กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ มีชายนอนเสียชีวิตอยู่ใต้ทางด่วนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ จ.นนทบุรี ที่เกิดเหตุพบชายนอนเสียชีวิต ลักษณะมีเลือดไหลที่ศีรษะ คล้ายกับถูกของแข็งทุบตี เลือดติดเต็มโซฟา ทราบชื่อต่อมาคือ นายหยัด หรือ วิชาญ อายุ 58 ปี ตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตเคยเป็นอดีตทหารผ่านศึก แต่ปัจจุบันญาติบางส่วนได้มีการขายบ้านและที่เพื่อย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด แต่ตัวของนายหยัด คนตาย ไม่ได้ย้ายออกจากพื้นที่นนทบุรี เพราะผูกพันกับพื้นที่ จึงอาศัยบ้านคนรู้จักและใต้ทางด่วนเป็นที่หลับนอน และในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบไม้หักเปื้อนเลือด ซึ่งคาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ ได้มีการนำไปตรวจดีเอ็นเอและรอยนิ้วมือแฝง เพื่อเชื่อมโยงหาตัวคนก่อเหตุ นั้น


วันนี้ (19 ก.พ. 2567) ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ บริเวณใต้ทางด่วนแจ้งวัฒนะ โดยเป็นที่หลับนอนของนายหยัด หรือ วิชาญ คนตาย โดยพบว่ายังคงมีโซฟาเปื้อนเลือดวางทิ้งเอาไว้อยู่ใต้ทางด่วน และบริเวณต่อมาของทางด่วนมีหยดเลือดของคนตายกระเซ็นติดอยู่ คาดว่าอาจจะโดนทุบหัวในขณะที่กำลังนอน จึงทำให้มีเลือดกระเซ็นติดต่อหม้อทางด่วน และบริเวณรอบข้างโซฟาซึ่งเป็นที่หลับนอนของคนตาย ยังมีข้าวของเครื่องใช้โดยเฉพาะเสื้อผ้าและอุปกรณ์อื่น ๆ วางกระจายอยู่





จากการสอบถาม นายประเสริฐ อายุ 65 ปี เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เกษียน กล่าวว่า เมื่อเช้าประมาณ 08.00 น. ตนจะนำอาหารมาให้ผู้เสียชีวิต เห็นผู้เสียชีวิตนอนหงายบนโซฟาผิดปกติ จึงเรียกให้ชาวบ้านมาดูว่าสงสัยว่าจะเสียชีวิต ตอนแรกจะเรียกรถพยาบาล แต่ชาวบ้านที่มาช่วยดูให้โทร. แจ้งตำรวจ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว ซึ่งปกติผู้ตายเป็นลักษณะคนไม่มีบ้าน อาศัยอยู่จุดนี้มามากกว่า 5 ปี โดยมีเพื่อนเป็นชายรูปร่างอ้วนอีกหนึ่งคนอยู่ด้วย แต่หลังเกิดเหตุไม่เห็น





ล่าสุดทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดในชุมชน ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ซึ่งพบว่ามีร้านขายของชำเป็นร้านประจำที่คนตายมักจะมาซื้อเหล้าขาว จำนวน 1 กั๊ก โดยจะมีการกินทุกเช้าก่อนที่จะไปทำงาน ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดสุดท้ายในเช้าวันที่ 18 ก.พ. ก่อนที่จะพบเป็นศพในเช้าวันที่ 19 ก.พ. โดยจับภาพคนตายใส่เสื้อตัวเดียวกันกับที่พบเป็นศพ คือเสื้อสีน้ำเงิน เจ้าตัวเดินมาซื้อเหล้าที่ร้านขายของชำ ก่อนที่จะเดินเซไปมา แล้วกลับไปแถวใต้ทางด่วน


นายบุญยอด อายุ 68 ปี รุ่นพี่ของคนตาย เผยว่า เมื่อเช้าตัวเองได้รับแจ้งจากคนที่กำลังจะเอาข้าวไปให้นายหยัด บอกว่าเห็นสภาพนอนนิ่งและมีเลือดไหลที่หัว คาดว่าน่าจะถูกทำร้ายตายไปแล้ว ตัวเองจึงได้มาดูที่เกิดเหตุ ก็พบว่าถูกของแข็งตีหัวแตก เลือดไหลเต็มโซฟาที่นอน และตำรวจลงพื้นที่มาตรวจสอบก็พบไม้หักเปื้อนเลือด ตำรวจจึงเก็บไปดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาคนร้าย


สำหรับตัวของคนตาย ปกติแล้วก็ไม่ใช่เป็นคนที่ไปมีเรื่องอะไรกับใครที่ไหน เพราะส่วนใหญ่ก็จะออกไปรับจ้างทำมาหากิน บางครั้งก็มาช่วยตนเองทำงานรับจ้าง วันว่างก็จะไปซื้อเหล้ามานั่งกิน แต่เรียกได้ว่าเมาหัวราน้ำทุกวัน แต่เวลาเมานิสัยชอบเปลี่ยน จากคนนิ่งเงียบกลายเป็นคนโวยวายเสียงดัง จึงไม่รู้ว่าไปโวยวายใส่ใครหรือไม่ จึงทำให้ถูกทุบหัวตาย และที่สำคัญตัวของคนตายก็ไม่ได้มีศัตรูที่ไหน





และหลังเกิดเหตุ ตำรวจก็ตั้งประเด็นข้อสงสัยไปที่คนกินเหล้ากับคนตายเป็นคนสุดท้าย คือนายเพชร อายุประมาณ 41 ปี ซึ่งเป็นรุ่นน้องของคนตาย ปกติแล้วทั้งคู่จะล้อมวงกินเหล้าด้วยกันประจำ ตำรวจจึงสงสัยว่าในคืนเกิดเหตุทั้งคู่อาจกินเหล้าด้วยกันแล้วพูดขัดหูอะไรหรือไม่ จึงได้มีการล็อกตัวไปสอบปากคำในฐานะผู้ต้องสงสัยที่อยู่กับคนตายเป็นคนสุดท้าย แต่ส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่จะมีเรื่องถึงขั้นฆ่ากันตายหรือไม่อย่างไร แต่เคยเห็นกับตาเวลาเมามักจะมีการทะเลาะโวยวายกันเสียงดัง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือกันแบบนี้


ขณะที่ทีมข่าวช่อง 8 จึงได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในชุมชน พบว่า มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเวลาประมาณ 02.45 น. ของเช้ามืดวันนี้ 19 ก.พ. พบว่าตัวของนายเพชรได้ถือถังขี้ปลา กลับมาที่บ้านหลังจากเอาไปทิ้ง แต่ตอนที่ออกไปใช้ถนนซอยหลังบ้านจะไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ ซึ่งถ้าตามคำให้การของแม่ จึงไม่ตรงที่อ้างว่าใช้ให้ลูกออกไปทิ้งขี้ปลาตอนตี 4 แต่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ช่วงเวลาประมาณตี 2


จากนั้นภาพจากกล้องวงจรปิดในชุมชน จับภาพในช่วงเช้ามืดวันนี้ 19 ก.พ. เวลาประมาณ 04.04 น. พบว่านายเพชรได้เดินออกจากชุมชนตัวเปล่า ไม่ได้ถือถังขี้ปลาหรือถังขยะ ตามที่แม่อ้างว่าลูกชายออกจากบ้านไปเพื่อไปทิ้งขยะ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นเดินตัวเปล่า ในมือถือเหล้า 1 ขวด เดินออกจากชุมชนเพื่อมุ่งหน้าไปใต้ทางด่วน ไปหาคนตาย





และมีภาพจากกล้องวงจรปิดเส้นทางเรียบใต้ทางด่วน จับภาพเวลาประมาณตี 4 เศษ เห็นนายเพชร เดินผ่านกล้องมุ่งหน้าไปหาจุดเกิดเหตุ โดยกล้องวงจรปิดเวลาไม่ตรง เร็วกว่าเวลาจริงประมาณ 4 ชั่วโมง ขณะนั้นจะเห็นลักษณะเงาคน ซึ่งใส่เสื้อสีขาวคล้ายกับนายเพชร ที่เดินผ่านกล้องไปก่อนหน้านี้ และไปเดินลักษณะเดินไปมาและทำทีตะคุ่ม ๆ อยู่แถวใกล้กับที่เกิดเหตุ


ทีมข่าวจึงได้ไปสอบถามนางพลอย (นามสมมติ) แม่ของนายเพชร ชายต้องสงสัย เผยว่า ส่วนตัวยอมรับว่าลูกชายของตนกับนายหยัด คนตาย เป็นเสมือนเพื่อนกันที่กินเหล้าด้วยกันเป็นประจำ เพราะในชุมชนไม่มีใครคบก็จะอยู่กัน 2 คน และทั้งคู่ก็ไม่เคยมีเรื่องหรือมีปากเสียงอะไรกันเลย ก่อนที่จะพบเป็นศพก็ยังเห็นคนตายมาที่บ้าน มาชวนกันออกไปกินเหล้า ส่วนตัวจึงยืนยันว่าลูกชายไม่มีวันที่จะทำร้ายนายหยัดถึงตายได้ เพราะทั้งคู่ร่วมหัวจมท้ายรักกันจะตาย แล้วที่สำคัญก็ไม่มีชนวนเหตุอะไรที่จะทะเลาะกันถึงขั้นใช้ไม้ตี


สำหรับไทม์ไลน์ของลูกชาย ตัวเองยืนยันว่าเมื่อวานนี้ 18 ก.พ. ช่วงค่ำ ลูกชายกลับมานอนที่บ้านก่อน 2 ทุ่ม แล้วอยู่ภายในบ้านไม่ได้ออกไปไหน จนกระทั่งเช้ามือวันนี้ 19 ก.พ. เวลาประมาณตี 4 ตนเองใช้ให้ลูกชายเอาขี้ปลาทู ซึ่งตนเองขายปลาทูให้ลูกชายเอาไปทิ้ง โดยลูกชายจะหิ้วถังออกไปทิ้งเวลาประมาณดังกล่าว และหลังจากที่กลับมาก็เอาถังมาเก็บที่บ้านก่อนที่เวลาประมาณตี 5 ลูกชายจะเอาขยะไปทิ้งอีกรอบแล้วกลับเข้ามานอน





ดังนั้นตนเองก็ยืนมันว่า ทั้งช่วงหัวค่ำและเช้ามืด ลูกชายไม่ได้ไปเจอกับนายหยัด ก่อนที่จะพบเป็นศพ ฉะนั้นจึงยืนยันว่าลูกชายมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และในวันนี้ได้ไปให้การกับตำรวจหมดแล้ว ประกอบกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็เอาไปให้ตำรวจตรวจเพื่อความสบายใจว่าไม่มีเลือดใครติด แล้วตำรวจบอกกับครอบครัวว่าจะรู้ผลอีก 2-3 วัน ซึ่งแม้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ตนเองก็เชื่อว่าลูกชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้


ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ตามหาเบาะแสของนายเพชร ผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจมีการเรียกสอบ เนื่องจากเป็นเพื่อนของคนตาย และเป็นคนที่มักจะดื่มเหล้าอยู่กับคนตายประจำ


โดยทีมข่าวได้เดินตามนายเพชร ซึ่งเดินทางไปที่บ้านก็ไม่เจอตัวและเดินตามหาใต้ทางด่วน ระยะกว่า 2 กิโลเมตรก็ไม่เจอตัว จนมีชาวบ้านขี่รถมอเตอร์ไซค์มาส่งซิกบอกทีมข่าว ว่า ตัวของนายเพชรหลบนักข่าวอยู่ที่ตอม่อใต้ทางด่วนมีต้นไม้บังอยู่ ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามพิกัดดังกล่าว แต่เมื่อใกล้ประชิดตัว ตัวของนายเพชรรู้ว่าทีมข่าวกำลังตามหา เจ้าตัวพยายามเดินหนีอย่างรวดเร็ว และตัดสินใจปีนรั้วกระโดดหนี แต่สุดท้ายทีมข่าวก็สามารถเข้าไปเจอตัวได้เพราะเนื่องจากเป็นทางตันไปต่อที่ไหนได้ และทันทีที่เดินทางไปถึงเจอนายเพชร นอนถอดเสื้อ อยู่ใต้ตอม่อทางด่วนลักษณะนอนแบบสบายใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นมาสวมเสื้อ แล้วให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว





นายเพชร เผยว่า ตนเองมั่นใจว่าไม่ใช่คนฆ่านายหยัด แม้ว่าตัวเองจะรู้จักและเคยกินเหล้าด้วยกัน แต่ในก่อนวันเกิดเหตุตนเองไม่ได้ไปเจอและไม่ได้ไปอยู่ด้วย จึงไม่รู้ว่าใครทำและทำไปทำไม แต่ส่วนตัวยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ส่วนหนึ่งที่เชื่อว่าตัวของนายหยัด ถูกฆ่าตาย เพราะเป็นคนพูดโกหก พูดไปเรื่อย โกหกเรื่องนั้นเรื่องนี้ จึงเป็นไปได้หรือไม่ที่ไปโกหกคนอื่นแล้วถูกฆ่าตาย


และระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์กับนายเพชร ปรากฏว่าเจ้าตัวเลี่ยงที่จะตอบ โดยตัดสินใจที่จะล้มตัวลงนอน ยกขาขึ้นอย่างสบายใจ พร้อมกับตอบทีมข่าวว่า ไม่อยากดังไม่อยากเป็นนักร้อง ผมไม่ได้ฆ่าเขา ผมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และผมก็ไปให้การกับตำรวจมาแล้ว ถ้าผมผิดเขาคงปล่อยตนมานั่งและนอนอยู่ตรงนี้

เปิดภาพชายต้องสงสัย โผล่ใกล้จุดฆ่าอดีตทหาร ห้าวจัด นอนกระดิกเท้าโต้ ผมไม่ได้ฆ่า