"พิชิต" บอกต้องเห็น " ทักษิณ" อายุ 70 แล้ว ยังยอมเข้าสู่กระบวนการแบบไม่อิดออด ยัน ไม่ได้ทำลายกระบวนการยุติธรรม อย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวมาวัด

นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงข้อครหาต่างๆที่เกิดขึ้นหลังนายทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักโทษ อยากให้ทุกคนตั้งสติ เพราะเรื่องการพักโทษเป็นอำนาจฝ่ายบริหาร ซึ่งขณะนี้กระบวนการยุติธรรมจบลงแล้ว ตั้งแต่ศาลออกใบแดงแจ้งโทษ ตอนนี้เข้าสู่กระบวนการพัก โทษบริหารโทษ เป็นอำนาจของกระทรวงยุติธรรม จึงขอให้แยกตัวบุคคลออกจากองค์กร แต่หากมองการพักโทษไม่ถูกต้องก็ควรใช้เวทีสภา ทั้งตั้งกระทู้ถาม เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไปตรวจสอบกันในสภา ว่าเป็นไปตามระเบียบหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดการแตกแยกขึ้นในสังคม ดีกว่ามาเลือกที่รักมักที่ชัง และมีคติต่อกัน
แต่ส่วนตัวขอยืนยันว่าการพักโทษของนายทักษิณไม่ได้เป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม

ส่วนคดีตามความผิดมาตรา 112 นายพิชิต กล่าวว่า ตอนนี้งานทักษิณได้เข้าสู่ กระบวนการยุติธรรมแล้ว ในเวลาที่เหมาะสม แม้ไม่สะดวกต้องนั่งวีลแชร์ไปก็ไป เริ่มนับหนึ่งเข้าพบอัยการเพราะเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ดังนั้นอย่านำ 2 เรื่องนี้มาปนกัน คนในฐานะนักกฎหมาย รู้สึกไม่สบายใจ อยากให้สังคมตั้งหลัก ระหว่างการพักโทษกับการดำเนินคดีเก่าที่ค้างอยู่ ซึ่งนายทักษิณ ก็เข้าสู่กระบวนการอย่างไม่อิดออด และตอนนี้ยืนยันนายทักษิณ ไม่ได้ถูกอายัดตัว เข้าพบอัยการสูงสุดเองและได้รับการประกันตัว

ส่วนข้อสงสัยเรื่องอาการของนายทักษิณ ป่วยวิกฤตจริงหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ต้องยึดหลักเกณฑ์ของการพักโทษว่าป่วยระดับไหน ไม่จำเป็นจะต้องโคม่า แต่จะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเรื่องสุขภาพ เรื่องป่วยจริงหรือไม่จริงอย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวมาวัด แต่ส่วนตัวไม่ทราบว่า คุณทักษิณ ป่วยเป็นอะไร แต่เมื่อทุกคนรู้ว่าเป็นผู้ป่วยก็ไม่ควรไปตรวจสอบ ให้เป็นเรื่องของแพทย์ เมื่อวานส่วนตัวก็ไม่สบายใจ ที่นายทักษิณ ไปมอบตัว มีอัยการท่านหนึ่งพยายามจะถ่ายรูป ขอให้เป็นไปตรวจสอบว่าเป็นใคร ซึ่งตนก็ไม่รู้วัตถุประสงค์ว่า ถ่ายไปทำไม

เมื่อถามว่า ตามขั้นตอนไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปใช่หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ไม่ควรถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง แต่มีอัยการท่านหนึ่งพยายามทำ ตนไม่สบายใจ ท่านควรรู้ว่ามันผิดกฎหมาย ไม่ใช่ละเมิดสิทธิ์

เมื่อถามว่าหลายคนสงสัยเรื่องการไม่ถูกติดกำไร EM นายพิชิต กล่าวว่า เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการพักโทษ

เมื่อถามว่า อยากให้เข้าสู่กระบวนการทางสภาเหตุใดกรรมาธิการหลายกรรมาธิการเชิญมา แต่ไม่ให้ข้อมูลเรื่องอาการป่วย และผู้มาชี้แจงอ้างว่า ผู้ป่วยไม่ยินยอมให้เปิดเผย นายพิชิต เชื่อว่า ในที่สุดแล้ว ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด และรอให้ถึงวันนั้นประชาชน จะเป็นผู้ตัดสินใจเอง

" ถึงบอกให้เห็นใจ ดร. ทักษิณ เถอะครับ ท่านอายุ 70 กว่าแล้ว แล้วต้องเข้าสู่กระบวนการรับโทษและกระบวนการยุติธรรมในคดีที่ค้างอยู่ ความรู้สึกของตน ในฐานะผู้ที่มีส่วนในการทำงาน ถือว่าท่านเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ง่ายมาก ต่างจากคนอื่น และต้องมาตัดสินใจในยามที่ท่านต้องอยู่กับครอบครัว เพราะฉะนั้นอย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวเลยครับ ขอให้ยึดหลักเกณฑ์ การกล่าวหาว่าท่านทำลายกระบวนการยุติธรรม ต้องแยกเรื่อง มันสามารถตรวจสอบได้ว่าการพักโทษ คือการบริหารโทษ เพราะฉะนั้นบรรดานักโทษที่ได้รับการลดโทษ จำคุก 20 ปี 30 ปี ติดกันไม่เคยครบ คนเหล่านั้นก็ทำลายกระบวนการยุติธรรมหมดสิครับ "

นายพิชิต กล่าวต่อว่า ส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับนายทักษิณ แต่พูดไปตามหลักเกณฑ์