เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 พ.ต.ท.พีรกุล แฝงฤทธิ์หลง สว. (สอบสวน) สภ.บางปะอิน รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณบ้านเอื้ออาทร ในซอย 32 หมู่ที่ 7 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรายงานให้ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อม ผกก.สภ.บางปะอิน และชุดสืบสวน ลงตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธศวรรย์ และเจ้าหน้าที่แพทย์เวร
ในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ เป็นชาย 1 ราย ชื่อ นายสกล อายุ 32 ปี ถูก อาวุธปืนยิงเข้าบริเวณกกหูด้านขวา บาดเจ็บอาการสาหัส โดยขณะนี้ถูกรักษาตัวที่โรงพยาบาลอาการเป็นและตายเท่ากันแต่ยังไม่เสียชีวิต
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายชัยยศ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในพัก ต่อมาตำรวจปิดล้อมหน้าบ้านพักและเกลี้ยกล่อมให้นายชัยยศมอบตัว เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังคงมีอาวุธปืนติดตัวอยู่เกรงว่าจะทำร้ายตัวเองหรือ ใช้อาวุธปืนยิงออกมาด้านนอก
โดยเจ้าหน้าที่กันไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาด้านในเด็ดขาด ซึ่งใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่ประมาณ 20 นาที จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 ครั้ง ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าชาร์จแต่พบว่านายสมยศ พ่อเลี้ยงใช้อาวุธปืนขนาด 32 ยิงเข้าขมับด้านขวาเสียชีวิต อยู่บนโต๊ะไม้สัก ภายในบ้านโดยอาวุธปืนตกอยู่ที่พื้น
ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพหลักฐานวงจรปิดเพิ่มเติม โดยช่วงเวลา 20.15 น. ของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ จะได้ยินเสียงพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยงมีปากเสียงกันภายในบ้านพัก ซึ่งนาทีต่อมาลูกเลี้ยงก็ยังทำลายข้าวของในบ้านพักเรื่อย ๆ เพื่อขู่พ่อเลี้ยง และมีการตะโกนโหวกเหวกด่าทอ
ช่วง 20.18 น. จะได้ยินเสียงลูกเลี้ยงตะโกนหกเวกเสียงดังลั่นบ้าน และมีเสียงคล้ายปืนดังขึ้นมาจากบ้านพัก 5 นัด และช่วง 20.19 น. จะเสี่ยงปืนดังขึ้นอีกหนึ่งนัด คาดว่าช่วงนี้พ่อเลี้ยงยิงลูกเลี้ยงจนบาดเจ็บสาหัส
ต่อมาเวลา 20.27 น. จะได้ยินเสียงภรรยาของคนก่อเหตุกลับมาที่บ้านพัก และต้องตกใจเมื่อเห็นลูกชายถูกยิงบาดเจ็บสาหัสจึงตะโกนกรี๊ดลั่นบ้าน และต่อว่าพ่อเลี้ยงทำให้เพื่อนบ้านตกใจก็รีบออกมาดูทันที โดยภรรยาคนก่อเหตุทั้งร้องไห้และกรี๊ด คล้ายสติเตลิดในตอนนั้น ต่อมาเพื่อนบ้านพยายามเข้าไปห้ามภรรยาของคนก่อเหตุ ไม่ให้เข้าไปในบ้านพัก เนื่องจากกลัวถูกลูกหลงและกลัวถูกยิง ซึ่งทางภรรยาคนก่อเหตุก็พยายามขัดขืน และตะโกนร้องลั่น
เวลา 20.31 น. เพื่อนบ้านโทร. แจ้งเหตุตำรวจ ให้รีบมาที่จุดเกิดเหตุเนื่องจากมีความทุกข์ยิงได้รับบาดเจ็บและคนที่ก่อเหตุยังอยู่ในบ้านพัก จากนั้นเวลา 20.33 น. รถกู้ภัยเข้ามาที่เกิดเหตุ ก่อนที่ทางตำรวจจะตามมาแล้ว ก็มีการเกลี้ยกล่อมทางคนก่อเหตุให้ออกมามอบตัว ต่อมาเวลา 21.03 น. ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และมีผู้คนตกใจและเสียงเด็กพูดว่าเขายิงตัวเอง ต่อมาทางตำรวจ ขอความร่วมมือกับชาวบ้านในพื้นที่ ให้ออกจากพื้นที่เกิดเหตุ เนื่องจากกำลังเคลียร์ที่เกิดเหตุและรีบนำตัวคนบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายบูม (นามสมมติ) อายุ 35 ปี เป็นพี่ชายของคนบาดเจ็บ และเป็นลูกเลี้ยงอีกคนของคนก่อเหตุ บอกว่า แม่ของตนมีลูกสองคน คือ ตนเป็นลูกชายคนโต และน้องบอมเป็นน้องชายคนเล็ก ปกติบ้านพักหลังเกิดเหตุจะอยู่ด้วยกันสามคนคือ มีพ่อเลี้ยง แม่ และบอมน้องชายตน
อาการของน้องชายตอนนี้ ยังไม่ได้เสียชีวิตแต่ยังอยู่ในภาวะครึ่งเป็นครึ่งตาย เนื่องจากแกนสมองตายแล้วแต่ตอนนี้ที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ เพราะหมอยังใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าแม่สภาพจิตใจย่ำแย่มากและยังไม่ได้อนุญาตให้หมอถอดเครื่องช่วยหายใจ แม่เฝ้าน้องตลอดที่โรงพยาบาล ส่วนศพของพ่อเลี้ยงจะเอาอยู่ที่วัดกะสังข์ ในตัวอำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา จะเริ่มรดน้ำศพและจัดงานศพในวันพรุ่งนี้
ตนทราบเรื่องประมาณ 20.00 น. แม่โทร. บอกว่าน้องถูกยิง เมื่อมาถึงก็พบแม่อยู่บริเวณนอกม่านและพ่อเลี้ยงขังตัวเองไว้ในบ้านพัก และทราบต่อมาว่าพ่อเลี้ยงเป็นคนยิงน้องจนบาดเจ็บสาหัส ตอนนั้นทั้งตนและแม่ไม่กล้าเข้าไปเพราะพ่อเลี้ยงมีปืน แล้วไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ซึ่งเป็นนัดที่พ่อเลี้ยงใช้ปลิดชีวิตตัวเองในบ้านพัก
ยืนยันว่าพฤติกรรมที่ผ่านมา พ่อเลี้ยงเป็นคนดีมาก รักน้องตน รักแม่ ไม่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าว ส่วนน้องชายยอมรับมีพฤติกรรมเมา แต่ส่วนยาเสพติดไม่ทราบว่าเสพหรือไม่ แล้วเวลาเมาชอบอาละวาดทำลายข้าวของ ตนก็คิดว่าพ่อเลี้ยงคงทนไม่ไหวก็เลยก่อเหตุดังกล่าว ประกอบกับพ่อเลี้ยงมีโรคประจำตัวหลายอย่างก็คงจะเครียดด้วย ส่วนปืนไม่ทราบว่าเป็นของใคร เอามาจากไหน ยอมรับว่าตอนนี้แม่ของตนสภาพจิตใจย่ำแย่มาก เพราะน้องชายของตนยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในการพยุงชีวิตต่ออยู่ ส่วนสามีของแม่ก็ยิงตัวตาย ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้บอกแม่ว่าจะไปบวชอีกเพียงไม่กี่วันเอง
ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนายบอย (นามสมมติ) เป็นเพื่อนบ้าน บอกว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ทางลูกเลี้ยงได้มาหาตนที่บ้านพักก่อนที่จะนำน้ำปลาหวานมาให้กับตน พร้อมกับยกมือไหว้ตนอย่างนอบน้อม ชี้พฤติกรรมลูกเลี้ยงตอนเมากับตอนไม่เมาแตกต่างกันสิ้นเชิง หากเป็นตอนที่ยังไม่เมาก็จะมีสติและพูดจานอบน้อม แต่หากเมาแล้วก็จะเปลี่ยนมีพฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าว และบางครั้งเผลอทำร้ายแม่บังเกิดเกล้า
ซึ่งก่อนเป็นเพื่อนบ้านก็จะเห็นพฤติกรรมของลูกเลี้ยงตอนเมาไปบ่อย ๆ โดยบางครั้งก็จะใช้มีดฟันตัวบ้านทำให้เกิดเสียงดังและบางครั้งก็จะเคาะกำแพงเสียงดัง แต่ตัพ่อเลี้ยงเป็นคนที่นิสัยดีมากและบอกลูกเพียงว่า อยากให้ลูกปรับปรุงตัวเองอยากให้รักแม่มาก ๆ และไม่อยากเห็นลูกเลี้ยงทำร้ายร่างกายแม่บังเกิดเกล้าแล้ว
ก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ก็คาดว่าลูกเลี้ยงเมาก่อนจะอาละวาดทำลายข้าวของ แต่ในส่วนปืนยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นของพ่อเลี้ยงหรือไม่ ที่ผ่านมาพ่อเลี้ยงไม่เคยมีพฤติกรรมรุนแรง ความคิดส่วนตัวเชื่อว่าปืนอาจจะเป็นของลูกเลี้ยงหรือไม่และยิงก่อน อาจเกิดการแย่งปืนและพ่อเลี้ยงก็เลยยิงใส่ลูกเลี้ยงจนบาดเจ็บสาหัส เพราะตัวพ่อเลี้ยงเป็นคนที่นิสัยดีมากและดูแลทุกคนในบ้าน น่าจะเครียดและกดดันที่ก่อเหตุพลาดไปก็เลยยิงตัวตายในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พ่อเลี้ยงจะยิงลูกเลี้ยงบาดเจ็บสาหัส มาบอกกับตนว่าอีก 2 วันจะบวชเป็นพระ อยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในอยุธยา สุดท้ายไม่ได้บวชยิงลูกเลี้ยงสาหัสแล้วก็ยิงตัวตายดับฝันทุกอย่าง