จากกรณีเมื่อวานนี้วันที่ 24 ก.พ.67 เวลา 18.00 น. ภายในซอยร่มเย็น ชุมชนท่าโพธิ์ เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้เกิดเหตุยิงกันโดยผู้บาดเจ็บถูกยิงทั้งชายและหญิงจำนวน 7 ราย ส่วนปมเหตุนั้นเกิดจากการนัดเคลียร์ค่าแชร์ โดยกลุ่มคนก่อเหตุนั้นนัดหมายมาพบกันในซอยที่เกิดเหตุซึ่งเป็นซอยตัน แต่ระหว่างนั้นทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ จึงเกิดทะเลาะวิวาทกันระหว่างนั้นกลุ่มคนก่อเหตุชักอาวุธปืนยิงใส่ฝั่งคนเจ็บก่อนจะหลบหนีไป

 

เปิดใจ “จอย ปิยมาศ” เล่าปมขัดแย้งจนนำไปสู่การบาดเจ็บ 7 ราย

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ นางสาวปิยมาศ (จอย) อายุ 37 ปี ผ่านการวิดีโอคอลเนื่องจากขณะนี้เธอกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

 

โดย น.ส.ปิยมาศ ก็ได้เล่าย้อนไปว่าตนนั้นได้รู้จักกับนางฝน (คู่กรณี) มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว โดยนางฝนนั้นเป็นท้าวแชร์และได้มาชวนให้ตนไปเล่นแชร์ด้วย ซึ่งตนก็เล่นแชร์กับนางฝนมาโดยตลอดและไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน ตนไม่เคยค้างเงิน ไม่เคยจ่ายช้า ไม่เคยโกงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งการเปียแชร์ของนางฝนนั้นจะใช้วิธีการหมุนวงล้อ แต่หากรู้จักหรือสนิทกันนางฝนก็จะทำการล็อกชื่อในวงล้อเอาไว้ให้ เพื่อที่จะให้คนสนิทได้เปียแชร์ไปในครั้งนั้น

 

ส่วนการเล่นแชร์ครั้งล่าสุดที่มีปัญหา คือการเล่นแชร์เปียทองสองสลึง โดยการตั้งวงในครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งหมดจะมีจำนวน 25 มือ (รวมท้าวแชร์) ซึ่งส่วนตัวนางปิยมาศ (จอย) นั้นได้ลงเล่นแชร์ไป 2 มือ ราคาอยู่ที่มือละ 790 บาท โดยที่จะต้องจ่ายเงินทุกทุก 5 วัน และก่อนที่จะเล่นแชร์ในครั้งนี้ ตนก็ได้บอกกับนางฝนไว้ก่อนแล้วว่าต้องการเปียแชร์ในมือสอง (หลังท้าวแชร์) แต่ทางด้านของนางฝนนั้นไม่ยอมและบอกให้ตนเก็บไว้เปียในมือที่ 6-7 / จนกระทั่งวันที่ 13 ก.พ.67 ก็เป็นการเปียแชร์ในมือที่ 6 ซึ่งเดิมทีจะต้องเป็นที่ได้ทอง 2 สลึงในครั้งนั้น แต่ปรากฏว่านางฝนนั้นผิดคำพูดและให้คนอื่นเปียแชร์ไปก่อน ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้ติดใจหรือโวยวายอะไรและคิดว่าค่อยรอมือถัดไปก็ได้ จนในวันที่ 19 ก.พ.67 เป็นการเปียแชร์มือที่ 7 ซึ่งนางฝนก็ยังไม่ให้ตนเปียแชร์และให้คนอื่นแทน แต่ในครั้งนี้นางฝนนั้นได้เริ่มพูดจากระแหนะกระแหนต่อว่าตนและนำตนไปพูดให้เสียหาย ประมาณว่ากลัวนางปิยมาศจะโกงค่าแชร์ ถ้าให้เปียทองไปก็อาจจะชิ่งทองหนีแล้วไม่จ่ายในมือถัดไป เพราะนางปิยมาศนั้นขัดสนในเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ

 

หลังจากนั้นในวันที่ 23 ก.พ.67 ทั้งคู่ก็ได้มีปากเสียงกันอีกครั้ง จนนางฝนก็ได้เริ่มท้าทายและนัดตบ ซึ่งตนก็ได้ปฏิเสธและบอกว่าไม่กล้าเนื่องจากไม่อยากมีปัญหา แต่ท้ายที่สุดก็ต้องยอมออกไปตามนัดเพื่อจบปัญหาทุกอย่าง โดยทันทีที่ตนไปถึงทางด้านของนางฝนก็เข้ามาตบตีในทันที ซึ่งตอนแรกเราตกลงกันว่าจะตกลงกันเพียงตัวต่อตัว ไม่ให้คนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง หากใครคนใดคนหนึ่งพูดว่ายอมแพ้ ทั้งคู่ก็จะต้องขอโทษและเลิกราต่อกัน แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นไม่เป็นอย่างที่คิดเนื่องจากทางด้านของนางฝนได้มีการตะโกนสั่งสั่งให้นายเล็กผู้เป็นสามีใช้อาวุธปืนยิงใส่ครอบครัวของตน ซึ่งขณะนี้ทุกคนนั้นปลอดภัยและกำลังเตรียมเข้ารับการผ่าเอากระสุนออก แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือนายไพโรจน์สามีของตน เนื่องจากกระสุนเข้าจุดสำคัญส่งผลให้อวัยวะหลายอย่างเสียหาย จนขณะนี้ก็ยังไม่ฟื้นอาการ 50-50

 

ต่อมานางสาวปิยมาศ (จอย) ก็ได้พูดถึงนางฝน (คู่กรณี) ”ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฝนต้องการอะไร เราก็คบหากันมานาน ตอนแรกก็ตกลงกันแล้วว่าจะตบตีกันแบบตัวต่อตัว หลังจากนั้นก็จะขอโทษกันและกัน แต่ทำไมฝนถึงสั่งให้สามีมายิงครอบครัวของตน ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ กะจะเอาให้ถึงตายเลยหรอ“

 

ทางด้านนางสาวปิยมาศก็ได้เปิดหน้ากากอนามัยให้ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ดูร่องรอยบาดแผลจากการถูกนางฝนจิกตบและข่วนจนเป็นแผล นอกจากนี้นางสาวปิยมาศยังได้ส่งภาพบาดแผลและอาการของผู้บาดเจ็บแต่ละคนมาให้กับผู้สื่อข่าวอีกด้วย

 

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เข้าไปพูดคุยกับ นายวิเชียร อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพ่อของนายภาณุวัฒน์(อ๊อฟ) และนายวสันต์ (เล็ก) ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุยิงในเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยนายวิเชียรได้ยืนยันว่าชายทั้ง 2 คนที่ได้ก่อเหตุยิงเมื่อวานนี้เป็นลูกชายของตนจริง ซึ่ง ตนก็พอทราบมาว่าต้นเหตุในการขัดแย้งนั้นมาจากเรื่องค่าแชร์ ซึ่งเมื่อวานนี้ทางด้านลูกสะใภ้ก็ได้บอกให้นายวสันต์ลูกชายของตนพาไปเคลียร์กับคู่กรณี โดยที่เขานั้นได้ไปกันเพียงแค่สองคน แต่หลังจากนั้นทราบมาว่าทางด้านคู่กรณีนั้นพาพวกมาเยอะ ทำให้นายภาณุวัฒน์ที่เป็นน้องชายตามไปสมทบในภายหลัง ในความรู้สึกส่วนตัวของตน ตนมองว่าทางด้านลูกชายทั้งสองคนนั้นคงกังวลว่าจะสู้ฝ่ายตรงข้ามไม่ไหวเพราะฝ่ายตรงข้ามมากันเยอะ ลูกชายจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงไปยังกลุ่มของคู่กรณีเพื่อเอาตัวรอดหรือเปล่า เพราะหากเขาไม่ทำแบบนั้นก็คงจะเป็นเขาเองที่โดนรุม

 

ซึ่งนิสัยของลูกชายทั้งสองคนนั้นต้องยอมรับว่าเป็นคนที่ไม่ยอมใคร หากใครมาหาเรื่องก็จะสู้ไม่ถอย แต่ถ้าหากไม่ได้มีปัญหากันมาก่อน เขาก็จะไม่ไปหาเรื่องใครก่อน ส่วนวีรกรรมของลูกชายนั้นก็ยอมรับว่ามีอยู่บ้าง ในตอนวัยรุ่นเขาได้มีประวัติติดคุกในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด แต่หลังจากที่ออกจากคุกลูกชายก็ได้เปลี่ยนพฤติกรรมและไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นอีกเลย ทุกวันนี้ลูกชายก็ขยันทำงานช่วยเหลือพ่อตลอด ในส่วนของเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ตนก็เพิ่งมาทราบเมื่อช่วงค่ำหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาถึงที่บ้าน โดยตนก็ขอยืนยันว่าไม่รู้และไม่เห็นว่าลูกชายนั้นหลบหนีไปที่ไหน แต่หากลูกชายทั้งสองคนฟังอยู่ตอนนี้ก็อยากบอกว่า “กลับมามอบตัวเถอะ ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้ค่อยคุยกัน” นอกจากนี้นายวิเชียรยังฝากขอโทษครอบครัวผู้บาดเจ็บ โดยตนนั้นบอกว่าเข้าใจความรู้สึกของผู้บาดเจ็บ แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีหลังจากนี้

ศึกวงแชร์! ช่อง 8 เปิดคลิปตัวเต็ม นาทีท้าวแชร์โหดสาดกระสุนใส่คู่กรณีเจ็บ 7 หวิดดับยกครัว