ช่างนนท์ งัดหลักฐานวงจรปิด ไปล้างรถตรงวัน-เวลาซ้อมอุ้มฆ่า
คืบหน้ากรณีพบศพ นายธนาสันต์ หรือ ใหม่ ถูกมัดมือ มัดเท้าโยนทิ้งข้างทางเลียบมอเตอร์เวย์ หลังจากที่เจ้าตัวขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน แล้วมีรถเก๋งสีแดงต้องสงสัยขับตามหลัง จนกระทั่งนำไปสู่การจับกุมช่างกิต และพวก ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว นั้น
วันนี้ (9 ก.พ. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปยังร้านคาร์แคร์ ซึ่งเปิดอยู่ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยปั๊มน้ำมันดังกล่าว ตัวของช่างนนท์ เพื่อนของช่างกิต อ้างว่าในวันที่ 26 ม.ค. ตามวันเวลาที่ระบุในกล้องวงจรปิด ว่ามีการไปซ้อมเตรียมการสำหรับการอุ้มฆ่านายใหม่ หนุ่มโรงงาน โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง มีวันเวลาและไทม์ไลน์ที่ชัดเจน และในวันดังกล่าวได้มีการเอารถลูกค้าไปล้างที่คาร์แคร์ เพื่อที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าในวันรุ่งขึ้น
ทีมข่าวไปที่คาร์แคร์ดังกล่าว ตรวจสอบกล้องวงจรปิด มีภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่ 26 ม.ค. เวลาประมาณ 22.09 น. จับภาพรถเก๋งของช่างนนท์ ซึ่งเป็นรถของลูกค้า ขับเข้ามาจอดที่คาร์แคร์ ก่อนที่จะเดินลงจากรถไปนั่งรอระหว่างที่พนักงานของคาร์แคร์ กำลังช่วยกันล้างทำความสะอาด
หลังจากที่ผ่านจุดทำความสะอาดและล้างเสร็จแล้ว เจ้าตัวได้เดินไปนั่งรอบริเวณจุดที่มีการเช็ด ดูดฝุ่น ซึ่งจะเห็นว่ามีพนักงานขึ้นไปบนรถและขับแทน ขยับจากจุดล้างไปยังจุดดูดฝุ่น โดยจะเห็นว่าตัวของช่างนนท์ก็คงนั่งรออยู่บริเวณจุดดูดฝุ่นและเช็ด จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.33 น. ภาพวงจรปิดเห็นช่างนนท์เดินไปสแกนจ่าย ก่อนที่จะขึ้นไปบนรถและขับออกจากคาร์แคร์ภายในปั๊มน้ำมัน กลับไปที่อู่ของช่างกิต
และในวันเดียวกันนี้ ตัวของช่างนนท์ ยังลงพื้นที่มาตรวจสอบกล้องวงจรปิดพร้อมกับทีมข่าว โดยเจ้าตัวเดินทางมาถึงที่คาร์แคร์ เวลาประมาณ 12.38 น. โดยเจ้าตัวสวมใส่เสื้อสีแดง เดินเข้ามาผ่านกล้องวงจรปิดด้านหน้าคาร์แคร์ มายกมือทักทายเจ้าของร้าน ก่อนที่จะขออนุญาตดูกล้องวงจรปิดพร้อมกับทีมข่าว เพื่อที่จะนำไปประกอบไทม์ไลน์ยืนยันว่าในวันที่มีการซ้อมอุ้มนั้น เจ้าตัวไม่ได้ไม่ได้ไปร่วม แต่เอารถลูกค้ามาล้างที่คาร์แคร์แห่งนี้
หลังจากที่เจ้าตัวได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดครบถ้วนทุกมุมแล้ว และทีมข่าวก็ได้มีการบันทึกพฤติการณ์และช่วงเวลาของช่างนนท์ภายในคาร์แคร์ดังกล่าว เจ้าตัวได้พาทีมข่าวไปยืนยันชี้จุด ที่มีการล้างรถ ส่งมอบรถให้กับพนักงาน จุดที่เจ้าตัวไปนั่งพักคอย และก่อนที่จะเดินไปสแกนพร้อมกับรับรถก่อนที่จะขับออกจากคาร์คาร์แคร์ในคืนวันที่ 26 ม.ค.
ช่างนนท์ เผยว่า ในวันนี้ตนเองลงพื้นที่มาเพื่อที่จะตรวจสอบไทม์ไลน์ในวันที่ 26 ม.ค. ตามช่วงเวลาที่ถูกกล่าวหาว่าไปร่วมซ้อมและเตรียมการสำหรับการก่อเหตุอุ้มหนุ่มโรงงาน โดยในวันดังกล่าวตนเองมีไทม์ไลน์ทั้งตัวบุคคล และภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงสิ่งที่ทำอยู่ยืนยันชัดเจน ว่าไม่ได้มีการไปซ้อมอุ้มใคร และไม่ได้ไม่ได้ไปวางแผนร่วมกับใคร แต่ออกมาเพื่อที่จะล้างรถให้กับลูกค้า
ด้วยตนเองออกมาถึงช่วงเวลาประมาณ 22.09 น. เพราะห่างจากอู่รถไกลพอสมควรแต่เป็นร้านที่เปิดดึก ประกอบกับเป็นร้านประจำตนเองจึงเดินทางมาล้างที่นี่ หลังจากทุกครั้งที่ซ่อมรถให้ลูกค้าเสร็จ และกลับออกไปช่วงเวลาประมาณ 22.34 น. เพื่อที่จะขับรถกลับไปไว้ที่อู่ ตอนขับรถกลับไปนั้น ก็ยังไปเจอกับช่างกิต แต่หลังจากที่เจอกันแล้วก็แยกย้าย ไม่ได้ไปนัดแนะ หรือเจอกันระหว่างทาง และยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซ้อมแผนตามที่ถูกกล่าวหา เพราะในวันนั้นตนเองไม่ได้ไปโผล่ที่หมู่บ้านของนายใหม่
โดยวันนี้ตนเองได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งเวลาและการยืนยันบุคคล ก็เตรียมที่จะนำไปแสดงความบริสุทธิ์ใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีการแจ้งข้อกล่าวหา หรือต้องการไทม์ไลน์ที่ชัดเจน ตนเองก็จะนำหลักฐานนี้ไปมอบให้
นนท์ แจงรอยสักเหมือนน้องพร แจง ไปสักก่อนช่างกิตพาพรไปสักตาม
ช่างนนท์ เผยว่า จากกรณีที่ตนเองออกมาให้ข่าว ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของนางสาวพรและช่างกิต ก็ถูกสังคมรวมถึงคนรอบข้างกล่าวหาว่า ตนเป็นโลกใบที่ 3 ของพร นั้น ส่วนตัวจึงจะยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง และไม่ได้รู้จักเชิงลึกอะไรกับนางสาวพร เพราะตนเองสนิทกับช่างกิตมากกว่า แต่ก็เข้าใจว่านางสาวพรเป็นคนสนิทของช่างกิต ฉะนั้นตนเองจึงไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือจะไปมีสัมพันธ์อะไรกับเจ้าตัว และที่สำคัญตนเองก็มีครอบครัวอยู่แล้วจึงไม่อยากยุ่งกับเรื่องแบบนี้ แต่การออกมาให้ข้อมูลก็เพื่อปกป้องคนที่เป็นผู้บริสุทธิ์ เพื่อที่จะไม่ให้ตกเป็นเหยื่อหรือถูกโจมตี หรือถูกกล่าวหาเท่านั้นเอง
แต่ส่วนตัวยอมรับว่า เป็นคนที่มีรอยสักตรงกับนางสาวพร เพราะเป็นอาจารย์เอก อาจารย์คนเดียวกันที่ตนเองมักจะเดินทางไปสัก โดยรอยสักที่เหมือนคืออยู่ที่หลังฝ่ามือสองข้าง ซึ่งเป็นยันต์เมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ด้วยตนเองสักก่อน ขณะเดียวกันช่างกิตก็ถามว่าตัวเองสักที่ไหน ก่อนที่จะพานางสาวพรไปสักที่เดียวกัน กับอาจารย์คนเดียวกัน จึงได้มีลวดลายรอยสักที่คล้ายกันเท่านั้น แต่ส่วนรอยสักอื่นที่ฝ่ามือและรวมถึงแขน ก็เป็นคนละรอยสักกันไม่ได้เหมือนนางสาวพร เพราะรอยสักอื่นนางสาวพรไปสักที่อื่น และตนเองก็มีหลักฐานยืนยันว่า นางสาวพรไปสักกับอาจารย์เอกคนเดียวกันกับที่ตัวเองสัก เพื่อยืนยันว่าไม่ใช่วันเวลาเดียวกันและตัวเองไม่ใช่เป็นคนพาไป แต่ช่างกิตพาไปเอง
ทั้งนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตัวของนางสาวพรได้พยายามติดต่อมาหาตนเองถึง 5 สาย เพื่อที่จะให้ตนเองไปเป็นพยานในเรื่องเกี่ยวกับการยืนยันบางอย่าง นับตั้งแต่ที่ตนเองออกมาให้ข้อมูลเรื่องนี้ ตัวของนางสาวพรก็ไม่ได้ติดต่ออะไรมาอีก และตนเองก็ไม่ได้ติดต่อไป ซึ่งส่วนตัวก็ไม่มีอะไรฝากบอก แต่เพียงแต่บอกว่าไม่ต้องติดต่อมาก็ดี เพราะไม่อยากยุ่งและไม่อยากวุ่นวายอีกแล้ว แค่นี้ก็วุ่นวายมากพอ
ไขปริศนาช่างกิต ดูเทปกาวในร้านชำ
ช่างนนท์ เผยว่า กรณีที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดปรากฏภาพช่างกิต มีการไปซื้อสก๊อตเทปหรืออุปกรณ์บางอย่างที่ร้านขายของชำ ก่อนที่จะมีการก่อเหตุอุ้มหนุ่มโรงงาน โดยถูกโยงว่าอาจจะเป็นการเตรียมการซื้อสก๊อตเทป หรืออุปกรณ์เพื่อใช้ในการก่อเหตุอุ้มอำพราง ส่วนตัวไม่ได้แก้ตัวแทนช่างกิต แต่ตนเองอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เพราะในวันนั้นตนเองไปที่ร้านดังกล่าวก่อน เพื่อไปหาสก๊อตเทป ซึ่งเป็นชนิดที่สามารถขูดเลขคัทซี ที่เป็นเลขรหัสตัวเครื่องยนต์ เพื่อที่จะนำไปประกอบในการซ่อมรถและส่งให้กับขนส่ง
ตนเองจึงทราบว่า วันนั้นช่างกิตไปเพื่อที่จะซื้อสก๊อตเทปดังกล่าว แต่บังเอิญว่าไม่มียี่ห้อที่สามารถใช้ขุดเลขคัทซีได้ จึงทำให้ไม่ได้มีการซื้อแต่มีภาพปรากฏว่าไปเดินเลือกซื้อเท่านั้น และที่สำคัญก่อนที่ช่างกิต จะไปโผล่ที่กล้องวงจรปิดดังกล่าว ตนเองก็เข้าไปเลือกดูก่อน 5 นาที หลังจากที่ไม่เจอจึงเดินไปบอกกับเจ้าตัวว่าไม่มีขายที่ร้านนี้ แต่ช่างกิตไม่เชื่อ จึงพานางสาวพรไปดูเองอีกครั้งหลังจากที่ตัวเองกลับออกมา ฉะนั้นหากไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็จะเห็นว่าตนเองเดินเข้า-ออกก่อนที่ช่างกิตจะไปถึง
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือร่วมในกระบวนการอุ้มหนุ่มโรงงาน และอาจเป็นผู้ชายซึ่งไม่ใช่ผู้หญิง นั้น ช่างนนท์ บอกว่า ส่วนตัวก็ไม่ได้มีความกังวลใจอะไรในเรื่องนี้ เพราะทุกอย่างสามารถยืนยันทั้งตัวบุคคลและไทม์ไลน์หลักฐานชัดเจน หากถูกออกหมายจับหรือนำไปผูกโยง ตนเองก็จะชี้แจงและนำหลักฐานเหล่านี้ไปมอบให้กับตำรวจ และยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่การวางแผนจนกระทั่งการก่อเหตุ และไม่ได้มีส่วนสนับสนุนหรือ ไปข้องเกี่ยวอะไรกับการก่อเหตุที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันทีมข่าวยังให้ช่างนนท์สาธิตการใช้เทป ที่อ้างว่าไปหาซื้อที่ร้านขายของไม่ไกลจากอู่ช่างกิต ซึ่งเทปดังกล่าวจะใช้ในการขูดคัทซีของเลขเครื่องยนต์รถ นั้น
โดยเจ้าตัวได้ใช้เทป ซึ่งเป็นเทปที่สามารถใช้ขูดคัทซีรถได้ เจ้าตัวฉีดขนาดพอประมาณ เท่ากับความกว้างของตัวอักษร ซึ่งเป็นเลขเครื่องยนต์บริเวณด้านหน้า จากนั้นได้ติดสก็อตเทปไปที่ตัวเลขถัง พร้อมกับใช้ดินสอขนาดตั้งแต่ 2 บีขึ้นไป เพราะมีความเข้มกว่าดินสอทั่วไป ในการฝนเพื่อให้ปรากฏตัวเลขบนกระดาษดังกล่าว เพื่อที่จะนำไปแปะไว้ในเอกสารในการต่อยื่นภาษี หรือ พ.ร.บ.รถ โดยเจ้าตัวได้มีการสาธิตให้ทีมข่าวดู ว่าสก็อตเทปที่หาซื้อในวันที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดนั้น ต้องการที่จะนำมาขูดเลขคัทซี เหมือนเช่นเดียวกับวันที่สาธิตให้ทีมข่าวดูในวันนี้