ญาติ "กิต" ผิดหวัง เรือนจำยังไม่ให้เยี่ยม


วันนี้ครอบครัวของช่างกิต เดินทางมาที่เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา โดยตั้งใจจะมาเยี่ยมช่างกิตที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลาง มีแม่และน้องชายของช่างกิต รวมถึงลูกพี่ลูกน้อง มาด้วยกันทั้งหมดสามคน โดยไปดำเนินเรื่องกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อขอเยี่ยมและพูดคุยกับนายกิต แต่ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ และให้เหตุผลว่ายังไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ในตอนนี้ หลังเยี่ยมไม่ได้ทางครอบครัวก็ขึ้นรถเก๋งกลับบ้านไป





ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายพัน ซึ่งเป็นน้องชายของช่างกิต เปิดใจว่า วันนี้ตนเองมากับแม่ และลูกพี่ลูกน้องรวมสามคน ตั้งใจจะมาเยี่ยมพี่ชายของตนที่อยู่ในเรือนจำกลาง แต่ว่าทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ให้เยี่ยมเนื่องจากยังไม่ครบวันกักตัวเลยเยี่ยมไม่ได้ จะเยี่ยมได้อีกครั้งคือวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นี้ เลยเอาของที่กิตชอบไปฝากเจ้าหน้าที่เพื่อให้ส่งต่อให้กิตแทน เป็นขวดชาเขียว กาแฟ และเสื้อผ้า


ยอมรับว่าส่วนตัวเป็นห่วงพี่กิตมาก เพราะกิตคล้ายเป็นหัวหน้าครอบครัว แล้วก็ดูแลตนเองที่เป็นน้องชายมาตั้งแต่ตนเองยังเป็นเด็กเล็ก แล้วกิตเป็นคนที่ขยันตั้งใจทำงาน เป็นคนส่งตนเรียนจนจบ ยอมรับว่าก่อนที่พี่ชายตนจะลงมือฆาตกรรมนายใหม่ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน กำลังไปได้สวย แล้วพี่ชายตนเป็นคนที่มีเงินในช่วงนั้นเรียกได้ว่าไม่ลำบาก โดยพี่ชายตนวิ่งงานส่งของให้ลูกค้า เริ่มทำงานตั้งแต่ช่วงประมาณตีสอง ตีสาม แล้วกลับบ้านมาอีกทีช่วงบ่ายหลังเสร็จงาน


"ใหม่" ไม่ยอมเลิก "พร" ทำ "กิต" ฟิวส์ขาดสังหาร


ประเด็นแรก สาเหตุที่พี่ก่อเหตุ ตนคาดว่าเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ บางครั้งพี่ชายตนเป็นคนใจร้อน แต่จุดอ่อนเป็นคนหงุดหงิด ถ้าเวลามีคนพูดแหย่ ตนก็เคยบางครั้งถ้าพูดแหย่ไม่เข้าหูพี่ชาย พี่ชายก็จะเตือนกลับว่า “เดี๋ยวกูต่อยมึงเลย” ก็เคยตีกันกับตนประสาพี่น้องเรื่องปกติ


ประเด็น 2 เรื่องพร ตนไม่ทราบว่า พรมาที่บ้านพี่ชายตนบ่อยหรือไม่ แต่ที่ตนเคยเห็นประมาณ 3-4 ครั้ง แต่ยืนยันว่าพรไม่เคยมาค้างบ้านพี่ชายตน แล้วตนก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าพี่ชายตนไปค้างบ้านพรบ่อย ๆ เพิ่งมารู้จักข่าวที่ออกและเห็นภาพวงจรปิดที่พี่ชายตนเข้า-ออกหมู่บ้าน สิ่งที่ตนอยากบอกก็คือ พี่ชายตนไม่เคยคบซ้อน เป็นคนที่ถ้าหากรักใครแล้วรักเดียวใจเดียว เชื่อว่าถ้าไปบอกเรื่องพร พี่ชายตนน่าจะช็อก


ประเด็น 3 ที่พี่ชายตอนขับรถแล้วตั้งใจไปซ้อมแผนที่หมู่บ้านของพรหรือไม่ ก่อนลงมือฆ่านายใหม่ ในส่วนนี้ตนยังไม่อยากตอบเพราะหากตอบคำถามไป เกรงว่าสังคมอาจจะมองว่าเข้าข้างพี่ชายหรือไม่




ประเด็น 4 พี่ชายตนรีบหนีหลังก่อเหตุหรือไม่ อยากจะบอกว่าในส่วนที่เห็นพี่ชายตนยกถังแกลลอนขึ้นรถ แกลลอนเหล่านั้นคือถังแกลลอนน้ำมัน ซึ่งปกติแล้วพี่ชายตนจะไม่ไปเติมน้ำมันที่ปั๊มฯ แต่จะเอาถังแกลลอนเหล่านี้ใส่น้ำมันแล้วขนขึ้นรถ หากรถน้ำมันหมดก็จะเติมน้ำมันรถทันที โดยจากภาพวงจรปิดที่เห็น ถังแกลลอนน้ำมันจำนวนเยอะ ก็น่าจะเติมน้ำมันได้ประมาณ 4-5 วัน


สาเหตุที่ทำไมพี่ชายต้องขนขึ้นรถเพราะว่าพี่ชายตนรับ-ส่งของรถกระบะตู้ทึบจึงจำเป็นต้องมีถังน้ำมันติดไว้ที่รถตลอด แล้วขอยืนยันอีกว่าถ้าพี่ชายตนเองตั้งใจจะหนีจริง คงไม่ไปจอดรถแล้วนอนที่ปั๊มฯ คงจะขับรถแล้วหนีไปเรื่อย ๆ แต่นี่พี่ชายยังไม่ได้ออกไปนอกพื้นที่เลย ตนเชื่อว่าเขาคงอยู่ที่ปั๊มฯ แล้วคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ก่อนที่จะมามอบตัวมากกว่า


ประเด็นที่ 5 เชือกแดงที่ใช้ผูกมัดช่างกิต ยืนยันว่าเชือกแดงที่ใช้ก่อเหตุตนไม่เคยเห็นอยู่ในบ้านพักตน แต่ตนไม่มั่นใจว่าพี่ชายตนเอามาจากไหน ประเด็น 6 โทรศัพท์ของนายใหม่ตนไม่ทราบข้อมูลเรื่องนี้ หลังเกิดเรื่อง แม่ตนนอนไม่ได้และทานข้าวไม่ได้ก็อยากมาเยี่ยมพี่ชาย ก็เลยพาแม่มาวันนี้ ถึงแม้เยี่ยมไม่ได้คงต้องพาแม่มาเยี่ยมพี่อีก ถ้าถึงเวลาเยี่ยมได้แล้ว


ครั้งแรก! เปิดรถ "กิต" พิสูจน์ตู้ขนน้ำมัน สงสัยใช้ทำลายหลักฐาน


ทีมข่าวตรวจสอบวงจรปิดที่หน้าอู่ของช่างกิต ซึ่งเป็นเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) ที่นายพัน ไปนำรถออกจากปั๊มน้ำมันกลับมาจอดที่หน้าอู่ ซึ่งเมื่อวานนี้ทีมข่าวพยายามขอให้นายพัน เปิดให้ดูแล้ว แต่นายพันไม่ยอมเปิดโดยบอกว่าข้างในโล่ง ๆ ไม่มีอะไรอยู่ในตู้ทึบ ทำให้ทีมข่าวไปย้อนดูภาพวงจรปิดว่าหลังจากนายพันขับรถกลับมา จะมีการเปิดประตูตู้ทึบออกมาหรือไม่





โดยจากภาพวงจรปิด จะเห็นว่า หลังจากนายพันขับรถออกมาจากปั๊มน้ำมัน รถกระบะของช่างกิตที่นายพันขับกลับมา จะมาโผล่ที่หน้ากล้องมุมที่เห็นสะพานในเวลา 19.35 น. จากนั้นพอถึงหน้าอู่ก็มีการขับรถเข้าไปจอดข้าง ๆ รถของเพื่อนนายพันที่ไปเอารถและขับรถยนต์สีดำของนายพัน ตามกลับมา


จากนั้นเมื่อรถมาจอดแล้ว ก็จะเห็นเพื่อนของนายพัน ถอยรถและขับรถออกไป กระทั่งนายพัน ได้ขับรถยนต์สีดำของตัวเองเข้าไปจอดข้าง ๆ รถกระบะ ซึ่งก็จะมีการเดินวนไปวนมาที่หน้าอู่ แต่ไม่ได้มีการเปิดตู้ทึบออกมาดูแต่อย่างใด กระทั่งเวลา 20.15 น. ทีมข่าวช่อง 8 ก็ตามมาถ่ายภาพที่หน้าอู่เพื่อนำเสนอไปเมื่อวานนี้ ว่ารถกลับมาจอดไว้ที่หน้าอู่ โดยหลังจากนั้นทีมข่าวก็เพลย์กล้องดูไปจนถึงเวลานี้ ก็ไม่เห็นนายพันออกมาเปิดประตูตู้ทึบแต่อย่างใด


ครั้งแรก! เปิดรถ "กิต" แกลลอนหาย


ล่าสุดเมื่อเวลา 20.10 น. วันนี้ (13 ก.พ.) หลังจากนายพัน น้องชายของช่างกิต เสร็จจากการไปซ่อมรถที่หลังอู่ จึงได้มีการเดินออกมาเปิดประตูตู้ทึบให้ทีมข่าวช่อง 8 เห็นว่า ในตู้ทึบไม่มีอะไรอยู่ด้านใน ซึ่งพอเปิดออกมาจะเห็นว่ามีเพียงแบตเตอรี่ก้อนเดียววางอยู่ภายในรถ ส่วนไม้ที่ปะเอาไว้รอบ ๆ ตู้ทึบด้านใน จะมีร่องรอยเป็นรูอยู่ทั้งสองฝั่ง ซึ่งนายพันให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เมื่อช่วงบ่ายตำรวจได้ขอเข้ามาขอตรวจค้นภายในรถ แต่ก็ได้เพียงเอกสารในรถกลับไปเท่านั้น





ซึ่งหลังจากพิสูจน์ในตู้ทึบเสร็จ นายพันก็บอกกับทีมข่าวว่า จริง ๆ แล้ววันนี้ช่วงบ่ายตำรวจโทรศัพท์มาขอให้ขับรถกระบะของพี่ชาย ออกไปเจอที่หน้าปากซอย ซึ่งพอไปถึงตำรวจมีการตรวจค้นรถ แต่ไม่เจออะไรจึงได้แต่นำเอกสารกลับไปตรวจสอบ ส่วนประเด็นที่ทำไมตำรวจถึงต้องให้ตนเองขับรถไปเจอที่หน้าปากซอย ก็เป็นเพราะว่าตำรวจคงกลัวกล้องวงจรปิดกับกลัวนักข่าวจะจับผิด ส่วนการเยี่ยมพี่ชาย หากไม่ติดธุระจะเข้าไปเยี่ยมพี่ชายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ และวันนั้นหลังจากเยี่ยมเสร็จ จะออกมาเปิดเผยกับช่อง 8 ว่าพี่ชายพูดอะไรกับตนเองบ้าง


ที่แท้จับ "ใหม่" มัด 2 รอบ ทั้งในรถและบ้าน "กิต"


จากเหตุการณ์ฆาตกรรมนายใหม่ หนุ่มโรงงาน มัดมือมัดเท้าแล้วถูกยิง นำมาทิ้งบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ จนนำไปสู่การจับกุมช่างกิต พร้อมพวกรวม 5 คน ก่อนจะถูกคุมตัวนำมาฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งญาติ ๆ ของผู้ร่วมก่อเหตุได้พยายามร้องขอประกันตัว ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 4 ออกมาสู้คดี จนมีการยื่นขอประกันมาแล้วถึง 2 คน จนศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ให้ประกันตัว นายแท็ป น.ส.นิว และนายโอ๊ต โดยศาลตีวงเงินประกันคนละ 800,000 บาท โดยทั้งสองคนต้องติดกำไล EM ที่ข้อเท้าทั้งคู่ ซึ่งวันนี้ทางญาติของนายกานต์ ก็อยู่ระหว่างยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อสอบถามความคืบหน้าหลังจากมีการเข้าไปสอบปากคำช่างกิตเมื่อวานนี้ โดยเผยเหตุการณ์ว่า ที่ช่างกิตลงมือฆ่านายใหม่ ที่ให้การรับสารภาพกับพนักงานสอบสวน ว่าระหว่างที่ควบคุมตัวนายใหม่ออกมาด้วยกันโดยลำพัง ทั้งคู่ก็มีบทสนทนามันมีข้อความที่ท้าทาย ทำให้ช่างกิตบันดาลโทสะ ก่อนจะใช้ปืนที่เตรียมไว้ลงมือสังหาร ด้วยการหยุดรถแล้วยิงนายใหม่ทันที ก่อนจะขับรถชิดซ้าย แล้วก็นำศพนายใหม่ทิ้งบริเวณที่มีพบศพ


สำหรับความคืบหน้าในการสืบสวนคดีนี้ จากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งกล้องวงจรปิด ข้อมูลโทรศัพท์ การสอบสวนปากคำพยาน ทำให้ตำรวจเห็นพฤติการณ์ในการก่อเหตุคดีนี้ มีผู้ก่อเหตุทั้งหมดรวม 5 คน ทางตำรวจทราบตั้งแต่วันที่เข้าไปดูลาดเลาทำให้ทราบพฤติการณ์ของผู้ตาย หลังจากนั้นก็มีการเชิญชวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมาร่วมงาน หลังจากนั้นเมื่อนายใหม่ออกจากบ้านมา รถเก๋งสีแดงที่ทางตำรวจยึดเอาไว้ก็ขับติดตามมาแล้วก็ปาดหน้ารถจักรยานยนต์นายใหม่แล้วก็นำตัวนายใหม่ขึ้นมาบนรถ





หลังจากนั้นระหว่างที่อยู่บนรถ ก็มีความพยายามที่จะพันธนาการนายใหม่ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ก่อนจะนำตัวไปที่บ้านช่างกิต แล้วทำการมัดมือมัดเท้านายใหม่จนสำเร็จ หลังจากนั้นช่างกิตก็นำตัวนายใหม่ออกจากบ้านไปก่อเหตุฆาตกรรมตามที่ปรากฏเป็นข่าว สำหรับน้องพรนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าประวัติความสัมพันธ์น้องพรกับผู้ต้องหา การปกปิดการคบหาเป็นสาเหตุสำคัญของเรื่องนี้ แต่ในทางการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทางตำรวจยังไม่ปรากฏว่าน้องพรได้ร่วมในการวางแผนในการช่วยเหลือแล้วก็ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้


แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังรอผลการตรวจพิสูจน์โทรศัพท์ของน้องพร ซึ่งได้แสดงความบริสุทธิ์ใจไว้แล้ว ซึ่งผลตรวจออกมา อาจมีข้อมูลที่เชื่อมโยงน้องพรก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ต่อไปทางตำรวตจะดำเนินการสืบสวนคดีนี้ในภาพรวมคดีของทั้งหมด ทางตำรวจก็รอพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อให้คดีไม่ว่าจะเป็นการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในส่วนของคดี แล้วก็พยานแวดล้อม ก็ต้องรอผลการตรวจทางเทคนิค แล้วก็ทางเทคโนโลยีผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงผลการตรวจพิสูจน์อื่น ๆ เพิ่มเติม จึงจะทำให้คดีนี้จะสามารถที่จะนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้สมบูรณ์


อีกส่วนหนึ่งที่ทางตำรวจพยายามที่จะตามหา ก็คือ เรื่องของโทรศัพท์ของผู้ตาย ทางตำรวจยังพยายามค้นหาอยู่ แล้วก็รอผลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมาพิสูจน์ความจริงในส่วนนี้ อีกส่วนหนึ่งที่ตำรวจอยู่ระหว่างพิสูจน์ก็คือ เรื่องของปืน ก็มีการประสานชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมเครื่องมือที่จะสแกนหาวัตถุ ไปตรวจจะทำให้คดีนี้สมบูรณ์เห็นภาพรวมทั้งหมดชัดเจนขึ้น


ในเรื่องของคนที่ร่วมกันมัดมือมัดเท้า จากการสอบสวนก็ทราบชัดเจนแล้ว ว่า 2 ใน 4 ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว เป็นผู้ลงมือผูกมือและเท้านายใหม่ ก่อนที่ช่างกิตจะนำตัวไปและเกิดเหตุฆาตกรรม ยอมรับในเบื้องต้นทั้ง 2 คนรับสารภาพ ส่วนการประกันตัวของช่างกิตก็ขึ้นอยู่กับทางดุลพินิจของศาล ซึ่งคัดค้านขัดกันจะเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ แล้วก็มีความโหดร้าย

ที่แรก! เปิดหลังรถกิตตะลึงหลักฐานหาย น้องเผยคำมรณะ "เมียกู" ทำฟิวส์ขาด