"กิต" สารภาพแล้ว จุดทิ้งปืนสังหาร "ใหม่"
จากกรณีกระแสสังคมและข้อสงสัยของทางครอบครัวนายธนาสันต์ หรือ ใหม่ ผู้ตาย ถึงเรื่องอาวุธปืนและโทรศัพท์ที่ยังไม่พบหลักฐาน ล่าสุดเช้าวันนี้ 13 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ต. นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา จึงมีการให้ทางตำรวจ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เข้าไปเค้นสอบปากคำเพิ่มเติมกับนายกิตติโชค หรือช่างกิต และนายสุขสงกรานต์ หรือนายกานต์ ที่เรือนจำฉะเชิงเทรา
จนกระทั่งต่อมาในเวลา 12.00 น. ของวันนี้ หลังจากตำรวจไปได้ข้อมูลกับนายกิต ถึงจุดที่นำปืนไปทิ้งจึงมีการประสานนักประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 30 ชีวิต ไปร่วมค้นหาหลักฐานตามคำให้การของนายกิต ซึ่งจุดที่นายกิตให้การกับตำรวจ ก็คือถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ตำบลปางปู อำเภอเมืองสมุทรปราการ
ซึ่งลักษณะคลองส่งน้ำดังกล่าว อยู่ติดกับประตูระบายน้ำ โดยจะมีความกว้างประมาณ 70 เมตร และมีความลึกตรงกลางคลองประมาณ 9 เมตร โดยจุดดังกล่าวห่างจากจุดที่ทิ้งรถจักรยานยนต์ของนายใหม่ 750 เมตร และก่อนหน้านี้หลังตำรวจจับกุมตัวนายกิตได้ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าเคยมีการเข้ามาดำน้ำค้นหาแล้ว 1 ครั้ง แต่ค้นหาในรัศมีแค่ตรงจุดที่นายกิต ให้การกับตำรวจว่ามีการขับรถมาโยนปืนทิ้งเอาไว้ ซึ่งวันนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ยุติการค้นหาไปช่วงกลางดึก เนื่องจากไม่พบปืนในรัศมีตามคำให้การของนายกิต
ส่วนวันนี้ในการค้นหาเจ้าหน้าที่ต้องมาเตรียมความพร้อมเอาไว้ก่อน เนื่องจากจะมีตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.บางปะกง มาชี้จุดบอกรัศมีการค้นหาตามคำให้การล่าสุดที่นายกิตให้ปากคำตำรวจในช่วงเช้า โดยบรรยากาศในช่วงที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเตรียมอุปกรณ์ไปดำน้ำ อากาศร้อนถึง 33 องศา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักประดาน้ำมีการกางเต็นท์เพื่อตั้งวอร์รูมในการค้นหา
จากนั้นผ่านไปประมาณ 30 นาที ในช่วงระหว่างที่ทางนักประดาน้ำเตรียมแต่งชุดและเตรียมอุปกรณ์ลงไปดำน้ำ ก็จะมีตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.บางปะกง เข้ามาให้ข้อมูลกับนักประดาน้ำ ซึ่งเท่าที่ทีมข่าวสังเกต ทางตำรวจได้มีการชี้ไปตรงขอบปูนตรงทางเข้าประตูระบายน้ำ จากนั้นเมื่อนักประดาน้ำพร้อม ก็มีการเริ่มลงไปค้นหาในเวลา 13.16 น. ซึ่งก่อนที่นักประดาน้ำจะลงไปในคลอง ทางนักประดาน้ำได้มีการยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมีการโยนเหรียญบาทลงไปในคลองก่อนจะทิ้งตัวลงไปในน้ำเป็นการเริ่มค้นหาในวันนี้
ซึ่งหลังจากนักประดาน้ำลงไปในคลองแล้ว ทางนักประดาน้ำได้มีการเริ่มค้นหาจากจุดที่ตำรวจเข้ามาชี้บอกพิกัด ก็คือ บริเวณริมฝั่งตรงขอบปูนใกล้กับประตูระบายน้ำ และมีการลงไปดำค้นหาจากริมตลิ่งจนถึงขอบปูนทางเข้าประตูน้ำอีกฝั่ง แต่ปรากฎว่าในรัศมีที่ตำรวจมาชี้เบาะแสทางนักประดาน้ำก็ยังค้นหาไม่พบอะไร ซึ่งจุดดังกล่าวนักประดาน้ำใช้เวลาค้นหาอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง
กระทั่งเมื่อค้นหาไม่พบอะไร และทางนักประดาน้ำก็เชื่อว่าหากมีคนมายืนโยนปืนลงคลอง ปืนจะต้องอยู่ไม่ไกลจากตลิ่ง ซึ่งทำให้นักประดาน้ำต้องขึ้นมาบนฝั่งและมีการประชุมวางแผนการค้นหากันอีกครั้ง ซึ่งเท่าที่ทีมข่าวฟังข้อมูล ตำรวจให้ข้อมูลกับนักประดาน้ำว่า ตามคำให้การของนายกิต ในวันที่มาโยนปืนทิ้งคลอง คนที่มาโยนทิ้งตอนแรกตั้งใจจะเดินไปโยนใกล้กับประตูระบายน้ำ แต่เดินไปเห็นกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่หน้าประตูระบายน้ำ จึงเดินถอยหลังออกมาและโยนปืนตรงหลังกอหญ้าก่อนจะถึงขอบปูนทางเข้าประตูระบายน้ำ ซึ่งต่อมาทางนักประดาน้ำจึงเริ่มมีการค้นหารอบสอง โดยการตีกรอบค้นหาริมตลิ่งตรงจุดมี่คาดว่าผู้ต้องหานำปืนมาโยนทิ้งเอาไว้
ด้าน นายนภัทร กลมเกลี้ยง เป็นหัวหน้าชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู นามเรียกขาน (นคร68) เปิดเผยว่า จุดที่ตำรวจประสานให้มาค้นหาในวันนี้ วันที่เจอรถของผู้ตาย ตนเองเคยนำทางเจ้าหน้าที่มาค้นหาในจุดนี้แล้ว 1 ครั้ง ซึ่งก็ต้องยุติการค้นหาไปกลางดึก เนื่องจากทางตำรวจชี้เบาะแสให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่ชัดเจน
กระทั่งวันนี้ทางตำรวจชุดสืบสวนหลังได้เบาะแสใหม่ จึงมีการประสานมากับตนเองให้นำนักประดาน้ำมาค้นหาใกล้กับขอบประตูส่งน้ำ ซึ่งปฏิบัติการในการค้นหาวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักประดาน้ำจึงมีการวางแผนเพิ่มรัศมีการค้นหา โดยจากเดิมที่ค้นหาตามขอบตลิ่ง วันนี้จะขยายการค้นหาไปถึงกลางคลอง และขยับเข้าไปค้นหาให้ถึงสุดประตูระบายน้ำ
ซึ่งทางกู้ภัยมั่นใจว่า ถ้าผู้ต้องหามาโยนปืนทิ้งตรงนี้จริง ๆ ยังไงนักประดาน้ำก็ค้นหาเจอ เพราะก่อนหน้านี้แหวนวงเล็กกว่าปืน ทางนักประดาน้ำยังค้นหาจนพบ ซึ่งถ้าหากหาทั่วแล้วไม่พบ ก็เป็นไปได้ว่ามีคนหาปลาที่มาทอดแห หาปลาก่อนหน้านี้ เจอไปก่อนแล้วหรือไม่ โดยวันนี้ทางกู้ภัย ยืนยันว่าจะค้นหาทุกตารางนิ้ว ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการค้นหาประมาณ 6 ชั่วโมง และถ้าผู้ต้องหาพูดความจริง ยังไงวันนี้ก็หาเจอปืนอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันในระหว่างการค้นหา ทีมข่าวได้มีโอกาสไปพูดคุยกับนายสมบัติ อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นคนหาปลาที่เข้ามาทอดแหใกล้กับประตูระบายน้ำ บอกว่า ตนเองเคยเข้ามาหาปลาในจุดดังกล่าว วันแรกก็คือวันที่เจ้าหน้าที่มาค้นหาปืนครั้งที่แล้ว และหลังจากนั้นก็เข้ามาทอดแหหาปลาในจุดนี้เกือบทุกวัน
ที่ผ่านมา ยืนยันว่า นอกจากคนหาปลา ไม่มีคนแปลกหน้าเข้ามาเล่นน้ำหรือมาลงน้ำค้นหาสิ่งของอะไรในจุดตรงนี้ และขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาคนหาปลาไม่เคยเจอปืนในจุดนี้ เพราะถ้าเจอปืนยังไงคนหาปลาก็ต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันในช่วงไทม์ไลน์ที่ผู้ต้องหาเข้ามาทิ้งปืนทำลายหลักฐาน คนหาปลารอบ ๆ พื้นที่ไม่มีใครเห็นว่าเขาเอามาทิ้งตอนไหน
กิต แหกตา อาจโกหก ชี้เป้าจุดค้นปืนมั่ว
นายชาญชัย กล้วยเนียม หรือ ครูโก้ ครูสอนดำน้ำมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้สั่งให้ทีมงานขยายวงเพื่อค้นหาปืนเพิ่มเติมเป็น 20 ตารางเมตร พร้อมจัดนักประดาน้ำกำลังเสริมและอุปกรณ์ครบมือเดินทางมาสมทบเพิ่มเติมเพื่อเร่งหาปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ
โดยพี่ ๆ นักประดาน้ำใช้เวลางมหาตั้งแต่เวลาบ่ายโมงของวันนี้ กระทั่งถึงช่วงประมาณ 6 โมงเย็นที่ผ่านมา รวมกว่า 5 ชั่วโมง และใช้เวลาลงงมค้นหาตามจุดต่าง ๆ ของลำคลองรวม 3 จุดแต่ก็ยังไม่พบปืนที่ช่างกิตอ้างว่า เอามาทิ้งคลองส่งน้ำแต่ประการใด
นายชาญชัย บอกว่า หากช่างกิตนำปืนที่ใช้ในการก่อเหตุมาโยนลงคลองแห่งนี้จริง ก็น่าจะต้องเจอปืนแล้ว เพราะจากประสบการณ์ในการงมหาของในแม่น้ำ เช่น เคยงมหาแหวนวงเล็ก กลางแม่น้ำเจ้าพระยามาแล้ว ก็ใช้เวลางมหาเพียงแค่ 2 ชั่วโมงนิด ๆ เท่านั้น ก็เจอของแล้ว แต่นี่ใช้เวลางมหานานกว่า 5 ชั่วโมง แล้วยังขยายจุดในการค้นหาอีก 3 จุด ก็ยังไม่พบปืนที่ช่างจิตกล่าวอ้าง ซึ่งเป็นไปได้หรือไม่ว่าคำให้การของช่างกิต ไม่ตรงกับความเป็นจริง หรือช่างกิตอาจจะจำสับสนเอาไปทิ้งที่อื่นหรือเปล่า
กิต เปิดปากคาคุก ใครร่วมจับ "ใหม่" มัดมือ
พ.ต.อ.สุพล แสงทอง ผู้กำกับสอบสวนตำรวจจังหวัดภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ออกมาจากเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา หลังจากเข้าไปสอบผู้ต้องหา 2 คนเพิ่มเติม คือ นายกิต และนายกานต์ โดยใช้เวลาในการสอบปากคำทั้งหมด 5 ชั่วโมง จากนั้นมีการเปิดเผยกับทีมข่าวว่า วันนี้แบ่งการสอบปากคำเช้าสอบปากคำนายกานต์ บ่ายสอบปากคำนายกิต ทั้งสองให้การร่วมมือในการให้ปากคำเป็นอย่างดี และมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมสองข้อหาคือ เกี่ยวกับประเด็นการกักขังหน่วงเหนี่ยว และการทำลายพยานหลักฐาน
โดยเท่าที่สอบปากคำเบื้องต้น นายกิตให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี สำหรับการสอบปากคำในวันนี้เป็นการสอบทุกประเด็นที่ทางพนักงานสอบสวนยังมีข้อสงสัย ทั้งในส่วนของพฤติการณ์การก่อเหตุและการทำลายพยานหลักฐาน รวมถึงบุคคลที่ร่วมกันก่อเหตุแต่ในรายละเอียดของผลการสอบปากคำยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวนคดี
ในส่วนประเด็นใช้เชือกมัดมือมัดเท้านายใหม่ ทางตำรวจมีการสอบทั้งหมดจากหลักฐานเบื้องต้นมี 2 คน ซึ่งนายกานต์ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยอยู่ขณะที่มีคนมัดแต่นายกานต์ยังคงปฏิเสธอยู่ แต่ส่วนพฤติการณ์ในการมัด นายกิตยังไม่ได้บอกละเอียดขนาดนั้น
ขณะที่จุดทิ้งปืน ทิ้งรถ มีนายกิตและนายโอ๊ตร่วมกัน แต่นายโอ๊ตยังให้การแบ่งรับแบ่งสู้อยู่ โดยให้การเพียงว่าร่วมกันไปกับนายกิตสองคน ซึ่งในคำรับสารภาพนี้ นายโอ๊ตให้การกับตำรวจที่มาสอบเมื่อวาน และที่สอบปากคำผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมด ก็มีบางส่วนที่ให้การไม่ตรงกัน ตรงนี้ตำรวจก็ต้องมีการไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ขณะที่โทรศัพท์ของนายใหม่ ยอมรับว่า ตำรวจยังหาไม่เจอในตอนนี้ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดที่สอบปากคำมีการโยนกันไป โยนกันมา ทำให้ทางตำรวจยังไม่ได้รับข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ และประเด็นที่ว่าใครเป็นคนทักแชตหาพร ที่เป็นข้อความลักษณะนายกิตบอกว่า ทำผู้หญิงคนอื่นท้อง ข้อมูลส่วนนี้อยู่ในสำนวนคดี ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
กานต์ นอนคุกต่อ หาเงินประกันไม่ทัน
ทีมข่าวยังได้รับข้อมูลจากญาติ หลังจากที่วันนี้ยังไม่สามารถหาหลักทรัพย์เพื่อมายื่นประกันตัวนายกานต์ ทำให้นายกานต์จะต้องนอนคุกต่อในคืนนี้ โดยทางนางสาวหยง (นามสมมติ) พี่สาวกานต์ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ทางญาติมีหลักทรัพย์เพียงไม่กี่หมื่น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวน้องชายที่จะต้องใช้เงินในการเช่าหลักทรัพย์ จำนวน 170,000 บาท เพื่อเช่าหลักทรัพย์ในวงเงิน 800,000 บาท ประกันตัวน้องชาย ทำให้ตอนนี้อยู่ในระหว่างหาหลักทรัพย์และยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะไปยื่นหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวน้องชายในวันไหน