จากกรณีที่ น.ส.ณัฐพัชร์ อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกรถเก๋งซึ่งขับโดย น.ส.กัลยา อายุ 46 ปี พุ่งชนอย่างแรง ขณะกำลังข้ามทางม้าลายจนทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา นั้น
คืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567 เวลา 13.30 น. ที่ สภ.บางบัวทอง พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง พร้อมด้วย ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) จังหวัดนนทบุรี ได้เชิญพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต และคู่กรณีคือ น.ส.กัลยา เพื่อมาเยียวยาและรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประกันรถยนต์บริษัทแห่งหนึ่ง โดยระหว่างพูดคุยทาง น.ส.กัลยา ได้ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิต
ด้านพ่อ ผู้เสียชีวิต เผยว่า ยังติดใจและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะจากดูภาพกล้องวงจรปิด เห็นว่ารถทุกเลนจอดให้ทางกับลูกสาว แต่ผู้ต้องหาดันขับมาไวโดยไม่ระวัง ซึ่งป้ายแจ้งข้ามทางม้าลาย ก็มี ทำไมถึงวิ่งด้วยความเร็วขนาดนั้น
ด้าน น.ส.กัลยา ผู้ต้องหา เผยกับทีมข่าวว่า เสียใจและอยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตจากใจ ไม่ได้ตั้งใจและไม่อยากให้เกิดเหตุการเช่นนี้ด้วย ยอมรับว่าขณะที่ขับรถมองไม่เห็นคนที่กำลังข้ามทางม้าลาย โดยเธอขับอยู่ในเลนขวาสุดตลอดทาง ส่วนความเร็วรถขณะนั้น เธอก็ไม่ทราบ โดยตอนนั้นกำลังเดินทางไปตลาดบางใหญ่ ยืนยันไม่ได้เล่นมือถือหรือหลับใน ยังมีสติครบถ้วน และไม่ได้เมาแต่อย่างใด
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เข้าพูดคุยกับนางสุกฤตา อายุ 53 ปี แม่ผู้ตาย เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตอนเกิดเรื่องลูกตนเพิ่งเลิกงานกำลังจะกลับบ้าน โดยลูกตนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การเงินของ รพ. แห่งหนึ่งซึ่งเพิ่งจะอายุ 23 ปี โดยหลังจากลูกตนถูกรถชน ตนก็ทราบมาว่าคู่กรณีไม่ได้มีการหลบหนี เขาก็นั่งรอเจ้าหน้าที่มาอยู่ในรถ หลังจากที่ลูกตนเสียชีวิตแล้ว ทางฝั่งของคู่กรณีก็ได้มาที่งานมานั่งฟังพระสวด แต่ก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน มีแค่ทักทายกันเท่านั้น ส่วนเรื่องไกล่เกลี่ยตอนนี้ยังคุยกันไม่ลงตัว จะต้องมีการพูดคุยกันอีกรอบ ส่วนการดำเนินคดีก็จะต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการเจ้าหน้าที่
ส่วนประเด็นเรื่องอาถรรพ์อายุ 23 ปีต้องเสียชีวิต ตนมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า เพราะหลานตนก็เสียชีวิตตอนอายุ 23 ปี แต่เขาเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกัน และอีกคนคือน้องสาวตนเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว เป็นโรครูมาตอยด์ และโรค SLE ในวัย 23 ปี และก็มาลูกตน หลังจากนี้ตนก็ไม่ได้กังวลกับตัวเลข 23 ไม่อยากให้ไปนึกถึงตรงนั้นให้จบที่ลูกสาวตนก็พอ
ทว่า สิ่งที่ตนกังวล คืออยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูพื้นที่และแก้ไขตรงทางม้าลายให้ปลอดภัยกว่านี้ เพราะมันอยู่หน้าโรงพยาบาล คนใช้บริการเยอะ ควรจะมีการป้องกันมากกว่านี้ เช่นสะพานลอย และก็อยากจะฝากถึงผู้ขับขี่ให้มีความระมัดระวัง ให้เห็นใจคนใช้ถนนคนอื่นด้วย
ขณะที่ทีมข่าวลงไปตรวจสอบทางข้ามม้าลายที่เกิดเหตุ พบว่า เส้นข้ามม้าลายมีสีซีดและอยู่ใกล้ทางลงสะพานข้ามแยก ซึ่งรถอาจจะใช้ความเร็วและไม่ทันเห็น