซิวะ คนที่ทำมึงมันจะได้มารับโทษ มึงรู้ไหมว่ากูคิดถึงมึงขนาดไหน 555555 คิดถึงมึงมาก ช่วยตำรวจตามโทรศัพท์ด้วยละ”
เรวัช เผย แค่นี้พรก็ทุกข์ใจจะตายอยู่แล้ว ไม่อยากทับถมอีก
ขณะที่ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร หรือ ท่านเรวัช อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กำลังไลฟ์สดผ่านช่องยูทูบ โจ เรวัช กลิ่นเกษร เล่าเรื่องต่าง ๆ และร้องเพลงที่ชอบ อยู่ ๆ เอฟซีก็ขอเพลง “พรจ๋าพร” ทำให้ พล.ต.ท.เรวัช บอกว่า การที่ตนพูดเรื่องคดีน้องพร เนื่องจากวิเคราะห์เรื่องข้อสงสัย ข้อสันนิษฐาน ส่วนเรื่องความประพฤติของพร เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา อย่าเอาประเด็นเรื่องความชอบของน้องพร มาเป็นข้อสงสัยในทางคดีเลย น้องพรจะมีกี่คนมันเป็นความสุขของน้องเขา ชอบแบบไหนก็ทำไป
จากนั้นก็มีเอฟซีขอเพลงรักน้องพรอีก ทำให้ พล.ต.ท.เรวัช บอกว่า ตอนนี้ไม่อยากทับถมพรแล้ว เพราะแค่นี้ก็ทุกข์ใจ ทุกข์กายจะตายแล้ว พร้อมย้ำว่าชีวิตมันผิดพลาดได้ ถ้าพยานหลักฐานไม่ถึง ก็ถือว่าพรรอดคุก รอดตะรางไป ก็เริ่มต้นชีวิตใหม่