เป็นประเด็นที่ถูกจับตาไม่น้อยในโซเชียล เมื่อล่าสุด (23 กุมภาพันธ์ 2567) นางแบบสาว เกลิน ธัญรดี หรือน้องคุกกี้ ออกมาโพสต์ IG Story ระบุว่า "ที่เงียบหายไปโดนแฟนเก่าทำร้ายร่างกาย เดี๋ยวเอากล้องวงจรให้ดูว่า ... ทุบหัวเกลิน 3-4 ครั้ง ตอนนี้กำลังไปแจ้งความขอความเป็นธรรมด้วยค่า" พร้อมแท็กหา IG ของฝ่ายชาย นักแสดงหนุ่มซีรีส์วาย วัย 27 ปี ในสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี

ทั้งนี้ เกลิน ได้ลงภาพร่างภายของเธอที่มีรอยช้ำทั่วตัว มีบาดแผล รอยห้อเลือด และยังเผยด้วยว่า โดนแฟนเก่าทำร้ายร่างกาย จนกระดูกหัก ขาหัก โดนบีบคอ ทุบหัว หดหัวกระแทกกับพื้น ตอนนี้มึนแล้วก็จะวูบ ปวดสมอง มีแท็กหา IG ฝ่ายชายรัว ๆ บอกว่า "ช่วยให้ความเป็นธรรมกับเกลินด้วยนะคะ เกลินเป็นผู้หญิงตัวเล็กแค่นี้"

ต่อมา ทีมข่าวได้พูดคุยกับเกลิน ซึ่งได้เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นและมีการทำร้ายตนนั้น เกิดขึ้นเมื่อวาน (23 ก.พ.) ในช่วงสาย โดยตนและนักแสดงคนดังกล่าว ตกลงคบกันเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 และก็มีการย้ายมาอยู่ด้วยกัน ช่วง 3 สัปดาห์แรกก็ดี เขาดูแลเอาใจใส่ตนดีมาก จนวันหนึ่งเขาเอาคอมพิวเตอร์มาเล่นเกม เขามักมีพฤติกรรมไม่นอนเล่นจนเช้า หรือบางทีก็ละเลยตนบ้าง ทำให้มีการทะเลาะกันมาตั้งแต่วันที่ 21 - 23 ที่ผ่านมา

ในวันที่ 21 ตนและนักแสดงคนดังกล่าวมีปากเสียงกัน และทำให้ตนทนไม่ไหว จนต้องกรี๊ดร้องออกมา ซึ่งตนเคยบอกว่าถ้ามีอาการแบบนี้ให้เข้ามากอด แต่เขาก็ไม่ทำ พอเห็นตนร้องไห้ เขาก็บีบคอตน แล้วก็เอามือทำท่าเอานิ้วยัดปากเพื่อไม่ให้ร้องไห้ จับกดลงกับโซฟา ตอนนั้นช็อกมาก ตนกลัวจะโดนหน้าหรือตรงจมูกก็เลยหยุด จากนั้นเขาก็ขอโทษ นี่คือครั้งแรก 

ครั้งที่ 2 คือวันที่ 22 ช่วงประมาณ 23.00 น. ทะเลาะกันในเรื่องเดิม ๆ และการเล่นเกมของเขา ตนก็มีอาการร้องไห้อีก และพยายามจะหนี แต่เขาคิดว่าตนจะทำร้ายตัวเอง แต่จริง ๆ คือ ตนไม่อยากอยู่กับเขา ภาพที่เขาบีบคอมันวนกลับมา ตนได้แต่นั่งร้องไห้ตัวสั่นเหมือนคนเก็บกด และเขาก็เข้ามากระชาก แต่ตนพยายามดิ้นหนี และเขาก็คงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำร้ายตน ตีและถีบหน้าท้อง ทุ่มตน และเขาเคยเรียนเทควันโด เขาเหมือนสกัดขาตน หลังกระแทกพื้นที่เห็นในรูปที่หลังช้ำหมดเลยทั้งตัว หลังจากนั้นตนก็นิ่งเพราะมีอาการจุก ชัก หายใจไม่ออก เลยนิ่ง เขาเห็นแบบนั้นก็เลยมาดูแลจนดีขึ้น รอเขาใจเย็นก็คุยกันว่ามันเกิดจากอะไร และเขาก็ขอโทษ ตนก็ไม่มีแรงที่จะเถียงอะไรเพราะจุกไปหมด และก็พอทุกอย่างสงบลงก็คุยกันปรับความเข้าใจกันขอโทษ แล้วอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม

ครั้งที่ 3 คือวันที่ 23 ก.พ. คือ ตกลงกันว่าจะกลับบ้านด้วยกัน แต่อยู่ ๆ เขาก็เก็บคอมพิวเตอร์ของเขากลับบ้าน ก็มีการตามว่าจะเก็บทำไม ไม่ได้จะให้เลิกเล่น แต่เขาก็บอกว่าเขาจะเอากลับ ในเมื่อมันเป็นปัญหา และอยู่ ๆ เขาก็หยิบเมาส์ฟาดลงไปที่พื้น ตนก็ห้ามว่าอย่าทำ จะทำทำไม เขาก็บอกเหมือนว่าจะให้มันพังจะได้พอใจ ตนก็บอกว่าจะพังทำไม พังก็ซื้อใหม่ไม่เป็นไร และเขาก็เก็บต่อ ตนก็ถามว่าเป็นอะไร แต่เขาก็เหวี่ยงตนเลย อุ้มแล้วก็เหวี่ยง กระทืบตนเลย

จนเขายกคอมพ์ไปไว้หน้าห้อง ตนก็พยายามคุยกับเขาดี ๆ เขาก็ถีบออกมา บอกเลยว่าตอนนั้นตนกลัวมาก เขาทำร้ายหลายอย่างมาก จนอยากเปิดประตูหนีออกไปจากห้องแต่เขาคงคิดว่าจะไปทำอะไรคอมพ์ของเขา เขาก็อุ้มตนเหวี่ยงไปโดนคอมพ์ของเขา แล้วเขาก็ต่อยตรงที่คาง และต่อยหัว 3-4 ครั้ง หลังจากเกิดเรื่อง เขาก็ไปแจ้งความว่า ตนไปทำลายข้าวของเขา ตอนนั้นกู้ภัยก็มาช่วย คือเขาแจ้งความก่อน ตอนนั้นไม่รู้อะไรเลยเพราะโดนตรงหัวก็เลยมึน ๆ 

หลังจากที่เขาแจ้งความ ตนก็ลงสตอรี่แผล ตนนอนราบไปเลย หลังทะเลาะกันเสร็จ และเขาเปิดประตูเข้ามาพร้อมตำรวจและกู้ภัย ตำรวจไม่ได้พูดอะไร ตอนนั้นคิดว่าเขาแจ้งความเพราะตนทำของเขาพัง อีกใจก็คิดว่ากู้ภัยมาช่วยตนหรือเปล่า เพราะเขาโทรแจ้งต่อหน้าตน เขาบอกว่ามีผู้หญิงทำร้ายข้าวของเขา เขาจะย้ายของออกจากคอนโด

ขณะที่ เกลิน เผยว่า ตนเป็นโรคซึมเศร้า กินยารักษาอยู่ เขารู้ตั้งแต่แรก และไม่เคยมีใครทำร้ายตนขนาดนี้ มันคือการกระทืบเรียกแบบนั้นได้เลย ตนยืนอยู่จับประตูเขาก็ถีบไปกองกับพื้น ตนก็สู้ด้วยการจิกหัวเขาบ้าง แต่แรงไม่เท่ากัน เขาบีบคอจนตาเหลือก ยืนยันว่าเป็นผู้ถูกกระทำ ไม่เคยเริ่มก่อน ถ้าเริ่มก่อนคือตนร้องไห้และกรี๊ด 

ตอนนี้ยืนยันจะดำเนินคดี ไม่ไกล่เกลี่ย ต้องเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม มีทนายเรียบร้อยแล้ว ตำรวจมาเอากล้องวงจรที่นิติบุคคลแล้ว แต่ตนเองยังไม่ได้ไปขอ กำลังจะทำเรื่องเพราะต้องใช้ในชั้นศาล
 

ถ้าถามว่า ทำไมถึงยังให้โอกาสเขาเพราะรักเขา และคิดว่าเขาจะเปลี่ยนได้ ให้โอกาสเขา ครั้งแรกเปลี่ยนได้ ครั้งที่สองเปลี่ยนได้ ก็คิดว่าคงไม่มีครั้งที่ 3 ปกติก็ไม่มีอะไร เขาก็สนใจเรา กินข้าว ทำไรก็ปกติมาก แต่ในตอนนี้ตนไม่อยากเจอเขา ตนกลัวและไม่คิดว่า เขาจะทำร้ายตน ในเรื่องรหัสห้องก็จะขอให้นิติเปลี่ยน

สำหรับกระแสโซเชียลนั้น ตนแค่ออกมาปกป้องตัวเอง โดนทำร้ายจริง ๆ ไม่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้าที่จะทำร้ายตัวเอง มันคนละเรื่องกันเลย ในเรื่องของหลักฐานที่ฝ่ายชายพูดถึงนั้น ตนทราบว่า เขามีคลิปเสียงเพราะเขาอัดตอนด่ากัน ตนร้องไห้กรี๊ดมีแค่นั้น ตนรู้ว่าเขาบันทึกเสียง เพราะเวลาเขาพูดเขาเซฟตลอด ตอนทะเลาะกันครั้งที่ 2 เขามีการโทรหาเพื่อนให้เป็นพยานและบันทึกวิดีโอ ตนก็บันทึกไว้เหมือนกันว่ามีรอยอะไรบ้าง

ความรักครั้งนี้ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตน ครั้งที่ 2 หนักสุด ๆ จนนอนนิ่ง ร้องไห้ ไม่มีเสียง คือกลัวมาก เขายืนมองจนเขาเหนื่อยและนั่งและขอโทษ สิ่งที่ทำให้เชื่อว่าเขารักตนคือ เขาให้รหัสโซเชียลส่วนตัวทุกอย่าง เขาให้ความเชื่อใจก็เลยเชื่อ ให้เข้ามาในชีวิตเรา เหมือนเขาพิสูจน์ระดับหนึ่ง แต่ ณ ตอนนี้ระบมทั้งตัว ลุกไม่ไหว เบลอยา พยายามลุกขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อทีมข่าวได้ลงพื้นที่คอนโดของนางสาวเกลิน นางแบบสาวและแฟนหนุ่ม กลับพบว่า ในช่วงเวลาที่เกิดการทะเลาะกัน และฝ่ายชายได้เก็บของลงจากคอนโด เกลิน นางแบบสาว มีพฤติกรรมการโยนซีพียูคอมพิวเตอร์ของแฟนหนุ่มลงจากห้องที่อยู่ชั้น 33 ตกใส่ศีรษะเจ้าหน้าที่ดูแลไฟฟ้าในคอนโด

โดยในวันนี้ ทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับ นางสาวรุ่งฤดี อายุ 40 ปี ผู้บาดเจ็บ ซึ่งได้เผยว่า ยังไม่มีผู้ใดมาติดต่อรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น ตอนนี้ต้องยืมเงินพี่สาวออกก่อน ยังไม่ได้รับคำขอโทษจากผู้ก่อเหตุ ตอนเกิดเหตุตนเดินอยู่และตกใส่หัวเลย มึนหัวมาก และเลือดไหลเต็ม ไม่รู้ว่าเขาทะเลาะอะไรกัน ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดออกจากโรงพยาบาล อยากให้เขามารับผิดชอบ ทั้งผู้หญิงผู้ชาย เจอเมื่อวานผู้หญิงก็บอกว่าไม่มีเงินชดใช้ บอกมีให้แค่ 15,000 บาท ตนก็ต้องเอามาก่อน เพราะไม่งั้นก็รักษาไม่ได้ แต่ก็ไม่พออยู่ดี อยากดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถามว่าโกรธไหม ยอมรับว่าโกรธ

พร้อมทั้งยังได้พูดคุยกับ นายธนกรณ์ อายุ 32 ปี คนอยู่ในเหตุการณ์ว่า ตอนหล่นตนไม่ได้เห็น แต่ตนได้ยินเสียงเลยได้เข้าไปช่วย ตอนนั้นมีแต่พนักงานดูแลกันเอง เจ้าของห้องไม่ได้ลงมาดูหรือช่วยเหลือไม่มีการขอโทษเลย ตนรู้สึกเสียความรู้สึกมาก เขาไม่ช่วยเหลือเลย และถ้าตกกลางศีรษะ มันไม่ได้แค่เจ็บตัว ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยเจอแบบนี้เลย อยากให้เขามารับผิดชอบ

ล่าสุด จีเอ็มเอ็มทีวี ออกหนังสือชี้แจงจากกรณีที่ ภวิน ธนิก นักแสดงในสังกัด ถูกแฟนสาวออกมาแฉว่าทำร้ายร่างกายของเธอ เบื้องต้นบริษัทต้นสังกัดรับทราบกรณีนี้แล้ว และไม่นิ่งนอนใจอยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าเจอว่ามีความผิดจริง สังกัดก็จะมีการดำเนินการขั้นสูงสุด