พบศพชายชาวต่างชาติถูกนำศพมาทิ้งอำพรางใดร้านอาหารตามสั่งเก่าซึ่งปิดให้บริการไปนานหลายปีแล้วภายในสนามบินสุวรรณภูมิ

 

เมื่อช่วงเวลา 10.19 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู จุด สุวรรณภูมิ และ จุด สน.ลาดกระบัง พร้อมด้วยตำรวจเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุหลังได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ที่บริเวณ ที่รกร้างภายในสนามบินสุวรรณภูมิ

 

ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบเคยเป็นร้านอาหารตามสั่งซึ่งปิดให้บริการมานาน 4-5 ปีแล้ว อยู่ริมถนนสุวรรณภูมิ 4 ด้านหลังโรงคัดแยกขยะสนามบินสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ลักษณะจุดพบศพที่รกร้างว่างเปล่า พบรอยเลือดขนาดใหญ่ที่บริเวณประตูทางเข้า หลังจากนั้นก็มีรอยลากเป็นทางยาวไปจนถึงบริเวณห้องด้านในซึ่งเป็นจุดพบศพอยู่ในที่ลับตาคน ซึ่งคนร้ายมีการนำแผ่นไม้กระดาน ความสูงประมาณ 50 เซนติเมตร มาปิดบังสายตาเอาไว้ โดยที่แผ่นไม้มีรอยกระเซ็นของเลือด นอกจากนี้ที่ด้านหน้าทางเข้ายังพบแผ่นโฟมซึ่งฝั่งหนึ่งมีรอยเลือด และอีกฝั่งหนึ่งมีรอยล้อรถยนต์และรอยรองเท้าขนาดใหญ่ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของคนร้าย

 

ขณะที่จากการตรวจสอบสภาพศพ พบร่องรอยถูกยิง 2 นัด โดยเข้าที่ท้ายทอยและขมับด้านซ้ายอย่างละ 1 นัด กระสุนทะลุออกศีรษะด้านขวา 1 นัด โดยยังคงมีเลือดไหลคาดว่าน่าจะเพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน ส่วนศพสวมเสื้อยืดสีดำ

 

ล่าสุดวันนี้ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิตได้แล้ว ทราบชื่อคือ Shin Mou Chiang (ชิห์ โหมว เชียง) อายุ 44 ปี สัญชาติไต้หวัน

 

ซึ่งผู้ตายนั้นเคยถูกออกหมายจับของ สาธารณรัฐไต้หวัน มาก่อนเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ในคดี การโจรกรรม ลักทรัพย์

 

ซึ่งคาดว่าทางผู้ตายนั้นได้หลบหนีคดีจาก สาธารณรัฐไต้หวัน ไปยังประเทศกัมพูชา และน่าจะมีปัญหากับกลุ่มคนชาติเดียวกัน จึงได้หลบหนีเข้ามาประเทศไทย และถูกตามมาฆ่าที่ไทย จากข้อมูลที่ทีมข่าวได้จากตำรวจตอนนี้พบว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งพร้อมกับชายชาวจีนได้ขับรถคันนี้ออกไปยังชายแดนอรัญประเทศ ก่อนจะข้ามชายแดนไปยังประเทศกัมพูชาแล้ว

 

นายนพฤกษ์ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คนที่มาพบรถต้องสงสัยจอดอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ เล่าให้ทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าตนขับรถมาตรวจตราตามปกติก็พบมีรถเก๋งมาสด้า 2 สีแดง จอดอยู่ตรงจุดพบศพ ตนจึงได้บีบแตรไล่ เนื่องจากพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของสนามบินไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามา จากนั้นรถเก๋งคันนี้จึงขับออกไป

 

ตนจึงขับเข้าไปเซ็นจุดด้านใน ก่อนจะขับรถกลับออกมา ก็พบรถเก๋งคันนี้ กำลังจะขับเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง แต่พอเขาเห็นรถตน รถเก๋งคันนี้ก็วนขับหนีออกไป ก่อนจะขับตรงฝ่าไฟแดงไป

 

ซึ่งตนก็ไม่เห็นว่าคนขับเป็นใคร และก็ไม่ได้เห็นร่างผู้เสียชีวิต เนื่องจากตนไม่ได้ลงรถไป พอตนบีบแตรไล่ เขาก็ออกพื้นที่ไป ตนจึงไปทำงานต่อ

 

ตอนแรกตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร แต่มาสงสัยตรงที่พอเขาเจอรถตนรอบสองเขากลับวนรถหนีกลับออกไป ตนจึงขับตามไป แต่ตามไม่ทัน จนพนักงานทำความสะอาดมานั่งพักทานข้าวจึงพบศพ

 

โดยทีมข่าวช่อง 8 ได้พบกล้องวงจรปิดจับภาพรถมาสด้าแดงคนร้ายบริเวณแยกสุขสมาน เขตลาดกระบังก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในเขตสนามบิน เวลา 07.29 น.

 

จากนั้นรถคนร้ายได้มุ่งหน้าเข้าไปยังถนนสุวรรณภูมิสาย 4

 

โดยรถคนร้ายได้ขับเลยจุดเกิดเหตุไปก่อน ก่อนจะวนรถกลับออกมา

 

จากนั้นคนร้ายได้เลี้ยวรถเข้าไปในร้านอาหารร้างจุดทิ้งศพ ก่อนขับหนีออกไป

 

สำหรับผู้เสียชีวิต มีหมายจับในประเทศไต้หวัน ในคดีปล้นและครอบครองอาวุธปืน ซึ่งจะขยายผลต่อว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งยากูซ่าหรือมาเฟียต่างประเทศหรือไม่

 

ขณะเดียวกันมีข้อมูลจากตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่าตัวอักษรสักที่บริเวณมือข้างซ้ายที่สักเป็นรูปภาษาจีนนั้นน่าจะเป็นคำว่า “อี้โหล” ซึ่งน่าจะเป็นแก๊ง ยากูซ่าที่ประเทศไต้หวัน

 

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเวลา 21.30 น. ตำรวจ สภ.สุวรรณภูมิ สน.โคกคราม ฝ่ายสืบสวน นครบาล 2 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ร่วมกันไปตรวจสอบในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านลาดปลาเค้า หลังต้องสงสัยว่าเป็นจุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะนำร่างของคนตายไปทิ้งในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ทีมข่าวมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนบ้าน เล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 ตนเห็นรถยนต์ของเจ้าของบ้านขับเข้ามา ในลักษณะตื่นตระหนก จากนั้นก็เห็นว่าผู้เสียชีวิตได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามเข้ามา ก่อนที่ทั้งสองคนจะเข้าไปภายในบ้าน ต่อมาได้มีชายอีก 2 คน ขับรถยนต์เข้ามา ซึ่งทั้งสองคนนี้ได้ลากกระเป๋าเดินทางขนาดประมาณ 16 นิ้ว เข้าไปภายในบ้าน

 

จากนั้นตนได้ยินเสียงคนพูดคุยกันเป็นภาษาจีน ในลักษณะค่อนข้างระวังตัว และเข้าออกบ้านตลอดเวลา กระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. ได้ยินเสียงดังคล้ายปืนขึ้นมา 1 นัด ถัดมาอีกประมาณ 15 นาที ก็ได้ยินเสียงคล้ายปืนดังขึ้นมาอีก 1 นัด ทำให้ตัวรู้สึกหวาดกลัวจึงรีบกลับเข้าไปในบ้านและไม่เห็นเหตุการณ์อะไรอีกเลย

 

ทั้งนี้ เพื่อนบ้านคนดังกล่าวให้ข้อมูลว่าตนเป็นนักธุรกิจ ที่เพิ่งกลับมาจากการทำธุรกิจที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง และพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มานานเกือบ 10 ปี ทราบเพียงแค่ว่าบ้านหลังที่เกิดเหตุนั้นมีเจ้าของเป็นผู้หญิงชาวไทย และที่ผ่านมาไม่เคยเห็นชายกลุ่มนี้มาก่อนเลย

 

ต่อมาพลตำรวจตรี วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภายในบ้านพักหลังดังกล่าว พบเคตามีน น้ำหนักประมาณ 500 กรัม และยังพบว่าภายในบ้านมีบางจุดที่มีลักษณะใช้สารเคมีพยายามทำลายพยานหลักฐาน เช่นเดียวกับการต้องพิสูจน์และตรวจสอบว่าชายคนดังกล่าวที่นำกระเป๋าเดินทางเข้ามานั้นได้มีการวางแผนและเตรียมการมาเพื่อจะฆาตกรรมมาก่อนหรือไม่ เบื้องต้นพบบุคคลที่ต้องสงสัยแล้วอย่างน้อย 5 คน ซึ่งทั้ง 5 คนได้เดินทางหลบหนีออกไปจากนอกประเทศโดยถูกกฎหมายแล้ว

 

สำหรับผู้เสียชีวิต มีหมายจับในประเทศไต้หวัน ในคดีปล้นและครอบครองอาวุธปืน ซึ่งจะขยายผลต่อว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งยากูซ่าหรือมาเฟียต่างประเทศหรือไม่

 

เปิดวงจรปิดนาทีหนุ่มไต้หวันคนตายยืนอยู่กับผู้ต้องสงสัย

ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดนาทีที่คนตาย ยืนกับ ผู้ต้องสงสัย ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่ชลบุรี เมื่อวันที่ 24 ก.พ. เวลา 15.44 น. ทั้งสองคนยืนคุยอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่จะพบศพคนตายวันนี้

 

ทีมข่าวได้ภาพหลักฐานนาที หนึ่งในคนก่อเหตุหลังทิ้งศพแวะร้านสะดวกซื้อใกล้สนามบินเพื่อซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำ

 

ต่อมาในช่วงบ่ายพบว่ามีช่างสักลาย แห่งหนึ่ง ที่พัทยา ได้ติดต่อเพจ “ข่าวสารเมืองปราการV2” มา หลังจากทางเพจได้มีการประกาศตามหาญาติศพปริศนารายนี้ ว่า “ด่วน ‼ ฝากแชร์ตามหาญาติผู้เสียชีวิต ชาย 1 รายอายุประมาณ 45-50 ปี ยังไม่ทราบสัญชาติ มีรอยสักที่บริเวณลำตัว เต็มหลัง แขน และก้น ถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืนแล้วนำศพมาหมกไว้ที่ถนนสุวรรณภูมิสายสี่ ในตัวไม่พบเอกสารติดตัว ใครสงสัยว่าเป็นญาติญาติหรือรู้จักโปรดติดต่อแอดมินด่วน“

 

ต่อมาได้มีพลเมืองดีท่านนึง ซึ่งเป็นช่างสักได้ติดต่อมาทางเพจและแจ้งว่าเคยสักลายนี้ให้กับศพนี้ ซึ่งเป็นชาวไต้หวัน

 

โดยทีมข่าวช่อง 8 ได้รับการเปิดเผยจากนายรณชัย งามเลิศ ผู้ดูแลเพจ ข่าวสารเมืองปราการV2 ว่า ทางตนได้มีการลงข่าวตามปกติโดยครั้งนี้ได้มีการลงภาพณจุดเกิดเหตุและประกาศตามหาญาติผู้เสียชีวิต หากใครพบเห็นหรือเคยรู้จักให้ติดต่อทางเพจมา ซึ่งตนได้ลงไปและก็มีการลงรูปไปด้วยซึ่งก็เป็นรูปรอยสักของผู้เสียชีวิตตามตัว หลังจากนั้นได้มีคนติดต่อเข้ามาเป็นช่างสักที่พัทยา ได้บอกว่าเขาเคยสักลายนี้ให้กับลูกค้าคนนี้มาก่อน โดยลูกค้ารายนี้ได้มาสักกับเขาบ่อยครั้งโดยครั้งล่าสุดที่มาก็เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2566 เป็นชายชาวไต้หวัน

 

หลังจากที่ตนได้รับข้อมูลจากช่างสักรายนี้จึงได้มีการส่งต่อประสานให้กับทางตำรวจ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการแจ้งว่าค่อนข้างที่จะเป็นคนคนเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะติดตามสืบสวนต่อไป

ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางไปที่ร้านสักแห่งหนึ่ง ใน จ.ชลบุรี ได้พูดคุยกับนายชาย (นามสมมติ) ช่างสัก บอกว่า หลังจากที่เห็น ก็จำรอยสักได้ทันทีว่าเป็นลูกค้าที่เคย walk in เข้ามาที่ร้าน เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน เพราะตนเองเป็นคนสักให้ ตอนนั้นผู้ตายเข้ามาแก้ลายสักเดิม และเพิ่มเติมลายไปเรื่อยๆ จนทั่วทั้งตัว  และผู้ตายเข้ามาที่ร้านหลายรอบเพื่อเติมรอยสัก รวมแล้วนานเกือบ 3 เดือน  ซึ่งทุกครั้งที่มา ก็มักจะซื้อของกิน หรือขนมมาฝากทุกคนในร้านเสมอ  เท่าที่สังเกตดูเป็นคนใจดี คาดว่าน่าจะมีธุรกิจมืด เพราะบุคลิกดูเป็นผู้ชายแบดบอย

 

หลังจากสักจนเสร็จ เมื่อประมาณวันที่ 20 ตุลาคม ก็ไม่ได้พบเจอกันอีก ยอมรับว่ารู้สึกช็อกมากตอนที่เห็นข่าว เพราะเป็นคนสักให้ผู้ตายเกือบทั้งตัว เจอกันทุกวัน นานนับ 3 เดือน คาดว่าสาเหตุการตายน่าจะมาจากการทำธุรกิจของผู้ตาย แต่ตนเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะไม่เคยพูดคุยเรื่องส่วนตัวกัน

 

ยิงหัวฆ่า! "ยากูซ่าไต้หวัน" โยนศพหมกร้านค้า สืบจากรอยสักล่าแก๊งอุ้มสังหาร