สาวสวยทะเลาะแฟนหนุ่ม หายตัวลึกลับกลางทาง
จากกรณีเพื่อนโพสต์เฟซบุ๊กตามหาเพื่อนที่หายไปปริศนา ระบุข้อความว่า "ขออนุญาตใช้พื้นที่สื่อโซเชียลในการตามหาเพื่อนค่ะ ตอนนี้ติดต่อเพื่อนไม่ได้มากว่า 24 ชั่วโมงแล้ว เนื่องจากวันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ ได้มีการนัดกินเลี้ยงวันเกิดแฟนเพื่อนที่ร้านอาหาร ถนนเลียบด่วนรามอินทรา หลังจากร้านปิด 01.00 น. ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
ซึ่งเพื่อนกับแฟนจะต้องขับรถกลับบ้านที่นนทบุรี และระหว่างขับรถกลับบ้านก็มีเรื่องทะเลาะกันแล้วเพื่อนก็ได้ลงจากรถ ซึ่งเป็นซอยที่ใกล้จะถึงบ้าน ตั้งแต่วันที่อาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. กังวลว่าจะเกิดอันตรายกับเพื่อนเพราะเวลาก็ค่อนข้างดึกและเป็นกลางคืน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถติดต่อได้เลย โดยปกติแล้วเพื่อนจะออนไลน์อยู่ในโซเชียลตลอด หากมีใครพบเห็นช่วยแจ้งมาหน่อยนะคะ ทุกคนเป็นห่วงมาก" ซึ่งผู้สูญหายชื่อว่า นางสาวชลลดา หรือ นุ่น อายุ 27 ปี
วันที่ 19 ก.พ. 2567 ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบนางสาวเพ็ญ แม่ผู้สูญหาย เดินทางเพื่อมาให้การเพิ่มเติมหลังจากที่นายศิริชัย อายุ 33 ปี ลูกเขย เข้ามาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแม่ผู้สูญหาย เผยว่า ตนได้ถามทางลูกเขยว่าเรื่องเป็นมายังไง เขาก็เล่าให้ฟังว่าทะเลาะกันแล้ว น้องนุ่นได้ลงจากรถไปขึ้นแท็กซี่ก็ไม่เจอเลย ทางลูกเขยจึงกลับมารอที่บ้านเพื่อรอนุ่นกลับมา แต่ก็ไม่กลับมา ตนเลยคิดว่าทำไม ณ เวลานั้นไม่ลงไปตาม หรือขับรถตามแท็กซี่คันนั้นไป เพราะตัวเองก็มีรถ มันสะดวกกว่า
ตอนนี้ตนมั่นใจว่า ลูกสาวของตนหาย แต่ตนไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เมื่อคืนคุยกับลูกเขยแล้วเขาก็บอกว่าให้แม่ทำใจเพราะไม่รู้ว่าน้องนุ่นยังไง 50/50 เพราะว่าเขาจับ GPS ครั้งสุดท้ายได้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ลูกเขยบอกกับตนว่าจะไปตามหานุ่นอีกที เรื่อง GPS ตนก็ไม่ค่อยมั่นใจ แต่เขาใช้โทรศัพท์มันสามารถจับ GPS หากันได้ แล้วน้องนุ่นหายไประหว่างนั้น ทำไมลูกเขยไม่ติดต่อญาติพี่น้องเพื่อนที่สนิทของน้องนุ่นให้รับรู้ พอแม่มารู้อีกทีก็ 4 ทุ่มเมื่อคืนนี้ ตนเลยสงสัย อีกทั้งใน 1 ปีที่ผ่านมา ลูกสาวและลูกเขยมีเรื่องทะเลาะกันไหม แต่เคยมีเพื่อนสนิทของน้องนุ่นบอกว่า น้องนุ่นกับลูกเขยเคยมีเรื่องทะเลาะกันถึงขนาดบีบคอ เอาเท้าเหยียบหน้าน้องนุ่นเป็น 10 ครั้ง ตนคิดว่าเขามีอารมณ์รุนแรง เพราะตอนที่ทำ เพื่อนบอกว่าลูกเขยไม่ได้เมา เพราะเพื่อนสนิทอยู่ในเหตุการณ์ และการกระทำในครั้งนี้ของลูกเขย ทำให้ตนไม่ไว้ใจอีกแล้ว
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ถนนเลียบด่วนรามอินทรา เป็นร้านอาหารที่นุ่นและเพื่อนมาฉลองวันเกิดให้กับสามีของนุ่นที่ร้านแห่งนี้ ก่อนออกจากร้านไปช่วงประมาณตี 1 วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ตามภาพวงจรปิดที่เราได้นาทีสุดท้ายก่อนที่จะหายตัว
ร้านอาหารดังกล่าว อยู่ห่างจากบ้านพักของนุ่นและสามีประมาณ 19 กิโลเมตร ซึ่งบ้านพักของนุ่นกับสามีอยู่ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยทีมข่าวพยายามสอบถามพนักงานในร้านอาหารดังกล่าว ซึ่งบอกกับทีมข่าวเพียงว่า ตกใจที่ทราบข่าวว่าลูกค้าที่เคยมากินที่ร้านหายตัวไปอย่างปริศนา และจากการที่ทีมข่าวนำรูปผู้สูญหายให้พนักงานทางร้านดู ก็ขอยืนยันว่าไม่มีใครคุ้นหน้า เพราะแต่ละวันลูกค้าเยอะจึงจำไม่ได้ และหากจะถามว่าในวันดังกล่าว มีคนมาจัดงานวันเกิดหรือไม่ ก็จำไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะปกติก็มีคนใช้ร้านอาหารแห่งนี้ เป็นสถานที่จัดฉลองวันเกิดหลายคน
ภาพสุดท้ายสาวสวยนั่งรถกับแฟนหนุ่ม ก่อนขึ้นแท็กซี่หายตัว
ต่อมา ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดเป็นนาทีหลังน้องนุ่นกลับออกมาจากร้านอาหาร ย่านถนนเลียบด่วนรามอินทรา โดยจากเวลาภาพวงจรปิดไม่ตรงเวลาจริง ช้ากว่าเวลาจริงประมาณ 50 นาที ซึ่งช่วง 01.00 น. ของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ จะเห็นรถเก๋งสีขาวของนายศิริชัย สามีของน้องนุ่นออกมาจากร้านอาหารดังกล่าว ซึ่งในภาพวงจรปิดจะเห็นกล้องวงจรปิดตอนที่รถของสามีนุ่นผ่านทั้งหมด 3 มุม โดยกล้องวงจรปิดที่ทีมข่าวได้อยู่บริเวณห่างจากร้านอาหารดังกล่าวประมาณ 1 กิโลเมตร
สามีเปิดใจทะเลาะสาว ให้ลงกลางทาง ไม่ตอบขึ้นแท็กซี่คันไหนวันหายตัว
ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาที่ สภ.ปากเกร็ด ซึ่งทางตำรวจได้มีการเชิญตัวแม่และสามีของน้องนุ่น ผู้สูญหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม ทางตำรวจมีการสอบปากคำทั้งคู่นานถึง 3 ชั่วโมง และภายหลังสอบปากคำนายศิริชัย สามีของน้องนุ่น ผู้สูญหาย รีบอุ้มลูกเล็กออกจากห้องสอบปากคำและรีบเดินหนีทีมข่าวที่ปักหลักรอสัมภาษณ์
โดยเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า ตนเองยอมรับว่าไปฉลองวันเกิดของตนเองที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านถนนเลียบด่วนรามอินทรา หลังจากนั้นก็พาภรรยากลับบ้าน แต่ระหว่างทางมีการทะเลาะกับภรรยาเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านพัก
โดยตอนที่ทะเลาะครั้งแรกในรถ ภรรยาก็ลงจากรถ แต่ตนเองก็ขับตามและพาภรรยาขึ้นรถ จากนั้นก็ทะเลาะต่อเป็นครั้งที่สอง แต่ครั้งนี้ภรรยารีบลงจากรถแล้วก็รีบข้ามถนนเพื่อหนีตน แต่พอทีมข่าวถามว่าในข้อความเฟซบุ๊กที่มีการพูดคุยกับเพื่อน ว่าเห็นภรรยาขึ้นรถแท็กซี่เห็นจริงหรือไม่ในตอนนั้น ทางฝ่ายสามีก็มีการตอบบ่ายเบี่ยง
ทีมข่าวสอบถามต่อว่า จากข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่าทางสามีขับรถตามหาภรรยา ค้นหาจากสัญญาณโทรศัพท์ภรรยาหรือไม่ เจ้าตัวก็บอกว่าใช่ โดยพบพิกัดล่าสุดอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวันนี้และเมื่อวานนี้รวมสองวัน มีการค้นหาตามพิกัดโทรศัพท์มือถือของภรรยา ที่ส่งสัญญาณทั้ง 5 จังหวัด
และเมื่อทีมข่าวถามต่อว่า ก่อนหน้านี้เคยทะเลาะกับภรรยาหรือไม่ และทางฝ่ายภรรยามีการประชดโดยการลงจากรถหรือไม่ ทางฝ่ายสามีก็ตอบว่าใช่ และปัดตอบคำถามทุกอย่าง โดยบอกว่าสองวันนี้ที่ตามหาภรรยา ตนเองเหนื่อยมากยังไม่ได้พัก ตนเองขอพักยังไม่พร้อมให้ข้อมูลใด ๆ ทั้งสิ้น
แม่ปล่อยโฮต่อหน้าตำรวจ ห่วงลูกหายไม่รู้ชะตา
นางสาวเพ็ญ แม่น้องนุ่น กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนไม่ได้อยู่กับลูกแค่ตอนที่ลูกเรียนอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี แต่ตนมีหน้าที่เอาลูกมาอยู่กับตน ตอนที่ลูกปิดเทอมจะอยู่คู่กับน้องชาย เขาไม่ได้เป็นคนขี้น้อยใจ เพราะว่าเวลาที่อยู่ด้วยกันกับตน น้องนุ่นจะเป็นคนมีเหตุมีผล มีอะไรจะพูดกับแม่ตลอด เพราะตนเคยบอกลูกไว้ว่ามีอะไรให้บอกตนได้เลย อย่าคิดว่าแม่เป็นคนอื่น เพราะแม่จะเป็นให้หมดเลย พ่อ แม่ เพื่อน ผิดถูกยังไงแม่จะบอกน้องนุ่นเอง ตอนนี้ตนรู้สึกเป็นห่วงลูกมาก และตั้งแต่ลูกมีครอบครัวตนก็ไม่เข้าไปยุ่ง ตนก็ได้เห็นลูกโพสต์ข้อความ รูปภาพต่างๆ ตนเห็นว่าเขามีความสุขแล้ว แต่ตนก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับลูกของตน ตนอยากบอกน้องนุ่นว่าติดต่อแม่มาหน่อยว่าอยู่ที่ไหน ถ้าไม่อยากให้ใครรู้ว่าอยู่ไหน ติดต่อแม่มาก็ได้
นอกจากนี้ ทีมข่าวตรวจสอบไปที่เฟซบุ๊กของเพื่อนน้องนุ่น ที่โพสต์ตามหาเพื่อนที่หายตัวไป พบว่าใต้โพสต์ ทางสามีของนุ่นได้มาคอมเมนต์พร้อมกับโพสต์รูปภาพระบุข้อความว่า “ตอนนี้มายื่นเรื่องต่อให้ตำรวจในพื้นที่สัญญาณโผล่ สภ.หินย้อย ช่วยตามอีกที และยังมีการโพสต์ข้อความว่าแจ้งความคนหายที่ สภ.ปากเกร็ด ไว้แล้ว
แต่ทางเพื่อนของคนหายก็ตั้งข้อสังเกตว่า “แล้วทำไมถึงกล้าให้ลงจากรถไม่ตามตั้งแต่ตอนนั้น” แต่ทางสามีคนหายก็ตอบกลับว่า “นุ่นทำแบบนี้ประจำ เวลาไม่พอใจจะเปิดประตูลงรถ พอลงไปตามก็มีแต่วิ่งหนี มาเป็นพี่ไหม” ทางสามียังชี้แจงต่อว่า “น่าจะรู้นิสัยเพื่อนตัวเองดี ว่าเวลาตัวเองโมโหไม่พอใจใครเป็นแบบนี้ เคยบอกเตือนแล้วหลายครั้ง แต่นุ่นก็ทำแบบนี้เป็นประจำ อคติกับกูอะไรนักหนาวะ”
และทางสามีของนุ่น ยังมีการโชว์พิกัด GPS โทรศัพท์มือถือของนุ่นที่ส่งสัญญาณเป็นพิกัดสุดท้ายอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่ในส่วนเฟซบุ๊กของนุ่นมีการโพสต์สตอรี่และรูป ในวันหายตัวระบุข้อความว่า “ขอบคุณทุกคนที่มาทานข้าววันเกิดพี่ทอยด้วยกันนะคะ #รักน๊าาาา ไว้เจอกันใหม่นะคะ ♥️”
นอกจากนั้น ยังมีการโพสต์ถึงสามีในวันเกิดว่า “สุขสันต์วันเกิดนะที่รัก เป็นแฟนที่น่ารักของเขาแบบนี้ตลอดไปนะ ร่ำรวย ๆ การงานราบรื่น สมหวังทุกปรารถนาน๊าาา♥️????” ซึ่งแฟนของเธอเกิดในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ และก็มีการไปฉลองวันเกิดในวันนั้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านถนนเลียบด่วนรามอินทรา ก่อนออกจากร้านในช่วงประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 18 กุมภาพันธ์
นายศิริชัย อายุ 33 ปี สามีน้องนุ่น กล่าวว่า อยากให้น้องนุ่นกลับมา เลิกน้อยใจเรื่องพวกนี้ได้แล้ว ถือว่าเห็นแก่ลูก เพราะเวลาทะเลาะกันก็จะออกจากบ้านไปแบบนี้เสมอ แต่ครั้งนี้หนีไปเพราะว่าตนพูดประชดและไม่รู้ว่าจะติดต่อยังไง ซึ่งตนจะเป็นฝ่ายง้อน้องนุ่นตลอดตั้งแต่มีลูก เวลาทะเลาะกันน้องนุ่นก็มีจิกหัวตนบ้าง มีตีคืนบ้าง แต่ตนก็ยอมมาตลอด ซึ่งเคยมีทะเลาะถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลือดตกยางออก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอีกเลย เคยแจ้งความไว้แล้ว นานแล้ว จนเป็นคดีติดตัวของตนในคดีทำร้ายร่างกาย