จากกรณีที่ 3 ทายาทหมื่นล้าน มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง มาขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนให้ช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรมอันไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำพินัยกรรมที่ไม่ชอบมาพากล และการถ่ายโอนเปลี่ยนแปลงชื่อในโฉนดที่ดินหลายแปลง ก่อนที่เป็นพ่อจะเสียชีวิต และทรัพย์สมบัติอีกหลายออย่าง รวมไปถึงการตัดทายาททั้ง 3 คน ซึ่งเป็นลูกที่ชอบด้วยกฎหมายออกจากกองมรดก

ต่อมา นางปราณี พร้อมด้วยทีมทนายความ ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นต่างๆที่ทายาทคนรองทั้ง 3 คนอย่าง “นายสมรัฐ” ลูกชายคนที่ 2 “นายกิตติ” ลูกชายคนที่ 3 และ “นายจักริน” ลูกชายคนที่ 4 ออกมาร้องเรียนต่อสื่อถึงข้อพิรุธในพินัยกรรมของพ่อหรือ “เจ้าสัวมุข” เจ้าของสถาบันชื่อดัง 3 แห่งใน จ.นครราชสีมา

ทางด้านนายกัมพล ทนายความของนายสมรัฐ ลูกชายคนที่ 2 ของนางปราณี ได้ออกมาโต้กรณีที่อาจารย์ปราณีแถลงข่าวว่ามีปลวกมากัดกิน เสาสามต้นจนทำให้ผุพัง โดยปลวกที่อาจารย์ปราณีพูดถึงก็คือสะใภ้ ตนเองในฐานะทนายความของนายสมรัฐ ลูกชายคนที่ 2 ยืนยันว่าสะใภ้ของนายสมรักษ์ไม่ใช่ปลวกตามที่อาจารย์ปราณีกล่าวอ้าง เนื่องจากสะใภ้คนที่ 2 ยังคงทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง

โดยตนเองอยากจะบอกว่าสะใภ้คนที่ 2 หรือภรรยาของนายสมรัฐ เรียนจบการศึกษาในระดับ ปริญญาโท 3 ใบจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเข้ามาทำงานที่มหาวิทยาลัย ฝ่ายบัญชี หลังจากนั้นลาออกไปคลอดบุตรคนที่ 2 แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไม่สามารถกลับเข้ามาทำงานได้ เพราะต้องอยู่เลี้ยงดูบุตรทั้ง 2 คน จึงทำให้อาจารย์ปราณีมองว่าลูกสะใภ้ไม่ทำงาน

นอกจากนี้ทางทนายความยังได้กล่าวเน้นย้ำในเรื่องของการออกมาเรียกร้องตามสิทธิ์ในมรดกที่ควรจะได้รับจาก 100% ตามหลักกฎหมาย ทรัพย์สิน 50% ที่เป็นสินสมรสระหว่างอาจารย์ปราณีกับอาจารย์มุข ต้องตกเป็นของครูปราณี ส่วนอีก 50% ที่เหลือ ต้องแบ่งให้กับทายาททั้งหมด รวมทั้งครูปราณีที่มาใช้สิทธิ์ชั้นบุตรในการแบ่งมรดกให้เท่าเทียมกัน ฉะนั้นแล้ว 50% ที่เหลือที่นำมาจัดแบ่งกัน ลูกทั้งหมดจะได้รับส่วนแบ่งเพียงแค่ 8% เท่านั้น ดังนั้นวัตถุประสงค์ที่ทายาทคนรองทั้ง 3 คนออกมาเรียกร้องในครั้งนี้ไม่ใช่ต้องการที่จะ มาแย่งมรดกทั้งหมด แต่เพียงต้องการมาเรียกร้องตามสิทธิ์ที่ควรจะได้รับเท่านั้น

ขณะเดียวกันนายสนธยา ยังได้พูดถึงอาจารย์ปราณี หลังได้มีการแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับประเด็นเสา 4 ต้น ที่เสา 3 ต้น ถูกปลวกก็คือลูกสะใภ้กัดกินจนผุพัง และประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าการแถลงข่าวของอาจารย์ปราณี มีคนชี้นำ หรือมีคนเขียนสคริปต์ให้อาจารย์อ่าน

โดยตนเองขอยอมรับว่าตนเองเป็นคนเขียนสคริปต์ให้อาจารย์ปราณีกับมือเอง แต่ทุกข้อความที่เขียนลงไปล้วนมาจากคำพูดของอาจารย์ปราณีเองทั้งนั้น ตนเองเพียงแค่เขียนตาม โดยบางคำตนเองยอมรับว่าเป็นคำที่ค่อนข้างรุนแรง จนต้องมีการโต้แย้งอาจารย์ปราณีไป แต่อาจารย์ก็ยังคงยืนยันที่จะใช้คำพูดที่รุนแรง

หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าวตนเองยอมรับว่าสภาพจิตใจของอาจารย์ปราณีค่อนข้างบอบช้ำมาก ที่ต้องมาสาวไส้ให้กากิน แต่ก็เพราะเพื่อให้เรื่องทุกอย่างยุติลง จึงต้องออกมาแถลงเพื่อให้สังคมรับทราบ ถึงเหตุผลที่ต้องตัดทั้ง 3 คนออกจากกองมรดก