เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 17 ก.พ.67 ตำรวจ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุชายถูกแทงเสียชีวิตบริเวณถนนเลียบคลองขุนศรี ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี หลังรับแจ้งถึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบศพนายอดิเรก อายุ 36 ปี นอนหงายสวมเสื้อสีน้ำเงินลายดอก กางเกงยีนขายาวพับขานอนเสียชีวิตอยู่ริมคลอง สภาพถูกแทงที่หน้าอกซ้าย 1 แผล จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายวิสูตร หรือ ต้น อายุ 28 ปี หลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้จุดเกิดเหตุพร้อมอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ
สอบสวน นายวิสูตร ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงผู้ตาย สาเหตุมาจากความแค้นที่ผู้ตาย ไปชกต่อยและเตะนายนนทรี พ่อของตนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งตนก็อยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่ได้เข้าไปช่วยพ่อ ผู้ตายเคยทำร้ายพ่อมาแล้ว 4-5 ครั้ง ก่อนก่อเหตุเห็นผู้ตายยืนอยู่คนเดียว ด้วยความแค้นจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาแล้วใช้มีดแทงไปที่อก 1 ครั้ง จนผู้ตายล้มลงไปนอนกับพื้น หลังก่อเหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน
ภาพวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ชายสวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงขายาวสีดำคือนายนนทรี ยืนอยู่ริมถนน ถูกนายอดิเรก (ผู้ตาย) สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ เข้ามาเตะต่อยขณะชายเสื้อเขียวล้มยังเตะซ้ำอีกหลายครั้งพร้อมทั้งตะโกนถามว่าใครด่ากูไอ้ลูกหมา ก่อนจะเดินจากไป ซึ่งภาพเหตุการณ์นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าที่ผู้ตายเตะ
ด้านนายวินัย อายุ 56 ปี พ่อคนเสียชีวิต กล่าวว่าตอนเกิดเหตุตนไม่อยู่ไปทำงาน ช่วงเย็นแม่ของลูกโทรไปบอกว่าลูกถูกแทง ตนจึงรีบมาดูก็เห็นเจ้าหน้าที่กำลังช่วยปั๊มหัวใจลูกอยู่ แต่ก็ช่วยไม่ได้ ลูกไม่ได้ทำงานอะไร มีอาชีพปลูกผักขายให้คนในหอพัก และรับจ้างเล็กๆน้อยๆไปวัน ๆ ถ้าวันไหนเขาไม่มีเงินก็จะไปขอแม่กับตนครั้งละ 20 บาท ลูกไม่เคยทะเลาะกับผู้ก่อเหตุ เวลากินเหล้าเขาจะเป็นคนใจร้อน เขามีลูกแล้ว 3 คน ลูกสาวคนโต อายุ 15 ปี ลูกชายคนรองอายุ 13 ปี และคนเล็กอายุ 9 ปี ส่วนภรรยาเขาแยกทางกันอยู่
ด้านนายนนทรี อายุ 50 ปี พ่อของคนก่อเหตุและเป็นคนที่ถูกผู้ตายทำร้าย กล่าวว่าตอนที่ผู้ตายมาเตะตนไม่รู้ว่าเขามาเตะตนเรื่องอะไร ยอมรับว่าตนกับผู้ตายเคยทะเลาะกันมาก่อน แต่ไม่เคยมีปัญหารุนแรง แต่วันนี้อยู่ดีๆเขาก็มาเตะ ต่อย ตนจนกระเด็นเจ็บไปทั้งตัว
หลังสอบปากคำนายวิสูตร ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป