จากกรณีเมื่อเวลา 22:00 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรีได้รับแจ้งมีลูกเมายาอาละวาด ตีพ่อและแม่และไล่ตีชาวบ้าน ภายในตำบลหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยไตรคุณธรรม ในที่เกิดเหตุพบนายอภิชาติ อายุ 58 ปีนั่งจมกองเลือดอยู่สภาพใบหน้าปูดบวม ตาซ้ายปิดเกือบบอดเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นและได้สอบถามนายอภิชาติได้เล่าว่าตนถูกลูกชายแท้ๆ ใช้หมัดชกเข้าที่ใบหน้าหลายครั้งจนหน้าแหกอย่างที่เห็นพร้อมกับพูดไปร้องไห้ไปด้วยความเจ็บช้ำใจ ก่อนกู้ภัยรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรีและในที่เกิดเหตุยังพบนางสาวอุทัย อายุ 56 ปี ภรรยาของนายสุชาติและเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุได้ไปชี้ยังจุดที่นายสุชาตินอนจมกองเลือดอยู่ในป่าให้ผู้สื่อข่าวดูและร่องรอยความเสียหายของประตูบ้านที่ลูกชายได้พังจนเสียหาย
ล่าสุดวันนี้ (16 ก.พ.67) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าทางคดี ที่ สภ.เมืองชลบุรี แต่ปรากฏว่า นายอภิชาติ และ นางสาวอุทัย พ่อและแม่ของผู้ก่อเหตุ ยังไม่ได้ไปแจ้งความกับตำรวจ
จากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ภายใน ตำบลหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดยเมื่อไปถึง ก็พบกับนางสาวอุทัย ซึ่งเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุได้มีการพาทีมข่าวไปดูบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งลักษณะบ้าน เป็นบ้านปูนชั้นเดียว โดยตรงจุดเกิดเหตุที่นายอภิชาติ ผู้บาดเจ็บยังมีคราบเลือดติดอยู่อยู่ที่พื้นใกล้กับเปล ส่วนบริเวณรอบๆบ้านยังพบความเสียหานที่นายทรงกลด ผู้ก่อเหตุ โยนก้อนหินใส่หลังคาและร่องรอยที่นายทรงกลด ผู้ก่อเหตุเคยพังประตูและหน้าต่างของบ้านได้รับความเสียหาย
ส่วนบริเวณภายในห้องนอนของนายทรงกลด ผู้ก่อเหตุ พบว่ามีข้าวของกระจายอยู่รอบๆห้อง ซึ่งตรงหน้าชั้นวางของยังพบอุปกรณ์เสพยาเสพติดวางอยู่ที่พื้น
นางสาวอุทัย อายุ 56 ปี เป็นภรรยาของผู้บาดเจ็บและเป็นแม่ของนายทรงกลด ผู้ก่อเหตุ บอกว่า บ้านซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ อยู่กันทั้งหมด 4 คน มีพ่อ,แม่ หลานและลูกชายซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ โดยนายทรงกลด ผู้ก่อเหตุ ไม่มีอาชีพ วันๆขอแต่เงินพ่อแม่ไปซื้อยาบ้ามาเสพ
ส่วนเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ ก่อนที่ลูกชายจะไปทำร้ายพ่อ จริงๆแล้วลูกชายยืนทะเลาะกับแม่อยู่ ที่หน้าบ้าน แต่พอแม่เดินหันหลังเข้าไปในบ้าน จู่ๆลูกชายก็เดินไปทำร้ายพ่อตรงเปลที่พ่อนอนอยู่ ซึ่งพอเสียงเงียบลง แม่ก็รีบเดินไปดูพ่อ ปรากฏว่าเมื่อเดินไปถึง ก็พบว่าพ่อถูกลูกทำร้ายนอนเลือดออกปากออกจมูกอยู่ที่พื้น ส่วนลูกหลังก่อเหตุวิ่งหนีเข้าไปในป่าและวิ่งวนกลับมาที่บ้าน ซึ่งระหว่างที่แม่เข้าไปดูพ่อ ลูกพยายามเข้ามากระทืบพ่อซ้ำ แม่ก็เลยเอาตัวเองเข้าไปขวางเอาไว้ จนโดนเตะแม่เข้าที่ชายโครงด้านซ้าย 2 ครั้งและเตะที่หลัง 2 - 3 ครั้ง ซึ่งถามว่าทำไมถึงหยุดทำร้ายแม่ และวิ่งหนีออกไปจากบ้านก่อนตำรวจมาถึง ก็เป็นเพราะว่าตอนที่ลูกมันเตะแม่ครั้งที่ 5 แม่ยกมือไหว้ขอร้องมันบอกว่า"อย่าทำแม่เลย" แต่ลูกมันก็ตะคอกใส่แม่อีกว่า "เดี๋ยวกูจะฆ่าให้ตายทั้งคู่" แม่ก็บอกมันไปว่าอย่าทำร้ายพ่อแม่เลยมันบาปนะลูก แต่ลูกมันตอบว่า "บาปเป็นตัวอะไรไม่รู้จัก กูไม่กลัวหรอก คุกเคยก็ติดมาแล้ว"
ซึ่งที่ผ่านมา ยอมรับว่าพฤติกรรมของลูกคนนี้ทำร้ายพ่อแม่มาตลอด โดยเมื่อปี 61 แม่โดนหนักสุดก็คือถูกลูกเอาขวานฟันที่มือ ส่วนพ่อก็โดนลูก ตีหน้าตาแตกเย็บมาแล้วนับไม่ถ้วน ส่วนเรื่องการเสพยา ยอมรับว่าลูกชาย ติดยามา 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ แม่จะให้เงินไว้ใช้วันละ 40 - 50 บาท แต่เงินที่ให้ไปไม่พอซื้อยา มันก็เที่ยวเดินไปขอเงินชาวบ้าน ซึ่งเท่าที่รู้ ยาบ้าที่นี่ขายอยู่ 3 หรือ 4 เม็ดร้อย
ส่วนเรื่องแจ้งความ แม่ตั้งใจไว้ว่าจะไปเยี่ยมพ่อก่อน และจะขอใบรับรองแพทย์กับทางโรงพยาบาล ไปแจ้งความกับตำรวจ แต่ถ้านักข่าวหรือตำรวจไปเจอมันตามข้างทางก่อน แม่อนุญาตให้จับตัวมันส่งตำรวจได้เลย ซึ่งถ้ามันถูกจับตำรวจจะได้พามันไปบำบัด และขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับลูกชายคนนี้ข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งถ้าจับลูกคนนี้ไม่ได้ แม่ก็ต้องนอนอย่างหวาดระแวง เพราะประตูบ้านก็ไม่มี ที่สำคัญเมื่อคืนนี้ต้องหนีไปนอนบ้านญาติเพราะกลัวลูกมันย้อนกลับมาทำร้ายร่างกายแม่
อย่างไรก็ตาม ก็อยากจะฝากไปถึงคนที่แก้กฎหมาย ยา 5 เม็ดด้วยว่า ตั้งแต่มีกฎหมายคุมของพวกมัน ยาเกลื่อนไปหมด ตำรวจจับไปก็ปล่อย ถ้าไม่เป็นลูกหลานคุณ คุณไม่รู้หรอกว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ที่สำคัญฝากบอกตำรวจด้วย ถ้าจับได้ ไม่ต้องพามันมาขอโทษพ่อแม่นะ เพราะหลังจากนี้พ่อกับแม่ไม่เอาอีกแล้วสำหรับลูกคนนี้
ขณะเดียวกันในช่วงประมาณ 17.30 น. ตอนที่ทีมข่าวกับตำรวจทั้งในเครื่องแบบและชุดสืบสวน แยกกันขับรถวนตามหาในเส้นทางอื่น ปรากฏว่าไม่นานก็มีสายโทรศัพท์ของพลเมืองดี โทรศัพท์เข้าไปแจ้ง 191 โดยบอกเบาะแสกับตำรวจว่า พบเห็นนายทรงกลด ผู้ก่อเหตุเดินอยู่ในป่าหลังสุสานสมาคมโง้วเจริญ ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุไปประมาณ 2 กิโลเมตร ตำรวจจึงนำกำลังไปที่สุสาน กระทั่งไปพบนายทรงกลด ผู้ก่อเหตุนอนอยู่ภายในสุสาน ซึ่งจากการตรวจสอบ นายทรงกลด มีการนำเสื้อผ้าใส่มาในกระเป๋าผ้า และมีผ้าห่มจำนวน 3 ผืนออกมาจากบ้านเพื่อนำมาปูกับพื้นเป็นที่หลับนอนในสุสาน
โดยเมื่อทางตำรวจรวบตัวนายทรงกลด เป็นที่เรียบร้อย ทาง พ.ต.ท.สราวุธ ลิ้มเจริญ สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองชลบุรี จึงเดินเข้าไปคุยกับนายทรงกลด ว่า มาอยู่ตรงนี้นานหรือยัง โดยนายทรงกลด ก็ตอบว่าผมกะว่าจะมานอนพักผ่อนตรงนี้สองสามวัน ทางสารวัตรก็บอกว่า งั้นพี่ขอเชิญตัวไปโรงพักนะ เมื่อวานแมนไปทำอะไรมา แมนเสพใช่ไหม แต่นายทรงกลด อ้างว่าไม่ได้เสพอะไรเลยผมกินแต่ข้าว และไม่ได้ทะเลาะอะไรกับพ่อ
จากนั้นพอสารวัตร เห็นท่าว่านายทรงกลด พูดจาไม่รู้เรื่อง จึงเชิญตัวนายทรงกลด ไปขึ้นรถเพื่อไปคุยกันต่อที่โรงพัก ซึ่งขณะที่สารวัตรคุมตัวขึ้นรถนายทรงกลด มีท่าทางนิ่งๆเดินขึ้นรถและ เมื่อถึงโรงพักก็เดินลงไปเข้าห้องสืบสวนโดยไม่ได้ขัดขืนอะไร ซึ่งหลังจากนี้ ทางตำรวจต้องมีการสอบปากคำในเบื้องต้นและจะส่งตัวนายทรงกลด ไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลก่อนจากนั้นก็จะส่งตัวต่อให้พนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหา
ทีมข่าวได้สอบถามกับนายทรงกลด ผู้ก่อเหตุว่าจำได้ไหมเมื่อคืนไปทำอะไรมาบ้าง แต่ปรากฏว่า นายทรงกลด เปิดใจกับทีมข่าวว่า ผมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยาก็ไม่ได้เสพมาหลายวันแล้ว ยืนยันก่อนหน้านี้ไม่เคยทำร้ายพ่อแม่ ซึ่งส่วนมากจะเดินหนีอย่างเดียว ส่วนเหตุการณ์เมื่อวานนี้ จำไม่ได้จริงๆว่าทำอะไรกับพ่อแม่บ้าง ซึ่งเท่าที่จำได้ ตอนเกิดเหตุผมยืนอยู่เฉยๆ ส่วนที่ผมเอาผ้ามาปูนอนที่สุสาน เป็นเพราะว่าผมเซ็งผมเบื่อที่ผมคุยกับพ่อแม่ไม่รู้เรื่อง ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ยินเสียงพ่อพูดว่า"ไปไป"ผมก็เลยเดินออกมาจากบ้าน พอผมเดินออกมา เท่าที่ผมจำได้ ผมเดินออกมาเตะฟุตบอล พอเตะเสร็จก็ต่อยกำแพงบ้านแล้วก็ต่อยต้นไม้
ส่วนเรื่องตู้เย็นที่พ่อบอกมากับนักข่าว เมื่อวานนี้ก่อนเกิดผมออกจากบ้าน ผมจำได้ว่าผมเอาน้ำหวานไปแช่ในตู้เย็น จากนั้นก็ได้ยินเสียงพ่อบ่นอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งทีมข่าวก็ถามตรงๆว่า เมื่อวานนี้ต่อยพ่อไปกี่ครั้ง ถ้าเป็นลูกผู้ชายต้องกล้ารับ แต่นายทรงกลด ยืนยันว่าไม่รู้ต่อยพ่อกี่ครั้ง และก็ไม่รู้ว่าพ่อบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่ที่โรงพยาบาล จากนั้นทีมข่าวก็ถามต่อว่า ที่ติดยาบ้า เป็นเพราะว่าเมียที่ชื่อหนูนก ทิ้งไปหรือไม่ แต่นายทรงกลด ก็ตอบว่าไม่ใช่ ผมเดินหนีอย่างเดียว ยืนยันผมไม่ได้ติดยาบ้าเพราะภรรยาเก่าทิ้ง ส่วนที่พ่อกับแม่บาดเจ็บ ผมทำอะไรผิดไป ผมก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ ขออภัยทุกๆคนถ้าผมทำอะไรไม่ดีลงไป ยอมรับว่าทำพ่อ แต่ไม่ได้ทำรุนแรง