จากกรณีที่ น.ส.ทานตะวัน หรือ ตะวัน หนึ่งในแกนนำกลุ่มทะลุวัง โดยสารไปกับรถเก๋งคันหนึ่ง มีชายไม่ทราบชื่อเป็นผู้ขับขี่ ไปบีบแตรรถลากยาว ระหว่างตำรวจถวายความปลอดภัยภารกิจ 095 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และตลอดภารกิจมีการปล่อยรถประชาชนร่วมในเส้นทาง พบว่ารถที่ตะวันนั่งมาบีบแตรลากยาว ระหว่างขบวนเสด็จฯ ผ่านทางร่วมต่างระดับมักกะสัน และขับด้วยความเร็วเพื่อไปให้ทันขบวน 095 แต่เมื่อมาถึงบริเวณทางลงทางด่วนพหลโยธิน 1 (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่รถปิดท้ายได้สกัดกั้นไม่ให้รถยนต์คันดังกล่าวลงไปร่วมกับขบวน 095 ได้ จึงปรากฏคลิปโต้เถียงดังกล่าว กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลเป็นอย่างมากนั้น
ล่าสุดวันนี้ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด ไลฟ์สดผ่าน TikTok บอกว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเกินเด็กไป ตนอายุป่านนี้แล้ว แก่จะตายอยู่แล้ว ตนมีความจงรักภักดีในหัวใจ หนูอย่าทำแบบนี้อีกนะ ทำอย่างนี้ไม่ถูก พ่อแม่ไม่สั่งสอน เด็กอย่างนี้มันต้องสะเดาะเคราะห์แล้ว มันไม่เข้าท่า และใครไปถือหางไม่ได้ ไปถือหางไม่ได้ NGO จะไปถือหางอะไรยังไง ตนคิดว่ารถหนูคันที่ใช้อยู่ ตนไม่อยากบอกทะเบียน ตนว่าใครไปขับก็จะอันตราย ไปดูถูกกับความจงรักภักดีของคน
วันนี้ตนไม่ได้เอาเสื้อ เสื้อสมเด็จพระเทพฯ สีม่วง ปกติตนจะใส่ประจำ มีอยู่ 10 ตัว ปัจจุบันจะตนใส่ไปห้างบ้าง ไปถือศีลบ้าง เนื่องจากเคารพพระองค์ท่าน หนูกระทำการครั้งนี้ถือว่าก้าวล่วง หนูมองข้อกฎหมาย อาจจะมีฝ่ายกฎหมายของทีมงานหนูมองว่า มันแค่ความผิดจราจร มันขัดคำสั่งเจ้าพนักงานจราจร เพราะหนูยังไม่ได้แซงไปในขบวนเสด็จ ยังไม่ได้ไปขัดขวางขบวนเสด็จ ยังไม่ได้ไปชนขบวนเสด็จ ก็แค่ความผิดตำรวจมาห้าม ตำรวจสั่งให้จอดก็ไม่จอด ขัดคำสั่ง บีบแตร อันนั้นไม่เป็นไร โทษเปรียบเทียบปรับ
ซึ่ง พล.ต.ท.เรวัช ถึงกับอารมณ์ขึ้น บอกว่า “แต่โทษที่หนูทำเนี่ยคาใจกู อีเด็กเวร” พร้อมบอกว่าพรรคการเมืองไหนถือหางอย่ามาเสือก คุณกำลังจะไปได้ดี ๆ อยู่แล้ว ไปถือหางเด็กเนี่ยจะพาให้เรือล่ม เป็นรูรั่ว รูทะลุ เข้ามา”
ขณะที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าของฉายา “มือปราบหูดำ ระบุถึง กรณีดังกล่าวว่า เมื่อวานนี้มีภาพปรากฏว่ามีอีเด็กเวรคนหนึ่ง ขับรถไล่ขบวนโดยการบีบแตร เมื่อเจ้าหน้าที่พบเห็นได้เรียกให้หยุด ด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
ตนอยากจะบอกพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะอีเด็กเวร ว่า การที่ผู้นำทุกประเทศเค้ามีกฎหมาย กฎระเบียบในการดูแลบุคคลสำคัญนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะประเทศไทยประมุขและรัชทายาทนั้น ถือว่าเป็นบุคคลที่เคารพศรัทธาของพี่น้องประชาชนในชาติ เพราะฉะนั้นการถวายอารักขาและความปลอดภัยนั้น เป็นหน้าที่สำคัญของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“ตนจะบอกเลยว่าการกระทำของคนนั้น มีความผิดทางกฎหมาย และที่สำคัญที่สุดอีเด็กเวรคนนี้มึงกระทำความผิดต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชน มึงไม่มีคุณค่าอะไรเลยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มึงไม่มีคุณค่าอะไรเลย ในฐานะคนไทย กูอยากจะบอกให้มึงรู้ด้วยว่า ให้มึงจงสังวรและบอกพวกมึงไอ้คนที่สนับสนุนว่าจงสังวรเช่นเดียวกัน เลิกซะ ถ้าไม่เลิกมึงจะได้พบกับภัยพิบัติ”
กลุ่มแนวร่วมเพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร เข้ายื่นหนังสือถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ผ่านระบบเพื่อขอให้สอบจริยธรรมที่มีความร้ายแรงของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายประกัน และผู้กำกับดูแล นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน แกนนำกลุ่มทะลุวัง หลังไปแสดงพฤติกรรมมิบังควรต่อขบวนเสด็จฯ รวมไปถึงการให้สัมภาษณ์ให้ร้ายประเทศไทย และการพูดโกหก
โดยนายนายแทนคุณ จิตต์อิสระ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เนื่องจากนายพิธา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะนายประกัน และผู้กำกับดูแลนางสาวทานตะวัน ผู้ต้องหาตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมีพฤติกรรมเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง มีการส่วนสนับสนุนและสัมพันธ์กันระหว่างของนายพิธา พรรคก้าวไกล และผู้ที่เคลื่อนไหว
และนายพิธา ได้แถลงต่อศาลอาญาในการรับเป็นนายประกันให้นางสาวทานตะวัน ว่า จะทำหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแล เพื่อให้ปฏิบัติตนตามเงื่อนไขของศาล และจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ตามที่กฎหมายรับรองไว้
"นายพิธา ได้เคยอภิปรายในสภา ในลักษณะยกย่องนางสาวทานตะวัน ว่า "มองตาแล้วเห็นพิพิมลูกสาวผมอยู่ในนั้น" ย่อมเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองโดยมิชอบกับเด็ก ไม่เว้นแม้แต่บุตรสาวของนายพิธาเอง ยังทำร้ายลูกสาวได้ลงคอ เพราะรอยพิมพ์ดิจิทัลจะเป็นสิ่งที่สร้างตราบาปให้กับเด็กที่ถูกอ้างอิงตลอดไป ถือเป็นพฤติการณ์ที่เลวร้ายที่สุด"
ดังนั้น การกระทำดังกล่าวข้างต้น เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย และจริยธรรม รวมทั้งพฤติการณ์ที่ชอบพูดโกหกซ้ำซาก และการสัมภาษณ์ในลักษณะให้ร้ายประเทศของนายพิธาหลายเรื่อง ที่กระทบต่อศีลธรรม และภาพลักษณ์อันดีของสภาผู้แทนราษฎร เช่น การให้สัมภาษณ์หลังศาลรัฐธรรมบูญมีคำวินิจฉัยต่อสื่อต่างประเทศ การกลับมางานศพพ่อไม่ทัน การติดสติกเกอร์ช่องยกเลิก ม.112 การวาดภาพลอกเลียนแบบงานของโมเนต์ เป็นต้น รวมทั้งการนำเด็กเยาวชนขึ้นเวทีปราศรัย ในลักษณะมีข้อความเกลียดชังอีกด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแบบอย่างที่ไม่เหมาะสมกับเยาวชน และประชาชนทั่วไป
ขณะที่ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมายสภาผู้แทนราษฎร เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล กรณี “ตะวัน ทะลุวัง” แสดงพฤติกรรมก่อกวนขบวนเสด็จด้วยการบีบแตรรถยนต์ลากยาว เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
นายสนธิญา กล่าวว่า ตนเองมาเพื่อขอให้ผู้บัญชาการตํารวจนครบาล (ผบช.น.) แต่งตั้งคณะทํางานตรวจสอบและพิจารณาการกระทําของ “ตะวัน” ว่า เข้าข่ายคุกคามอาฆาตมาดร้ายตามมาตรา 112 และ 113 หรือไม่ รวมถึงขอให้มีการพิจารณาและวินิจฉัยให้เจ้าหน้าที่ตํารวจที่เกี่ยวข้องประสานไปยังศาลยุติธรรมว่าการกระทําดังกล่าวผิดเงื่อนไขการให้ประกันตัวด้วยหรือไม่ เพื่อนําไปสู่การเพิกถอนการประกันตัว
โดยนายสนธิญา ระบุว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “ตะวัน“ แสดงพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งส่วนตัวมองว่า ”ตะวัน“ มีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษา พรรคก้าวไกล เนื่องจากก่อนหน้านี้นายพิธา ได้ให้การช่วยเหลือทางคดีด้วยการเป็นนายประกันให้กับ “ตะวัน” รวมถึงยังเคยไปให้กําลังตอน “แบม-ตะวัน” อดข้าวอดนํ้าประท้วงอีกด้วย ดังนั้นนายพิธา ต้องตอบให้ได้ว่ารู้เห็นกับการที่ “ตะวัน” แสดงพฤติกรรมก่อกวนขบวนเสด็จหรือไม่