เมื่อเวลา 00.30 น. (1มี.ค. 2567) ร.ต.อ.เตชินท์ กกไธสง รอง สว.(สอบสวน) รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 อุบลราชธานี มีเหตุทะเลาะวิวาทบริเวณถนนทางเข้าวัดบ้านวังใหม่ หมู่ที่ 9 ต.หนองแสงใหญ่ อ.โขงเจียม จว.อุบลราชธานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย จึงได้ประสานหน่วยกู้ชีพเข้ารับผู้บาดเจ็บ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมชุดสืบสวน พบชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองปิดล้อมที่เกิดเหตุ บริเวณทางเข้าวัดบ้านวังใหม่ พบร่างของผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อนายนพดล อายุ 47 ปี มือปืน นอนหงายศีรษะหันหัวเข้าไปบนผิวถนน ใกล้กันพบร่างนายประจักษ์ อายุ 49 ปี (เจ้าหน้าที่ ชรบ.) รักษาความปลอดภัย บนถนนภายในวัดพบร่างของนายพงศกร อายุ 30 ปี ถูกยิงเสียชีวิต มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิง 1 ราย คือนายทวี อายุ 28 ปี ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล




เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดล้อมจุดเกิดเหตุพบ ปลอกกระสุน 13 ปลอก เสร็จเศษโลหะ 2 ชิ้น ปลอกกระสุนปืนลูกซอง 2 ปลอก อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ จำนวน 1 กระบอก จึงได้ทำการเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีงานบุญประจำปีวัดบ้านวังใหม่ ต.หนองแสง อ.โขงเจียม ภายในงานมีหมอลำซิ่ง และมีการทะเลาะวิวาทกันอยู่หน้าลานเวที นายนพดลจึงได้เข้าไปห้ามแต่กลับถูกทำร้าย นายนพดลจึงได้กลับไปบ้านเพื่อเอาอาวุธปืนกลับมาแก้แค้น เมื่อมาถึงนายนพดลได้ใช้อาวุธปืน ยิงนายพงศกร นอนเสียชีวิตกลางถนนภายในวัด ส่วนนายทวีได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณทางออกวัดและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังจากที่นายนพดลยิงนายพงศกร และนายทวีแล้วได้ถูกเจ้าหน้าที่ ชรบ. ไล่ติดตามจับกุมจนมาการยิงปะทะกันกับนายประจักษ์ เจ้าหน้าที่ ชรบ. จนเสียชีวิตรวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย ผู้บาดเจ็บเบื้องต้นมีทั้งหมด 5 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ




ขณะที่ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดภายในงาน ช่วงเวลา 00.31 น. เป็นนาทีที่ได้ยินเสียงปืน 1 ครั้ง และมีเสียงชาวบ้านโวยวาย หลังจากนั้นได้ยินเสียงปืนติดต่อกันสิบกว่านัด และเห็นว่าตัวนายนพดลได้วิ่งเข้ามาหลบก่อนจะโดนยิงแล้วล้มลงไปนอน จากนั้นเจ้าตัวมีการโยนปืนที่ใช้ก่อเหตุออกไปจากตัว และได้นอนหงายก่อนที่วินาทีต่อมาจะเห็นว่ามีกระสุนยิงเข้าที่ศีรษะนายนพดลจนแน่นิ่งทันที และจะเห็นว่าลูกชายได้เข้ามาหาร่างของพ่อ และมีเสียงเจ้าหน้าที่ต่อว่าออกมาถึงความโหดเหี้ยมของนายนพดล




ด้าน พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัด ได้เข้าเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุเพื่อสรุปสาเหตุการยิงกันครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 คน หนึ่งในนี้เป็นผู้ก่อเหตุเองด้วย และได้รับบาดเจ็บจากลูกหลง 2 คน


พล.ต.ต.ประสงค์ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุมีการจัดงานบุญประจำปี และมีการขอกำลังจากฝ่ายปกครองเข้าดูแลรักษาความสงบ โดยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะคิดว่าคงรักษาความสงบได้ ระหว่างนั้นมีเหตุทะเลาะวิวาทที่หน้าเวทีหมอ เจ้าหน้าที่ ชรบ. และ อส. ร่วมทั้งนายนพดล ผู้ตาย ที่เป็นกรรมการหมู่บ้านได้เข้าระงับเหตุ แต่ผู้ตายถูกกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านทำร้าย ทำให้มีอารมณ์โมโหกลับบ้านไปเอาปืนพกสั้นขนาด 9 มม. แล้วมายิงกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุภายในงานจนเสียชีวิตไป 2 คน บาดเจ็บจากลูกหลงอีกส่วนหนึ่ง


ขณะที่มือปืนเดินหลบหนีออกจากวัดได้ประมาณ 100 เมตร ก็เกิดการยิงปะทะกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่เป็น ชรบ. และ อส. ที่จะเข้าจับกุมจน ชรบ. เสียชีวิต และตัวเองถูก อส. ใช้ปืนเอสเค 33 ยิงเข้าที่ขาได้รับบาดเจ็บ จึงตัดสินใจใช้ปืนจ่อยิงที่ศรีษะตัวเองเพื่อเป็นการฆ่าตัวตาย ในส่วนการฆ่าคนตายของนายนพดล คดีก็ได้ระงับเพราะผู้ก่อเหตุเสียชีวิตไปแล้ว แต่ในส่วนที่ อส. ใช้ปืนยิงที่ขาขณะเข้าระงับเหตุก็จะต้องถูกสอบสวนทำเกิดกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน สำหรับศพผู้เสียชีวิตรอการผ่าพิสูจน์ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตจากแผนกนิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อีกครั้ง




โดยวันนี้นอกจากตำรวจจะมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้ว ทางชุดสืบสวนยังได้เดินทางไปค้นบ้านของนายนพดลเพิ่มเติม ว่าจะมีอาวุธอยู่ในบ้านอีกหรือไม่ ซึ่งบรรยากาศในการเข้าไปค้นบ้าน ทางนางรัชนงค์ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายนพดล ได้มีการพาตำรวจขึ้นไปดูบนบ้านแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย


ซึ่งหลังจากตำรวจกลับไปแล้ว นางรัชนงค์ เปิดใจกับทีมข่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อคืนนี้ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุตนเองไปร่วมงานวัดกับสามีและลูกแต่กลับบ้านมาก่อน กระทั่งประมาณเที่ยงคืนก็เห็นสามีเดินกลับมาที่บ้าน ซึ่งตอนที่สามีเดินมาเอาปืนที่บ้าน ยืนยันว่าสามีไม่ได้บอกอะไรสักคำ


จนกระทั่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตนเองก็ย้อนกลับไปที่วัด ซึ่งภาพที่เห็นลูกชายกำลังนอนกอดศพพ่ออยู่และที่เสียใจที่สุด ทำไมเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ ถึงพากันยืนรุมด่าลูกว่า พ่อมึงทำไมโหดเหี้ยม ทั้ง ๆ ที่เด็กอายุไม่ถึง 18 ปี นอนจมกองเลือดอยู่กับพ่อของเขา




เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองเห็นกล้องวงจรปิดแล้ว จึงอยากขอความเป็นธรรมให้สามีว่าเขาไม่ได้ยิงตัวตาย เขาตั้งใจมอบตัว ทำไมถึงต้องยิงเขาด้วย ยืนยันสามีไม่มีวันฆ่าตัวตาย เพราะตอนเกิดเหตุเขามีสติ ถ้าไม่ถูกทำร้ายก่อน สามีไม่มีทางทำร้ายใครอย่างแน่นอน


ขณะที่ทีมข่าวได้รับคลิปในงานเมื่อคืนนี้ทั้งก่อนเกิดเหตุและขณะเกิดเหตุ จะเห็นว่าคลิปที่ 1 ซึ่งเป็นคลิปที่แม่ค้าในงานถ่ายเอาไว้ ก่อนเกิดเหตุที่วัยรุ่นตีกัน ยังคงได้ยินเสียงเพลงบนเวทีหมอลำซิ่งจัดขึ้นภายในวัด ส่วนคลิปที่ 2 จะเห็นว่าในขณะที่กลุ่มวัยรุ่นตีกัน เสียงเพลงจากเวทีหมอลำจะเงียบลง และจะเห็นว่ามีทั้งเด็กและผู้ใหญ่พากันวิ่งหนีกันออกมาจากหน้าเวทีหมอลำ ซึ่งแม่ค้าคนที่ถ่ายคลิป ยังบอกว่ามันโยนของใส่กัน เก็บของ ๆ แล้วก็บอกว่าตีกันอีกแล้ว






ส่วนคลิปที่ 3 จะเป็นนาทีที่ทางแม่ค้าถ่ายคลิปเอาไว้ขณะที่มีเหตุการณ์ไล่ยิงกัน ซึ่งจะได้ยินเสียงปืนดังในคลิปชุดแรกจำนวน 6 นัดติดต่อกัน ซึ่งเมื่อสิ้นเสียงปืน 6 นัด จะได้ยินเสียงแม่ค้าพูดกันว่าให้หมอบลงเสียงปืนของแท้ ดู ๆ ตำรวจถือปืนวิ่งไล่ไปทางนั้นและจะมีเสียงกรี๊ดดังเป็นระยะ


ส่วนคลิปที่ 4 จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในขณะที่แม่ค้าคุยกันอีก 1 นัด จากนั้นก็จะได้ยินเสียงแม่ค้าพูดว่าเจายิงกันอยู่ข้างหน้าวัด และกลาง ๆ คลิปก็จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 2 นัด และท้าย ๆ คลิปก็จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นติด ๆ กันอีกไม่ต่ำกว่า 10 นัด


ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุก็คือวัดบ้านวังใหม่ หมู่ 9 ต.หนองแสงใหญ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี โดยเมื่อเวลา 14.00 น. ทาง พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ได้นำกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อวัดระยะปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งจุดที่ 1 ที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปเก็บปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. เป็นจุดที่นายนพดล ผู้ก่อเหตุ ลั่นกระสุนปืนไปถูกร่างของนายทวี ผู้ตายจำนวน 7 ปลอก




ส่วนจุดที่ 2 เป็นจุดที่นายพงศกร ถูกยิงจะมีปลอกกระสุนปืนตกอยู่จำนวน 7 ปลอกขนาด 9 มม. และมีหัวกระสุนปืนติดอยู่ที่พื้นจำนวน 2 หัว ซึ่งจุดที่ 1 และจุดที่ 2 ที่เกิดเหตุจะอยู่ตรงซุ้มประตูทางเข้าออกของวัด และปลอกกระสุนปืนกระสุนปืนทั้งสองจุดจะอยู่ห่างกันประมาณ 10 เมตร


ส่วนจุดที่ 3 จะอยู่ห่างจากซุ้มประตูวัดออกไปประมาณ 50 เมตร พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ที่พื้น จำนวน 2 ปลอก ซึ่งจุดดังกล่าวจะอยู่ห่างจากศพของนายนพดล ผู้ก่อเหตุและศพของนายประจักษ์ ผู้ตาย ประมาณ 10 เมตร ซึ่งทั้งสองศพนี้ อยู่ห่างกันประมาณ 1 เมตร


ส่วนจุดที่ 4 จะเป็นจุดที่พบปลอกกระสุนปืนลูกซองจำนวน 2 ปลอกตกอยู่ห่างจากศพของนายนพดล ผู้ตายประมาณ 1 เมตร ส่วนจุดที่ 5 ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปพบปลอกกระสุน HK จำนวน 2 ปลอก ตกอยู่ห่างจากศพของนายนพดล และศพของนายประจักษ์ ประมาณ 2 เมตร ส่วนจุดที่ 6 จะอยู่ห่างจากซุ้มประตูวัดมาประมาณ 30 เมตร เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 ปลอก


นอกจากนี้ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดเพิ่มเติม ซึ่งเป็นกล้องของชาวบ้านที่ติดอยู่บริเวณหน้าปากทางเข้าวัด จะเห็นว่าในเวลา 00.09 น. ขณะที่เกิดเหตุยิงกันในวัด ฝูงรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านกว่าร้อยคันได้แตกฮือกันออกมาจากวัด พอมาถึงทางแยก ก็มีการเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขาวกลับไปที่บ้านของตัวเอง ซึ่งภาพมุมนี้จะไม่เห็นภาพหรือเสียงในเหตุการณ์ที่ยิงกันในวัด จากนั้นในเวลา 00.16 น. ก็จะเห็นว่าหลังจากรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านออกไปแล้ว จะมีรถกู้ชีพขับออกมา ซึ่งรถกู้ชีพดังกล่าวเป็นรถที่รับคนเจ็บและคนตายออกมาจากวัด




ขณะที่เรื่องของศพผู้เสียชีวิตทั้ง 4 วันนี้มีเพียงศพของนายทวี ที่ทางตำรวจได้อนุญาตให้รับศพกลับมาบำเพ็ญกุศล ซึ่งบรรยากาศในงานศพ ทางญาติได้รับศพกลับมาตั้งเอาไว้ที่วัดที่เกิดเหตุแต่ยังไม่มีพิธีสวดอภิธรรมในคืนนี้ ซึ่งจะมีเพียงญาติ ๆ นั่งคุยกันที่หน้าโรงศพเท่านั้น


นายสีทา อายุ 50 ปี เป็นพ่อของนายทวี บอกว่า ส่วนตัวที่เข้ามาร่วมงานวัด เนื่องจากเป็นกรรมการในงานดังกล่าว ส่วนลูกชายก็มาร่วมงานวัดเหมือนกับชาวบ้านทั่วไป และยืนยันว่าลูกชายไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่วัยรุ่นตีกัน แต่ลูกชายถูกลูกหลงในขณะที่กำลังเดินไปที่รถ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นก็ยอมรับว่าเสียใจ แต่ส่วนตัวในฐานะที่เป็นเพื่อนกับนายนพดล ก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไรเขา จึงขออโหสิกรรมให้กับนายนพดล เพราะเขาก็รับกรรมในสิ่งที่ทำลงไปแล้ว


ส่วนศพของนายพงศกร วันนี้ทางญาติได้นำโลงเย็นมาตั้งรอเอาไว้ที่วัดสว่างคงคา แต่ยังไม่ได้รับศพกลับมาบำเพ็ญกุศล เนื่องจากตำรวจต้องนำศพไปชันสูตรอย่างละเอียด ก่อนที่จะให้ญาติไปรับศพในวันพรุ่งนี้ ซึ่งบรรยากาศที่วัดก็จะมีทางญาติ ๆ และชาวบ้านเข้ามานั่งคุยกันที่หน้าโลงเย็น




นางสาวอรนันต์ อายุ 30 ปี ภรรยาของนายพงศกร บอกว่า เมื่อวานนี้ตนเองยอมรับว่าสามีก็พาไปที่งานวัดดังกล่าว แต่ก่อนจะเกิดเหตุสามีได้ขับรถมาส่งที่บ้านแล้วก็ย้อนกลับไปที่วัด โดยบอกกับตนเองว่าเป็นห่วงน้องน้องในหมู่บ้าน จึงต้องย้อนกลับไปดูน้อง ๆ จนกระทั่งประมาณเที่ยงคืนน้องในหมู่บ้านก็โทรศัพท์มาบอกว่าให้ทำใจนะ ซึ่งยอมรับว่าตกใจมาก เพราะสามีพูดเป็นลางว่า คืนนี้ยังไงก็ต้องมีคนตาย


ซึ่งยอมรับว่าเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะลูกวัย 4 เดือน กับลูกวัย 3 ขวบ ต้องมากำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเล็ก ที่สำคัญสามีก็เป็นเสาหลักของครอบครัว หลังจากนี้ไม่รู้จะอยู่ยังไงต่อไป ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองมั่นใจว่าสามีถูกนายนพดลตั้งใจยิง เนื่องจากบาดแผลที่พบสามีถูก กระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณด้านหลัง


ขณะเดียวกันวันนี้หลังตำรวจสอบปากคำน้องริวเสร็จแล้ว ทีมข่าวได้มีโอกาสเจอกับเจ้าตัว ซึ่งน้องริว (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ลูกชายของนายนพดล เปิดใจกับทีมข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเดินเล่นอยู่ในวัด กระทั่งตอนที่วัยรุ่นตีกันหน้าเวทีหมอลำ ก็เห็นพ่อเดินเข้าไปห้ามกลุ่มวัยรุ่น แต่ปรากฏว่าในระหว่างที่พ่อเข้าไปห้าม กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้พยายามใช้ไม้ตีศีรษะของพ่อ พ่อจึงเดินถอยออกมา แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่หยุด พยายามถือไม้วิ่งมาตีพ่อรอบที่สอง




จนกระทั่งตนเองเห็นท่าไม่ดีก็เลยเดินเข้าไปห้ามพ่อ แล้วก็บอกให้น้าพาพ่อกลับไปที่บ้าน จากนั้นพ่อก็เดินกลับไปเอาปืนที่บ้านและพ่อก็เดินกลับมาถึงวัด ตนก็เห็นพ่อยิงปืนขึ้นฟ้า จากนั้นพ่อก็วิ่งตามหาคนที่ใช้ไม้ตีหัวพ่อ กระทั่งไปเจอกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวกำลังขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากวัด พ่อก็เลยยิงเข้าใส่ ตอนนั้นยืนยันว่าไม่เห็นว่าพ่อยิงใครบ้าง เพราะมันชุลมุนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร จนกระทั่งเมื่อพ่อเดินออกไปพ้นซุ้มประตูวัดก็ได้ยินเสียงปืนยิงสู้กัน ยอมรับว่าทำใจไว้แล้วว่าพ่อต้องถูกยิง หลังเกิดเหตุจึงเดินไปที่ร่างของพ่อ พอเห็นว่าพ่อยังหายใจอยู่ก็เลยพยายามปั๊มหัวใจให้พ่อแต่ก็ไม่เป็นผล พ่อเสียชีวิตคามือตนเองทั้งที่พ่อนอนตาค้างอยู่ หลังจากพ่อสิ้นใจตนก็เอามือไปปิดตาพ่อ


ส่วนประเด็นที่แม่และเจ้าของกล้องวงจรปิด บอกว่า มีคนมายืนด่าตนเองกับพ่อ ยอมรับว่าเป็นความจริง แต่ไม่ระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่หรือเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่พ่อไล่ยิง ซึ่งเข้าใจว่าทุกคนอยู่ในความโกรธจึงรุมด่าพ่อ จึงพูดกับพ่อว่ามึงสมควรตาย แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองยืนยันว่า พ่อไม่ได้ยิงตัวตาย เพราะเสียงปืนนัดสุดท้ายดังขึ้นในขณะที่พ่อนอนอยู่ตรงพื้น และความเป็นจริงส่วนตัวในฐานะที่เป็นลูก ขอยืนยันว่าถึงพ่อจะฆ่าคนตาย พ่อก็ไม่มีวันยิงตัวเองตายตามอย่างแน่นอน ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นพ่อผิดเต็ม ๆ แต่ถ้าพ่อไม่ถูกทำร้ายก่อนพ่อไม่มีวันที่จะไปไล่ฆ่าใครอย่างแน่นอน จึงอยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หนุ่มยิงถล่มงานบุญตาย 3 ก่อนปลิดชีพตาม ญาติเจอความจริง ถูกมือมืดเป่ากบาลดับ