"กทม." ฝนตกฉ่ำ การจราจรติดขัด "กรมอุตุฯ" เตือนฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก 10-13 ก.พ.นี้
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ สถานีวิทยุข่าวจราจรและความปลอดภัย สวพ.91 รายงานสภาพการจราจรกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ว่าในบางพื้นที่ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การจราจรติดขัด และมีอุบัติเหตุ
เมื่อ 11.02 น. ถนนอินทรพิทักษ์ ช่วง แยกท่าพระ มุ่งหน้า วงเวียนใหญ่ ถนนประชาธิปก วงเวียนใหญ่ มุ่งหน้า แยกบ้านแขก ฝนตก ขับขี่เพิ่มความระมัดระวัง
เช่นเดียวกับ ถนนรัชดาภิเษก (รัชดา-ท่าพระ) ขาออก มุ่งหน้า แยกรัชดา-ราชพฤกษ์ รถมากเคลื่อนตัวได้ช้า ท้ายแถวสะสมใกล้แยกมไหสวรรย์
เวลา 10.16 น. ถนนกาญจนาภิเษก ขาออก กลางต่างระดับฉิมพลี อุบัติเหตุ รถกระบะ ชนกับรถนั่งส่วนบุคคล ในช่องทางหลัก เลนขวา ในพื้นที่ฝนยังตกต่อเนื่อง รถติดขัดมาก มีท้ายสะสมบนสะพานข้ามคลองบางระมาด
"กรมอุตุฯ" เตือนฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก 10-13 ก.พ.นี้
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ฉบับที่ 6 (28/2567) (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 10-13 กุมภาพันธ์ 2567) ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว
คาดว่าจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันนี้ (10 ก.พ. 67) ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งเกิดขึ้นได้ในวันที่ 10 ก.พ. 67 หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงในระยะนี้
สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงมีดังนี้
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567
ภาคเหนือ : จังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก : จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนบนของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 10–13 ก.พ. 67
โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง