จากกรณีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.พ.2567 เวลา 10:00 น.จากกรณีที่เพจ “กัน จอมพลัง” ได้โพสต์เอาไว้ว่า “พี่ชายร้องขอให้ผมช่วย น้องสาวถูกคลีนิคศัลยกรรม รักษาผิดพลาด ทำให้น้องสาว กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา นอนโรงพยาบาล มา 4 ปี คดีแพ่งศาลตัดสินให้คลีนิคกับตัวหมอชดใช้ รวม 29 ล้านบาท แต่คลีนิคกับหมอกับนิ่งเฉย ไม่มีการเยียวยาใดๆ ส่วนคดีความอาญา ยังไม่ส่งฟ้องศาล ตามอยู่หลายครั้ง เมื่อปีตั้งแต่ปี 62 ตอนนั้น ตำรวจบอกว่า รอแพทย์สภาให้คำตอบก่อน ก็รอมาเรื่อยๆให้เวลาตำรวจทำหน้าที่ จนมาถึงปี 65 แพทย์สภามีมติออกมาเรียบร้อย กลับไปตามคดี ตำรวจกลับบอกว่า ให้รอสอบสวนเพิ่มก่อน จนถึงปัจจุบันเรื่องยังอยู่ในชั้นสอบสวน ตัวพี่ชายจึงมองว่าคดีความมันล่าช้าเกินไป กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และครอบครัวต้องแบกหนี้ค่ารักษาประมาณ 10 ล้านบาท จึงร้องให้ผมช่วยสอบถามความคืบหน้าของคดี ผมรับปากช่วย”

พี่ชายของผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อเดือน มีนาคม 2562 ตอนส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าน้องสมองขาดออกซิเจน สมองไม่ตอบสนองและไม่สามารถรับรู้อะไรได้ ต้องนอนติดเตียงตลอดชีวิต เจาะคอให้อาหารทางสายยาง ต้องให้หมอทำกายภาพตลอด โดยตอนแรกเองคลินิกบอกจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้ พักหลังบอกว่าให้น้องสาวใช้สิทธิรักษาฟรี 30 บาท ซึ่งตนมองว่าไม่ควร และมองว่าคลินิกไม่รักษาเป็นรูปธรรมเลยมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ทางคลินิกเองตั้งแต่ศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ชดใช้ 29 ล้านบาท ก็ไม่มาดูแล และไม่ออกค่ารักษาแม้แต่บาทเดียว ซึ่งค่ารักษาน้องตกเดือนละ 3-4 แสนบาท ตอนนี้ไม่มีเงินจ่าย โรงพยาบาลก็ฟ้องเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท ตนสงสารน้อง ตอนนั้นอายุ 22 ปี และต้องนอนติดเตียงจากการรักษาผิดพลาด คำขอโทษสักคำก็ไม่มี เพราะทางคลินิกมองว่าไม่ผิด ส่วนก่อนหน้านี้มีการระบุว่าก่อนเข้าผ่าตัด น้องได้มีการกินอาหาร อีกทั้งมีการดื่มยาจีนด้วย แต่ไม่ได้แจ้งคลินิกว่ากินอาหารก่อนการผ่าตัด นั้นพี่ชายเผยว่า ผลเอกซเรย์ออกมาไม่เจออาหารในกระเพาะและหลอดลม หมอบอกเพียงว่ามีการให้ยาสลบเกินขนาด จนกดการหายใจ

นายกัณฐัศว์ หรือ กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า พี่ชายของผู้เสียหายประสานขอความช่วยเหลือมาทางตนขอให้ช่วยน้องสาว หลังทำศัลยกรรมและเกิดอาการช็อกคาเตียงที่คลินิก จากนั้นก็มีการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จนตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบ 5 ปี ทางครอบครัวพยายามต่อสู้หาความเป็นธรรมมาโดยตลอด เคยไปฟ้องแพ่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทางคลินิกเยียวยาเป็นเงิน 37 ล้านบาท หลังจากนั้นมีการยื่นอุทธรณ์ทั้ง 2 ฝ่าย ศาลตัดสินให้คลินิกเยียวยา 29 ล้านบาท แต่ทางคลินิกไม่ยอมจ่ายค่าเยียวยาดังกล่าวสักบาท และตอนนี้โรงพยาบาลที่น้องสาวรักษาตัวอยู่ฟ้องเรียกค่ารักษากว่า 30 ล้านบาท เพราะครอบครัวไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาที่ผ่านมา ครอบครัวลำบากมาก คลินิกไม่มาดูดำดูดี และทางคลินิกก็มีการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนชื่อหมอ แต่ทำอาชีพเดิม

ซึ่งวันนี้ก็ได้พาพี่ชายมาตามคดีอาญาที่ สน.สุทธิสาร เพราะคดีอยู่ สน.นี้มา 4 ปีกว่า ซึ่งได้ประสานกับ พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสารแล้ว และยื่นข้อมูลทุกอย่างให้แล้ว เพราะท่านเพิ่งมาใหม่ โดยในวันที่ 5 มีนาคม 2567 นี้ จะมีการเรียกคู่กรณีมาพูดคุย อีกทั้งตนยังได้ประสานไปยังนายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายประเทืองวิทย์ ดีใจ ผู้อำนวยการเขตดินแดง และนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาช่วยดูแลในเรื่องนี้ด้วย

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังซอยรัชดา 13 เพื่อมายัง คลินิกศัลยกรรมที่เป็นรักษาคนไข้พลาดจนทำให้ ผู้เสียหายชื่อน.ส.ชาญาฎา หรือ นิ้ง ซึ่งขณะนี้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ต้องนอนรักษาที่รพ.นานกว่า 4 ปี โดยเมื่อมาถึงพบว่าคลินิกดังกล่าวเปลี่ยนชื่อไปแล้ว ขณะเดียวกันก็ถูกปิดตัวลงไปแล้วอีกด้วย เนื่องจากสภาพนอกร้านมีสภาพทรุดโทรม รวมไปถึงมีการล็อกกุญแจไว้ข้างนอก แต่ทว่า จุดน่าสังเกตคือภายในคลินิกยังมีการเปิดไฟเอาไว้อยู่

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนางแพร นงเยาว์ อายุ 40 ปี เป็นเจ้าของร้านเสริมสวย ย่านรัชดา 13 ใกล้กับคลินิกที่เกิดเรื่องขึ้น โดยนางแพร ได้บอกกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ปกติตนก็เห็นคลินิกดังกล่าวปิดอยู่มานานมากแล้ว แต่เมื่อ 2-3 วันก่อน ตนเพิ่งเห็นว่ามีรถบรรทุกพร้อมคนงานเข้ามาขนของภายในคลินิก แต่ตนก็ไม่ได้สังเกตอะไรมากมาย

ซึ่งก่อนที่คลินิกดังกล่าวจะปิดตัวลง ก็ไม่ค่อยมีลูกค้าเข้าเลย ส่วน 4-5 ปีที่แล้ว ตนเองก็เคยมาใช้บริการฉีดโบท็อกที่คลินิกดังกล่าวมาครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนั้นทั้งผู้ช่วยและแพทย์เองก็ให้บริการดี ให้คำแนะนำดี ไม่มีปัญหาอะไรตามมาเลย และน่าจะเป็นเจ้าของเดียวกับที่ทำศัลยกรรมให้กับหญิงสาวจนพิการด้วย ซึ่งพอตนรู้เช่นนี้แล้วว่าคลินิกดังกล่าวมีปัญญาเช่นนี้ ตนก็ไม่เคยไปใช้บริการอีกเลย และสุดท้ายตนก็อยากฝากสาวๆที่อยากจะใช้บริการคลินิกเสริมความงามต่างๆ ขอให้ดูรีวิวหรือศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน ก่อนที่จะลงมือศัลยกรรม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม้คาดฝันเกิดขึ้นตามมา