จากกรณีตำรวจ สภ.ไชยวาน รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านโพนสูง พบว่ามีสาวประเภทสอง LGBTQ ถูกแฟนหนุ่มนำมาปล่อยทิ้งเอาไว้ข้างเมรุเผาศพ วัดป่ามงคลปัญญาคุณ บ้านโพนสูง ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เวลามืดค่ำแล้วกลัวจะเป็นอันตราย หลังรับแจ้งจึงเดินทางพร้อมตำรวจสายตรวจรุดไปยังวัดป่าฯ ทันที เพื่อช่วยเหลือ ล่าสุด (29 ก.พ. 2567) นายสมัย อายุ 34 ปี หรือน้องบี เดินทางกลับไปยังบ้าน ที่บ้านพังเม็ก ต.งิ้วด่อน อ.เมือง จ.สกลนคร แล้ว
จากกรณีตำรวจ สภ.ไชยวาน จ.อุดรธานี รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านโพนสูง ว่ามีสาวประเภทสอง LGBTQ ถูกแฟนหนุ่มนำมาปล่อยทิ้งเอาไว้ข้างเมรุเผาศพวัดป่ามงคลปัญญาคุณ บ้านโพนสูง ต.โพนสูง เวลามืดค่ำแล้วกลัวจะเป็นอันตราย หลังรับแจ้งจึงเดินทางพร้อมตำรวจสายตรวจรุดไปยังวัดป่าฯ ทันที
เมื่อไปถึงพบกับสาวสอง ทราบชื่อ นายสมัย อายุ 34 ปี หรือ น้องบี ชาวบ้านพังเม็ก ต.งิ้วด่อน อ.เมือง จ.อุดรธานี สะอื้นไห้ และบอกกับพี่ ๆ ตำรวจว่าถูกแฟนหนุ่มมาปล่อยทิ้งที่วัดป่าแห่งนี้ตั้งแต่เช้าจนถึงมืดค่ำ โดยแฟนหนุ่มชื่อ นายเก่ง ขี่รถจักรยานยนต์ของตนเองหนีไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย ต่อมาตร.จึงได้อาสาพาน้องบีมาส่งกับป้าติ๋มคนรู้จัก ที่บ้านหลังหนึ่งที่บ้านหนองคูพัฒนา ต.ไชยวาน เพื่อให้นอนที่ป้าติ๋มก่อน รอให้แฟนหนุ่มติดต่อกลับมาอีกครั้ง พร้อมกันนี้ ตำรวจก็บอกน้องบีว่า ต่อไปก็อย่าไปไว้วางใจใครให้มาก นี่ขี่รถมาไกลมากเพื่อมารับแฟนหนุ่ม แต่สุดท้ายแฟนหนุ่มมาปล่อยทิ้งที่วัดป่าแล้วหลบรถหนีไป หากให้ตำรวจช่วยอะไรก็บอกได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับน้องบี สาวสอง LGBTQ ชาว จ.สกลนคร ซึ่งพักอยู่บ้านป๋าติ๋ม น้องบี เปิดเผยว่า ตนเองทำงานเป็นเด็กปั๊มที่สกลนคร รู้จักกับนายเก่ง อายุ 29 ปี ชาว อ.กุดบาก จ.สกลนคร มาทำงานที่ จ.อุดรธานี ทั้งคู่คุยกันทางเฟซบุ๊กและติดต่อกันเรื่อยมา คุยกันได้สักพักแล้ว ยอมรับหนูก็ชอบเขา เพราะคุยกันแล้วถูกคอกัน นายเก่งบอกว่าอยากจะกลับบ้านที่ อ.กุดบาก ให้มารับหน่อย หนูก็เอาใจวัดใจและเพราะรักเขาด้วย จึงขี่รถจักรยานยนต์จากสกลนครมารับที่อุดรธานีเลย
ออกจากที่ทำงานตอนตี 2 วันที่ 27 ก.พ. พอมาถึงตอนแรกเขาบอกว่าทำงานที่ อ.หนองหาน พอตนขี่มาถึง อ.หนองหาน เขากลับบอกว่าอยู่ อ.เพ็ญ หนูก็ขี่ไปรับเขาถึงตัว อ.เพ็ญ ระยะทางกว่า 200 กม. จากบ้านที่สกลนคร ขากลับเขาบอกว่าจะขอแวะที่บ้านแฟนเก่าที่ อ.ไชยวาน คือบ้านป้าติ๋ม เพื่อมายืมเงินเติมน้ำมันกลับบ้าน แต่พอมาแล้วแฟนเก่าแต่งงานใหม่แล้ว เขาเลยพาขี่ไปที่วัดป่ามงคลคุณ บอกให้ตนเองรอที่เมรุเผาศพ จะไปยืมเงินเพื่อนอีกคน ตนเองก็เชื่อใจจึงลงจากรถรอเขาตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 6 โมงเย็นเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) เริ่มจะมืดค่ำแล้วไม่เห็นเขามาสักที หนูก็โทร. หาเขาและทักเฟซฯ เขาไป แต่สุดท้ายเขาก็ไม่มา หนูร้องไห้เลย มาทำกันได้ลงคอ อุตส่าห์ขี่รถมาไกลเพราะรักจะพากลับบ้าน แต่สุดท้ายมาปล่อยหนูทิ้งในวัดป่า และเชิดเอารถจักรยานยนต์หนูไป
ล่าสุด (29 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง นายสมัย หรือน้องบี อีกครั้ง เจ้าตัวบอกว่า ตอนนี้ตนสบายดีเดินทางกลับมาอยู่ที่บ้านที่จังหวัดสกลนครแล้ว และตนก็เพิ่งได้รถคืนมาบ่ายวันนี้ (29 ก.พ.) โดยหลังเกิดเหตุตนก็ได้พยายามติดต่อนายเก่งตั้งแต่เมื่อคืนจนกระทั่งวันนี้สามารถติดต่อได้ โดยนายเก่งบอกจุดที่เอารถไปจอดทิ้งไว้ในป่าช้า บ้านค้อใหญ่ ต.กุดไห อ.กุดบาก จังหวัดสกลนคร ได้เอารถมาคืน โดยเอาไปจอดที่ป่าช้าแห่งหนึ่ง เมื่อไปเอาก็พบว่ารถตัวเองไม่เหมือนเดิม มีการถอดอะไหล่ออกไปทั้งแบตเตอรี่รถ ที่เสียใจคือเครื่องสำอางที่เอาไว้ใต้เบาะก็เอาไปด้วย สำหรับรถคันนี้เป็นของพี่สาวที่แม่ซื้อต่อมาใช้ ตอนนี้ได้รถคืนแล้วก็รู้สึกสบายใจมานิดหน่อย แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บใจทำไมเอาไปอุปกรณ์แต่งหน้าตนไปด้วย
ทั้งนี้นายเก่ง ตอนนี้คิดว่าตอนนี้น่าจะอยู่ในจังหวัดสกลนครยังไม่ไปไหน คิดว่าน่าจะอยู่ที่บ้านบัว – บ้านค้อ อ.กุดบาก จังหวัดสกลนคร ยังไม่กลับมาทำงานที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนก็คงไม่เอาเรื่องเอาความแต่อย่างใด เพราะว่าตอนนี้ตนได้รถคืนแล้ว ไม่คิดว่าเพื่อนแบบนี้จะทำกับตนได้ เรื่องที่เกิดขึ้นคิดว่าเป็นความซวยของเรา หากนายเก่งฟังอยู่ก็อยากจะบอกว่าจากนี้ก็เราก็ควรเลิกกันไป ไม่ต้องมาคบกันอีกจะไม่เอาแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีแฟนใหม่ไหม น้องบี ตอบด้วยท่าทีอาการเขิน ว่า ก็จะหาคนคุยไปเไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพบคนที่ดีพอ
นายสมัย หรือน้องบี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากเกิดเหตุในคืนนั้นตนก็โทรศัพท์มาขอเงินค่ารถกับแม่ แล้วก็นั่งรถโดยสารกลับบ้านที่จังหวัดสกลนคร ซึ่ง 3 วันต่อมาฝ่ายชายเพิ่งติดต่อมาให้ให้ไปรับรถของตนที่ได้ยืมไป ส่วนสัมภาระที่พกติดตัวไปด้วยนั้นหายทั้งหมด
อีกทั้ง รถจักรยานยนต์ของตนมีรอยลักษณะคล้ายเฉี่ยวชนอีกด้วย แม้แต่กระทั่งแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ก็หาย สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพื่อนก็ไม่เคยเป็นแบบนี้สักคน ไม่เคยเจอใครมาทำแบบนี้กับตน เขาเป็นคนแรกที่ทำแบบนี้กับเรา สำหรับตนกับนายเก่งนั้นนาน ๆ ทีได้พูดคุยกันครั้ง พอได้กลับมาคุยก็ปลื้มด้วยความที่เขาเป็นคนน่ารัก หน้าตาดี จึงแอบปลื้ม ต่อมาเขาก็ทักเฟซบุ๊กมาพูดคุยด้วย
ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เจอกันในรอบหลายปี ถ้าถามว่าจะกลับไปพูดคุยกับเขาอีกไหม ตนคงไม่เอาอีกแล้วทำดีด้วยขนาดนี้และยังมาเอาของเราอีกให้ยืมแต่ของกลับไม่ได้คืน อยากฝากถึงนายเก่งว่าเจอที่ไหนก็ไม่เอาแล้ว หนูไม่ปลื้มนิสัยแบบนี้มันเกินไป ไปทำกับคนอื่นเถอะอย่ามาทำกับตนเลย หนูดีด้วยทุกอย่างแต่มาทำเลวแบบนี้หนูเสียใจ